เนวินทาบเหนาะผนึกกำลังแก้วิกฤติ

รองปลัด ยธ.เผย ส่งหนังสือนัด"เหลิม"แจงสำนวนคดีเงินบริจาค 258 ล้าน รั่วจาก"ดีเอสไอ"หรือไม่ ด้าน"รมว.ยุติธรรม"มองต่างมุม อ้างเชิญคนนอกมาสอบไม่มีประโยชน์ ออกตัวไม่เข้าไปก้าวก่าย ด้าน “เพื่อไทย” ฟุ้ง ล่าชื่อ ส.ส. ถอด “เทพเทือก” ครบแล้ว รอเคาะวันยื่นเท่านั้น ส่วน “บิ๊กป๊อก” รอศึกษาข้อ ก.ม. ไม่เกินสัปดาห์หน้าเป็นรายต่อไป โวย “กกต.”  อย่าทำตัว 2 มาตรฐาน ฟาก “เนวิน” รุกทาบ “เหนาะ” ผนึกกำลัง ส่วน “เหนาะ” ไม่ปัดไมตรี ฝ่าย “พผ.” ดิ้นสู้คดียุบพรรค ขณะนี้ “กษิต” ยัน “ฮุนเซน” เข้าใจคำพูดแล้ว
 
เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ที่กระทรวงยุติธรรม นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีสำนวนคดีเงินบริจาค 258 ล้านบาทของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่า คำสั่งแต่งตั้งของนายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงฯ ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าข้อมูลรั่วหรือไม่เท่านั้น ไม่มีการเสนอให้เปลี่ยนแปลงพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด ทั้งนี้กระทรวงยุติธรรมได้ทำหนังสือถึง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย เพื่อนัดวันมาให้ข้อมูลกับคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง
 
ขณะเดียวกันนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ว่า การตรวจสอบเรื่องดังกล่าวไม่จำเป็นเรียกคนนอก เช่น ร.ต.อ.เฉลิม หรือ พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร อดีตประธานวุฒิ สภา มาสอบถามแต่อย่างใด เพราะเป็นการตรวจสอบภายในว่าสำนวนรั่วหรือไม่ ซึ่งไม่ใช่เรื่องยาก ตนไม่เห็นว่าการเชิญคนนอกมาสอบจะได้ประโยชน์ แต่คงไม่ต้องไปบอกคณะกรรมการฯ เพราะไม่ต้องการเข้าไปก้าวก่าย  
 
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยยื่นถอดถอนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ที่ทำหน้าที่ประธาน การประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ว่า คิดว่าไม่ผิด เพราะรัฐบาลที่ผ่านมาก็ทำเช่นนี้ ฝ่ายค้านทำงานแบบสะเปะสะปะ ต้องการทำให้เรื่องปกติเป็นประเด็นทางการเมือง เพื่อแย่งชิงพื้นที่ข่าว และ กมธ.ตำรวจ คงไม่ตรวจสอบเรื่อง นี้ เพราะการประชุม ก.ตร. เป็นหน้าที่ฝ่ายบริหาร และไม่เกี่ยวข้องกับกิจการตำรวจ
 
ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าในการรวบรวมรายชื่อยื่นถอดถอนนายสุเทพ รวมถึงถอดถอนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ในฐานะผู้มอบหมายให้นายสุเทพไปประชุม ก.ตร. ว่า ขณะนี้รวบรวมรายชื่อ ส.ส.ครบ 1 ใน 4 หรือ 116 คนตามรัฐธรรมนูญกำหนดแล้ว วันที่ 2 เม.ย. จะหารือกับประธานวิปฝ่ายค้านก่อนนัดเวลายื่นต่อประธานวุฒิสภาต่อไป ส่วนการยื่นถอดถอน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. กรณี ไม่ดำเนินการใด ๆ กับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และการนำ ผบ.เหล่าทัพ ออก มาเรียกร้องให้นายกฯ ลาออกนั้น ฝ่ายกฎหมาย กำลังศึกษาข้อกฎหมายอยู่ หากทำได้ก็จะดำเนินการในสัปดาห์หน้า
 
โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวด้วยว่า ขอเรียกร้องไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง ซึ่งตามกำหนดในวันที่ 28 มี.ค. จะต้องแจ้งผลว่าจะรับพิจารณา กรณีพรรคเพื่อไทยขอให้ตรวจสอบกรณีนาย  บุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย แจกเงินสงเคราะห์พร้อมแนบนามบัตรที่ จ.นครราชสีมา หรือไม่ แต่ปรากฏว่า กกต.ขอเลื่อน ทำให้เกิดความสงสัยว่า กกต. มี 2 มาตรฐานหรือไม่
 
