สุเทพยัน รบ. ไม่ได้ปิดกั้น

(2เม.ย.) ที่ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า ถ.รามคำแหง 127 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า ถึงกรณีที่ทางกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงยังไม่ยอมเปิดทางเข้า-ออกให้ข้าราชการนำรถผ่านเข้าไปในทำเนียบรัฐบาลได้ตามคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลแพ่ง ว่า ตนถือโอกาสนี้เรียกร้องผู้ชุมนุมโปรดเคารพกฎหมาย บ้านเมืองเรามีขื่อมีแป มีกฎเกณฑ์กติกา ฝ่ายรัฐบาลก็ได้ใช้ความระมัดระวัง ความอดทน อดกลั้นอย่างถึงที่สุดแล้ว จะเห็นว่ารัฐบาลไม่ได้ไปข่มเหงรังแกหรือยั่วยุท้าทายใดๆทั้งสิ้น เราอดทนอดกลั้น แต่การชุมนุมที่มีการปิดล้อม และบังคับบุคคลที่จะผ่านเข้าไปทำงานในทำเนียบรัฐบาลทั้งข้าราชการและเจ้าหน้าที่ รวมทั้งรัฐมนตรี ต้องลงเดินและยอมให้ตรวจค้น

 “มันเป็นการคุกคาม เป็นการล่วงละเมิดสิทธิบุคคลอื่น ไม่ใช่การชุมนุมที่สงบตามปกติ ทำเนียบรัฐบาลมีถนนล้อมอยู่ทั้ง 4 ด้าน ก็สามารถชุมนุมตั้งเวทีได้ทั้ง 3 ด้านอยู่แล้ว รัฐบาลไม่ได้ว่าอะไร แต่ก็ต้องขอซักเส้นทาง หรือประตูหนึ่งเพื่อให้คนได้เข้า-ออกได้ โดยไม่รู้สึกถูกกดดัน ถูกบีบคั้น เมื่อศาลมีคำสั่งออกมาแล้วก็ขอให้ผู้ชุมนุมเคารพในคำสั่งของศาลด้วย” นายสุเทพ กล่าว

 เมื่อถามว่าจะกดดันให้มีการเปิดเส้นทางหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่ต้องพิจารณาดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย รัฐบาลจะไม่ไปกดดันใคร แต่ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ต้องมีหน้าที่ดูแลให้มีการปฏิบัติตามกฎหมายกันทุกฝ่าย

 ผู้สื่อข่าวถามว่าการประชุม ครม.นัดพิเศษที่มีการกำชับทางกระทรวงมหาดไทยให้ไปเข้มงวดและคาดโทษกับผู้ว่าราชการจังหวัดจะยิ่งเป็นแรงกดดันให้คนเข้ามาร่วมชุมนุมมากขึ้นหรือไม่ รักษาการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คิดว่าคงเป็นความหวือหวาในการเสนอข่าวมากกว่า ความจริงแล้วที่รัฐบาลสั่งการไปก็คือกำชับให้ทางผู้ว่าฯ นายอำเภอ นายก อปท.กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ทำหน้าที่ในการชี้แจงให้ประชาชนทราบข้อเท็จจริง เพราะมีข่าวลือและข่าวปล่อย และการบิดเบือนข้อเท็จจริง ซึ่งทำให้ประชาชนสับสนโดยจะต้องชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจถึงความตั้งใจจริงของรัฐบาลที่จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องของประชาชนซึ่งหลายเรื่องรัฐบาลทำสำเร็จแล้วมีผลกับประชาชนโดยตรงแล้ว จึงต้องขอความร่วมมือในการร่วมกันสร้างความสามัคคีเพื่อให้ประเทศฝ่าฟันวิกฤติทางเศรษฐกิจให้ได้ เพราะถ้าปล่อยให้มีความวุ่นวายจลาจลเกิดขึ้นในประเทศก็จะยิ่งเป็นการซ้ำเติมประเทศไทย ซึ่งคนที่จะเดือดร้อนก็คือประชาชน ดังนั้น เราจึงต้องขอความร่วมมือขอให้ส่วนราชการต่างๆทุกกระทรวง ทบวง กรม ไม่ใช่แต่เฉพาะกระทรวงมหาดไทยต้องชี้แจงกับประชาชน โดยข้าราชการต้องรับภาระหน้าที่ในการชี้แจงข้อเท็จจริงกับประชาชน

