วันนี้ (4 เม.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อเวลา 10.30 น. นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
กล่าวถึงการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า การโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ มีข้อเสนอที่ชัดเจนขึ้นคือ ต้องการยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 2550 และใช้รัฐธรรมนูญปี 2540 แทน ซึ่งตนไม่เห็นข้อแตกต่างในสาระสำคัญของรัฐธรรมนูญทั้ง 2 ฉบับ แต่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการใช้รัฐธรรมนูญปี 2540 เป็นเพราะเป็นรัฐธรรมนูญที่เปิดโอกาสให้พ.ต.ท.ทักษิณ โกงได้มากที่สุด รวมทั้งเปิดโอกาสให้แทรกแซงองค์กรอิสระรวมถึง ส.ว. และวิธีการเลือกตั้งได้มากที่สุด รวมทั้งสาเหตุที่ไม่ต้องการใช้รัฐธรรมนูญปี 2550 เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่สามารถช่วยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ หลุดคดีได้
นอกจากนี้ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเพิ่มว่า การที่พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่า รัฐบาลชุดนี้มีนโยบายการศึกษาที่ล้มเหลวนั้น ตนอยากให้ย้อนกลับไปดูว่าความล้มเหลวเกิดขึ้นในสมัยใด
เพราะในสมัยรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ถือเป็นช่วงที่การศึกษาตกต่ำที่สุด รวมทั้งมีการโกงเกรดที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และโกงข้อสอบที่มหาวิทยาลัย รามคำแหง และยังเห็นได้ชัดว่า 6 ปีของการบริหารในรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ใช้ รมว.ศึกษาธิการถึง 8 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วย จึงอยากถามว่า เหตุใดจึงไม่ใช้เวลาช่วงนั้นในการปฏิรูปการศึกษา ซึ่งคำตอบคือ พ.ต.ท.ทักษิณ มีทัศนคติคือ คนโง่ปกครองง่าย
เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อเท็จจริง ซึ่งตามที่พรรคประชาธิปัตย์ได้รับรายงานว่า มีคนเห็นพ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ในประเทศกัมพูชาจริง รวมทั้งมีที่พักอยู่ใกล้บ้านสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงการต่างประเทศของไทยได้สอบถามไปยังเอกอัครราชทูตไทยในกัมพูชาให้หาข้อเท็จจริงแล้ว
“รัฐบาลกัมพูชาควรจะให้ข้อมูลที่ชัดเจนและตรงไปตรงมาในเรื่องนี้กับประเทศไทย เพราะหากปิดที่อยู่อาจจะส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และอยากให้รัฐบาลกัมพูชาประกาศท่าทีที่ชัดเจนเหมือนกับรัฐบาลประเทศลาว ที่ประกาศว่าจะไม่ให้พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าประเทศ และจะไม่ยอมให้ประเทศตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง” โฆษกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว