ชินโฟร์เอสจี้สภาขอสิทธิเป็น ส.ส.

เมื่อวันที่ 1 เม.ย. นายสุชิน ควรสงวนหรือที่รู้จักกันในชื่อ ชิน โฟร์เอส สมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา เปิดเผยว่า ตนและนายวิรัช วัฒนไกร อดีตผู้สมัคร ส.ส.แบบสัดส่วน พรรคชาติไทย ได้ทำหนังสือถึงนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร


เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ที่ผ่านมา เพื่อขอให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเลื่อนตนและนายวิรัช ขึ้นมาเป็น ส.ส.แบบสัดส่วนกลุ่มจังหวัดที่ 7 ในนามพรรคชาติไทยพัฒนา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 109(2) ทั้งนี้เราทั้ง 2 คน เป็นผู้มีบัญชีเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบสัดส่วนกลุ่มที่ 7 พรรคชาติไทยในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2550 และต่อมาศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคชาติไทย เป็นเหตุให้กรรมการบริหารพรรคที่เป็น ส.ส.แบบสัดส่วนกลุ่มที่ 7 คือ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา และนายประภัตร โพธสุธน ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ส่งผลทำให้ขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส. รวมถึงผู้สมัครรายอื่นซึ่งเป็นกรรมการบริหารพรรคที่อยู่ลำดับก่อนหน้าตนและนายวิรัชด้วย 
 
นายสุชิน กล่าวว่า ฉะนั้นผู้สมัครรับเลือกตั้งในบัญชีรายชื่อ ส.ส.แบบสัดส่วน ที่จะได้รับการเลื่อนลำดับจึงมาถึงตนและนายวิรัช

ซึ่งขณะนี้ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนาเรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค. 2552 ที่ผ่านมาตามมาตรา 106(8) ของรัฐธรรมนูญ ดังนั้นจึงขอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรใช้อำนาจพิจารณาเลื่อนลำดับทั้ง 2 คนขึ้นมาเป็น ส.ส.แบบสัดส่วนด้วย อย่างไรก็ตาม ทราบว่าขณะนี้กรรมการฝ่ายกฎหมายของประธานสภา กำลังพิจารณาคำร้องของตนอยู่
 
“เจตนาของเราต้องการให้เกิดความชัดเจน เป็นแนวปฏิบัติสำหรับนักการเมืองต่อไป ว่าในกรณีที่พรรคการเมืองถูกยุบและกรรมการบริหารพรรคถูกตัดสิทธิทางการเมืองแล้วจะพิจารณาอย่างไร เพราะตามรัฐธรรมนูญไม่มีมาตราใดกำหนดไว้ชัดเจนว่าเมื่อพรรคการเมืองโดนยุบลงและกรรมการบริหารพรรคที่เป็น ส.ส.ถูกตัดสิทธิทางการเมืองด้วย แล้วตำแหน่ง ส.ส. ที่ว่างลง ซึ่งเป็นโควตาของพรรคต้องหายไปด้วย

ผมไม่สนใจว่าจะได้เลื่อนขึ้นมาเป็น ส.ส. หรือไม่ แต่ต้องการทราบว่าประธานสภา หรือศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาเรื่องนี้อย่างไร

ถ้าเลื่อนหรือไม่เลื่อนผู้สมัครในบัญชีอันดับถัดไปขึ้นมาแทนแล้วจะนำมาตราใดมาอ้างหรือเทียบเคียงหรือเป็นการใช้ดุลพินิจเท่านั้น และในที่สุดหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเรื่องนี้ก็จะกลายเป็นบรรทัดฐานให้ผู้สมัคร ส.ส.แบบสัดส่วนได้ยึดถือไม่ใช่เงียบหายไปเฉย ๆ แบบนี้” นายสุชิน กล่าว