วันเดียวกัน ที่ จ.สระแก้ว นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช จัดงานเนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบ 75 ปี ที่บ้านพักใน อ.วัฒนานคร บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน มาร่วมอวยพรคับคั่ง โดยมีแกนนำพรรคภูมิใจไทย นำโดย นายเนวิน ชิดชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายสรอรรถ กลิ่นประทุม นายทรงศักดิ์ ทองศรี นายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ นายทศพล สังขทรัพย์ มาร่วมอวยพร พร้อมทั้งเชิญนายเสนาะ และนางอุไรวรรณ เทียนทอง ให้ไปร่วมพิธีเปิดที่ทำการพรรคภูมิใจไทยในวันที่ 6 เม.ย. นี้ด้วย อย่างไรก็ตามเป็นที่น่า สังเกตว่าไม่มี ส.ส. และแกนนำพรรคเพื่อไทย มาร่วมอวยพรวันเกิดนายเสนาะด้วยแต่อย่างใด
 
นายเนวิน กล่าวว่า เป็นตัวแทนของนายชัย ชิดชอบ และนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย มาร่วมอวยพรอาเหนาะ ขอให้สุขภาพแข็งแรง เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้กับลูกหลาน และประเทศชาติต่อไป  
 
ขณะที่นายเสนาะ กล่าวตอบว่า คนไทย เห็นประเทศบ้านพี่เมืองน้อง ฆ่ากัน ล้มล้างสถาบัน เพราะฉะนั้นพวกหลาน ๆ ที่จะทำให้บ้านเมืองไม่ถูกไม่ต้อง ก็ขอให้มีความสำนึกว่า ตนจะทำทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ให้กระทบถึงลูกถึงหลาน ตนมีจิตบริสุทธิ์คิดด้วยความถูกต้อง   ขอให้พวกเรากลับไปคิดเป็นการบ้าน เพราะไม่มี     ใครที่จะทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยได้ ถ้าพวกเราจับมือกันหันหน้าเข้าหากัน นั่นคือสิ่งที่เราจะทำเป็นประวัติศาสตร์ให้ประเทศชาติบ้านเมือง อะไรที่มันไม่ถูกต้อง มันไม่จีรัง “เรา    จะต้องเอาเลือดที่แท้จริงมาผสมกับเลือดไม่แท้
พูดแค่นี้ก็คงจะรู้เรื่อง อย่าไปทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง ขอให้ยึดถืออนาคตของประเทศชาติไว้ ขอให้ช่วยกันคิดแล้วหันหน้าเข้ามาคุยกัน เอาบ้านเมืองไว้”
 
นายเสนาะ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ตอนนี้ไม่มีใครที่จะทำให้ประเทศชาติ หันหน้าเข้ามาสามัคคีกันได้ นอกจากสภาอันทรงเกียรติ อยากขอให้หันหน้าเข้ามาหากัน อย่าเอาเรื่อง ส่วนตัวมาออกหน้า ต้องเอาเรื่องส่วนรวม ถ้า ปล่อยทิ้งไว้ตนฟันธงได้เลยว่า บ้านเมืองจะเกิดความเสียหาย และทุกคนจะต้องเสียใจในที่สุด
 
เมื่อถามว่า แนวทางรัฐบาลเพื่อชาติที่เคยเสนอมาก่อนหน้านี้จะแก้ปัญหาได้หรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวว่า วันนี้เลยจุดนั้น  มาแล้ว แต่ยังไม่สายที่จะสามารถทำได้ หรือถ้าใครคิดว่ามีอะไรที่ดีกว่านี้ก็เสนอเข้ามาต่อข้อถามว่า ต้องให้ในหลวงลงมาแก้ปัญหาหรือไม่ นายเสนาะ กล่าวว่า ขึ้นอยู่ที่พระราชวินิจฉัย เมื่อถามย้ำว่า หากมีการตั้งรัฐบาลเพื่อชาติ จะขอร้องให้ป๋าเหนาะรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นายเสนาะ กล่าวว่า “ที่จริงผมระวางตัวเองไปแล้ว เอาไว้เมื่อ หันหน้าเข้าหากัน อะไรที่ดีที่สุดก็เอาตรงนั้นเพื่อให้บ้านเมืองสงบสุข เอาไว้ให้ถึงวันนั้นก่อนแล้วค่อยมาว่ากัน”
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่นายเนวิน เข้ามาอวยพร เป็นการส่งสัญญาณที่จะรวมพรรคกันหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวว่า ตนยืนอยู่บนความถูกต้อง อันไหนถูกต้องก็จะยึดตรงนั้น นายเนวินเหมือนลูกหลานอยู่กันมานาน รายงานข่าวแจ้งว่า นายเนวินได้ติดต่อทาบทามให้นายเสนาะนำพรรคประชาราชมาเป็นพันธมิตรกับพรรค ภูมิใจไทยเพื่อให้กลายเป็นกลุ่มการเมืองใหม่
 
