ปลุกผี 111 รับไม้ เสื้อแดง รุ่น 2

"คนเสื้อแดง" ชุมนุมปิดล้อม "ทำเนียบรัฐบาล" ยืดเยื้อมากว่า 8 วัน แต่ดัชนีความเป็นไปได้ที่ " เสื้อแดง" จะโค่นล้ม "รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" นั้นยังคงทรงตัว

ซ้ำร้าย ปลายเข็ม ของเครื่องชี้วัดผลสัมฤทธิ์ การชุมนุมยังค่อนมาในทิศทางที่ "เสื้อแดง" อาจจะเป็นฝ่ายต้องอ่อนกำลังลงในท้ายที่สุด

แม้ "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อยู่แดนไกลจะงัด "ไม้ตาย" ออกมาใช้เผด็จศึก ด้วยการเปิดเผยตัวตน "ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ" และ "องคมนตรี" บางคนที่ไปจับมือนักกฎหมายอีกหลายคน เพื่อล้มล้าง "รัฐบาลไทยรักไทย"...

ไปจนถึงซีรีส์เบื้องหลัง เหตุรัฐประหาร "19 กันยาน 2549" เปิดฉาก "ศึกเสื้อสี" เพื่อปลุกให้ "กองทัพสีแดง" คึกคักในสงครามครั้งสุดท้าย

แต่ผิดคาด เพราะไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน ขณะนี้ก็ยังทำได้เพียงแค่การปลุกกระแส ให้พูดกัน "ปาก" ต่อ "ปาก" เพื่อความสนุกสนามในอารมณ์ มากกว่าจะสั่นคลอนให้ "รัฐบาลอภิสิทธิ์" ได้

จึงไม่แปลกที่ "ฝ่ายรัฐ" จะวางเฉย และปล่อยให้กลุ่มเสื้อแดงชุมนุมต่อไปสักระยะ

เพราะอ่านแล้วว่า "หมากสุดท้าย" ของ "ทักษิณ" นั้นไม่ได้ส่งผลกระทบกับเสถียรภาพ ได้เท่ากับที่ "ฝ่ายตรงข้าม" ตั้งเป้าหมายเอาไว้

และสถานการณ์น่าจะทุเลาบาบางลงหลัง "สงกรานต์"

ยิ่งช่วงหลังสภาพอากาศยิ่งไม่เอื้อกับการต่อสู้กลางแดด ทำให้อาการ "ม็อบเสื้อแดง" ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ เพราะผู้ร่วมชุมนุมร่อยหรอลงทุกวันๆ เนื่องจากแกนนำไม่สามารถสรรหาความแปลกใหม่มาสู้กับเปลวแดดที่แผดเผาได้

แม้แต่ "วิดีโอลิงก์" จากแดนไกลของ "พ.ต.ท.ทักษิณ" ที่เคยสร้างความสั่นสะเทือนได้ทุกครั้ง ในช่วงแรก แต่ช่วงหลังก็กร่อยลงอย่างเห็นได้ชัด

จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรับทัพ "เสื้อแดง" ใหม่ เพื่อให้สามารถยืนระยะต่อไปได้อีกน้ำ ด้วยการปรับกลยุทธ์บางอย่างมาใช้อย่างเร่งด่วน เพื่อช่วยตรึงกำลังเสื้อแดงก่อนจะมอดหายไปกับกระแสสังคม ที่ " ฝ่ายรัฐบาล" พยายามโหมให้ "ยุติศึกใน" เพื่อรับมือ "วิกฤตเศรษฐกิจ"

ซึ่งการเร่งระดม "111" อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และ "37" กรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน ให้มาช่วยขัดตาทัพ ตามประกาศิต "พ.ต.ท.ทักษิณ" ที่ได้พูดไว้ในการปราศรัยผ่าน " วิดีโอลิงก์" กับผู้ชุมนุมเสื้อแดงที่ทำเนียบรัฐบาล นั้นจึงมองได้ว่าเป็นการก้าวขึ้นมายืนแถวหน้า เพื่อช่วยต่อลมหายใจ "เสื้อแดง" เพื่อเพิ่ม "ตัวละคร" บนเวทีการชุมนุมให้แปลกตาไปกว่าเดิม

โดยช่วงหลัง บนเวทีที่วนเวียนอยู่กับ "สามเกลอ" "วีระ (มุสิกพงศ์) ณัฐวุฒิ (ใสยเกื้อ) และ จตุพร (พรหมพันธุ์)" นั้นได้พิสูจน์แล้วว่าไม่สามารถดึงดูดความสนใจจากสังคม และสร้างแรงกระเพื่อมให้กับ " ฝ่ายตรงข้าม" ได้ในระดับที่ "นายใหญ่" พอใจ

และหากปล่อยให้ "สามเกลอ" คุมทัพไปเพียงลำพังก็คงทำอะไรได้ไม่มากไปกว่าการตอบโต้กับ "ฟากรัฐบาล" ให้ผ่านไปรายวันเท่านั้น

และจะไม่ได้อะไรนอกไปจากการสร้างความเบื่อหน่ายให้กับประชาชนมากขึ้นๆ และสุดท้ายอาจต้องจบสิ้นกระบวนการเสื้อแดงไปก่อนเวลาอันสมควร

ซึ่งการเพิ่มตัวละครบนเวทีชุมนุม นอกจากเป็นการสร้างความคึกคักด้วยบุคคลที่แปลกใหม่แล้ว ยังเป็นการต่ออายุ "กองทัพเสื้อแดง" ไปพร้อมๆ กันและการอาศัย "บุคคลระดับแกนนำ" อย่าง "สมชาย วงศ์สวัสดิ์" อดีตนายกรัฐมนตรี "สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์" อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย "เยาวภา วงศ์สวัสดิ์" หัวหน้ากลุ่มวังบัวบาน "จาตุรนต์ ฉายแสง" อดีตหัวหน้ากลุ่มไทยรักไทย หรือแม้แต่ " นพดล ปัทมะ" อดีต รมว.ต่างประเทศ ก็ย่อมปฏิเสธไม่ได้ว่า ราคาค่างวดนั้นพอที่จะเรียก "สายตา" ของ "สังคม" ได้มากกว่า "สามเกลอ" หลายขุม

ที่สำคัญคือถ้า "เสื้อแดง" ผิดพลาดพลั้งไปวันใด ก็เป็นไปได้สูงที่ "111" อาจจะต้องก้าวขึ้นมาเป็น "ไม้สอง" เพื่อ "คุมทัพ" ได้แทนทุกเมื่อ

และวันนี้ "ทักษิณ" และ "เสื้อแดง" น่าจะมองไปไกลกว่า "วันเผด็จศึก 8 เมษายน" แล้ว

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์