ส.ส.ระยองจี้ลงแส้นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด

ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (2 เม.ย.) ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร

ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม นายอภิชาติ ศักดิเศรษฐ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้ขอหารือที่ประชุมว่าที่ผ่านมาสภาฯไม่เคยสอบถามความเห็นจากส.ส.เลยว่า ต้องการคอมพิวเตอร์พกพาที่มีคุณสมบัติแบบใด แต่กลับให้เจ้าหน้าที่เป็นผู้กำหนดสเป็กราคาสูงถึง 51,875 บาท ทั้งที่ท้องตลาดราคาเพียง 40,000 กว่าบาท จึงอยากทราบเงื่อนไขการรับประกันที่ค่อนข้างหยุมหยิมว่าเป็นอย่างไร สภาฯนำคอมพิวเตอร์เก่าที่เหลือไปใช้ประโยชน์อะไรบ้าง

จากนั้นนายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ ได้ตั้งกระทู้ถามเรื่องปัญหามลภาวะในเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยองว่า

พบสารพิษทั้งสารหนู เหล็กและแมงกานิสเกินมาตรฐานเป็นจำนวนมากในบ่อน้ำเล็กและบ่อน้ำบาดาล จนสร้างผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวอย่างมาก และสร้างความตื่นตระหนกให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จึงอยากทราบว่ารัฐบาลจะมีนโยบายในการแก้ไขปัญหามลพิษ โดยมีข้อมูลว่าเกิดเหตุสารพิษรั่วไหลในปีๆหนึ่งถึง 5 ครั้ง และผู้ที่ดูแลเรื่องนี้ได้เร็วที่สุดคือการนิคมอุตสาหกรรม แต่ก็ปรากฎว่าการดำเนินการควบคุมกลับไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร

ด้านนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า การแก้ไขปัญหาของรัฐบาลคือไม่อุทธรณ์คำสั่งของศาลปกครองเพราะต้องการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทำแผนฟื้นฟู

เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดระยองได้รับทราบและปฏิบิต รัฐบาลอยากให้ภาคอุตสาหกรรมเดินต่อไปได้แต่อยากได้อุตสาหกรรมที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชนทั้ง 100% มิใช้มาสร้างโรงงานที่ไม่ได้มาตรฐานในเมืองไทยแล้วมาบอกว่าได้สร้างโรงงานอย่างมีมาตรฐานให้แล้ว  นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ในฐานะที่ตนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งตะวันออก จะเข้าไปดูแลการแก้ไขปัญหานี้อย่างใกล้ชิด ต้องยอมรับว่าบางครั้งหน่วยงานที่รับผิดชอบก็หย่อนยาน

ซึ่งการประกาศเขตมลพิษของศาลปกครองก็เป็นเพียงเรื่องของตัวหนังสือ ที่ส่วนใหญ่มักไม่ได้รับการปฏิบัติ จึงเป็นเรื่องคณะกรรมการฯจะต้องวางแนวทางในการปฏิบัติและลงพื้นที่เพื่อดูสภาพปัญหาที่แท้จริง โดยเฉพาะปัญหาน้ำใต้ดินหรือน้ำบาดาลนั้นกว่าที่ของเสียจะลงไปถึงชั้นน้ำบาดาลได้คงต้องได้รับการสะสมมาเป็นเวลานานพอสมควร แต่เจ้าหน้าที่กลับแจ้งให้ตนทราบว่าขณะนี้ประชาชนบริเวณนั้นไม่ได้ใช้น้ำบาดาลแล้วจึงไม่กระทบประชาชน ซึ่งตนถือว่าความคิดแบบนี้ไม่ใช่การแก้ไขปัญหาที่ถูกต้อง จึงได้ให้แนวทางไปว่าแม้ประชาชนจะไม่ใช้ก็ต้องควบคุมแก้ไขไม่ให้มีสารพิษลงไปให้ได้