อีกด้านหนึ่ง นายเฉลิมชัย ตันติวงศ์ ผอ.พรรคเพื่อแผ่นดิน เปิดเผยว่า วันที่ 30 มี.ค. ที่ผ่านมา นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ได้ทำหนังสือถึงนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อชี้แจงกรณีนายนพดล พลซื่อ อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อแผ่นดิน ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนั้น ไม่มีผลเกี่ยวข้องต่อการยุบพรรคเพื่อแผ่นดิน
 
ผอ.พรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวต่อว่า นายนพดลสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อแผ่นดินเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2550 โดยขณะนั้นยังรับราชการเป็นปลัดอำเภอโพนทอง จ.ร้อยเอ็ด และได้ลาออกจากราชการเมื่อวันที่ 9 พ.ย. ต่อมาวันที่ 19 ธ.ค. นายทะเบียนพรรคการเมืองมีหนังสือตอบรับการเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรค โดยนายนพดลเป็นกรรมการบริหารพรรคในตำแหน่งรองเลขาธิการพรรค แต่ข้อเท็จจริงศาลฎีกาฯ วินิจฉัยว่านายนพดลกระทำความผิดในวันที่ 28 ต.ค. ซึ่งขณะนั้นยังไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค เพราะยังรับราชการอยู่ จึงถือว่านายนพดลเป็นกรรมการบริหารพรรคหลังเกิดเหตุกระทำความผิด และเป็นความผิดเฉพาะตัว พรรคเพื่อแผ่นดินไม่ได้มีส่วนรู้เห็นหรือปล่อยปละละเลย จึงไม่เข้าเกณฑ์ที่จะต้องถูกยุบพรรคตามรัฐธรรมนูญปี 2550 มาตรา 237
 
อีกเรื่องหนึ่ง นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กรณีสมเด็จฮุนเซน นายกฯ กัมพูชา เข้าใจผิดเกี่ยวกับคำพูดของนาย   กษิตว่า คงไม่ต้องชี้แจง เนื่องจากสมเด็จฮุนเซนทราบแล้วว่าเป็นการแปลคำผิด และสิ่งที่ถูกต้องเป็นอย่างไร อย่างไรก็ตาม ตนมีความชื่นชมสมเด็จฮุนเซนเป็นอย่างยิ่ง ส่วนปัญหาตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณเขาพระวิหารนั้น ทางทหารกำลังพูดจากันอยู่
 
ที่สำนักงาน กกต. นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. แถลงว่า กกต. มีมติให้อนุกรรมการวินิจฉัยเรื่องร้องคัดค้านและข้อโต้แย้งพิจารณาเรื่องที่นายพิชา วิจิตรศิลป์ ประธานชมรมกฎหมายภิวัฒน์และเครือข่าย ร้องขอให้ กกต. ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ มีหนังสือถึง รมว.วัฒน ธรรมว่าจะจัดส่ง ส.ส. 19 คน ของพรรคประชาธิปัตย์ ไปปฏิบัติหน้าที่ที่กระทรวงวัฒนธรรม ถือว่าเป็นการใช้สถานะก้าวก่ายหรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเองและพรรคการเมือง ซึ่งเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลง โดยให้อนุ กรรมการฯ พิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับคำสั่ง
 
เลขาธิการ กกต. กล่าวอีกว่า กกต. ยังมีมติให้ส่งประเด็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับการถือครองหุ้นตามมาตรา 265, 267 ให้คณะที่ปรึกษากฎหมายของ กกต. พิจารณาเสนอความเห็นมาให้ กกต. ภายใน 15 วัน ตามที่อนุกรรมการสอบสวนกรณี ส.ว. ถือครองหุ้นร้องขอ นอกจากนี้ กกต. มีมติขยายเวลาการสอบสวนกรณี ส.ส.พรรคเพื่อไทยร้องว่านายสาย กังกเวคิน ส.ว. ระยอง กับพวกรวม 22 คน ใช้ตำแหน่งหน้าที่แทรกแซงการทำงานของข้าราชการ ด้วยการมีหนังสือถึงอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เพื่อให้พิจารณาการถ่ายทอดรายการ “ความจริงวันนี้” โดย กกต. ได้ขยายเวลาเป็นครั้งที่ 3 เป็นเวลา 10 วัน และจะครบกำหนดในวันที่ 10 เม.ย. นี้
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 31 มี.ค. ที่ผ่านมา ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย ได้เกิดอาการหน้ามืดช็อกจนหมดสติ ครอบครัวจึงได้นำตัวเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลจุฬาฯ โดยแพทย์ได้ส่งเข้าห้องไอซียู และหลังจากอาการดีขึ้นจึงได้ให้มาพักรักษาตัวดูอาการที่ห้องซีซียู แต่แพทย์ยังไม่อนุญาตให้เยี่ยม.