 เมื่อถามถึงการตัดสัญญานของสถานีดีสเตชั่น เมื่อวันที่ 1 เม.ย.นี้และมีการกล่าวอ้างว่าเป็นฝีมือของรัฐบาล นายสุเทพ กล่าวปฏิเสธว่า ข้อเท็จจริงไม่มีเรื่องดังกล่าว ตนยังให้กระทรวงไอซีทีไปศึกษาข้อกฎหมายก่อนรัฐบาลจะเคารพกฎหมาย จะปฏิบัติตามกฎหมายทุกอย่างไม่ทำอะไรนอกเหนือกฎหมาย เรื่องที่เขาจะถ่ายทอดได้หรือไม่ได้นั้นขอความกรุณาว่าอย่ามาลงโทษรัฐบาล เพราะรัฐบาลไม่ได้ทำ เพราะพวกตนไม่มีขีดความสามารถที่จะทำอะไรในสิ่งเหล่านั้นได้

 ต่อข้อถามว่ามีการกำหนดระยะเวลาในการศึกษาข้อกฎหมายของกระทรวงไอซีทีหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า แล้วแต่ว่าทางกระทรวงจะไปดูให้ละเอียดรอบคอบ ตนไม่ได้กำหนดวันเวลา เพราะอย่างที่บอกตนระมัดระวังที่จะไม่ไปบีบคั้นใครเพราะการบีบคั้นอาจจะทำให้เกิดการตัดสินใจที่ผิดพลาดได้ เมื่อถามว่าแต่การปล่อยให้มีการโฟนอินไปเรื่อยๆก็เท่ากับปล่อยให้มีการปลุกระดมให้คนมาชุมนุมมากขึ้นเรื่อยๆ รักษาการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องที่เราต้องฝากความหวังก็คือการที่ประชาชนจะใช้วิจารณญานเอง ซึ่งตนไม่ค่อยกังวลในเรื่องแบบนี้ แต่ตนก็ต้องทำตามกฎหมายมีหน้าที่ก็ต้องดูแลไป ถ้าลักษณะของการโฟนอิน หรือวีดีโอลิงค์ เป็นการปลุกระดมื่อให้คนทำผิดกฎหมายเราก็ต้องดำเนินการ

 ผู้สื่อข่าวถามว่ามีข่าวว่ารัฐบาลร่วมมือกับกองทัพในการตัดสัญญาน นายสุเทพ กล่าวว่า “ผมได้เรียนตั้งแต่เมื่อวานแล้วว่าข่าวอย่างนี้ไม่เป็นมงคลสำหรับประเทศ ต้องไม่เอาข่าวอย่างนี้มาถามอีก ผมไม่ได้ทำอย่างนั้น ” เมื่อถามว่าในวันอังคารหน้า (7 เม.ย.) จะสามารถประชุม ครม.ที่ทำเนียบรัฐบาลได้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนก็แก้สถานการณ์ไปตามเหตุการณืที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน

 เมื่อถามว่าการที่ส่งสัญญานไปในเรื่องการเจรจามีสัญญานตอบกลับมาบ้างหรือไม่ นายสุเทพ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามดังกล่าว และเมื่อถามถึงกรณีที่นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯ ระบุว่าหลังสงกรานต์จะมีผู้มีบารมีเข้ามาช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น นายสุเทพ หัวเราะ พร้อมกล่าวว่า “ไปถามคนให้สัมภาษณ์”  เมื่อถามถึงข้อเสนอการตั้งรัฐบาลแห่งชาติ นายสุเทพ ปฏิเสธ ที่จะตอบคำถาม ก่อนที่จะเดินเลี่ยงออกไปทันที