เสื้อแดงประกาศดาวกระจายบุกคลัง



เสื้อแดงประกาศดาวกระจายบุก"คลัง" ระดม"111"ขึ้นเวที "หญิงหน่อย"ยืนแถวหน้า "แม้ว"ติดงานงดจ้อ 1 วัน

แกนนำเสื้อแดงเปิดเกมรุก ใช้วิธีดาวกระจาย บุก "ก.คลัง" ต้าน "รบ." กู้เงินต่างประเทศ ระดม "111+109" ขึ้นเวที 3 เม.ย. "หญิงหน่อย"พร้อมยืนแถวหน้า "ทักษิณ"ติดงานงดจ้อเวที 1 วัน "พงศ์เทพ"โผล่ปูดทหารเตรียมสลาย "พัลลภ"ยังไม่ขึ้นเวทีรอวันแตกหัก

เสื้อแดงเปิดเกมดาวกระจาย 2 เม.ย.

แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ประกาศเตรียมเปิดเกมรุกเคลื่อนขบวนขับไล่รัฐบาลอย่างต่อเนื่อง โดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มเสื้อแดง กล่าวปราศรัยบนเวทีที่สะพานชมัยมรุเชฐ เมื่อเช้าวันที่ 1 เมษายน ต่อกลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 1,000 คน ว่า การชุมนุมในวันนี้ครบ 7 วัน แสดงให้เห็นพลังของคนเสื้อแดงที่ไปร่วมชุมนุมจำนวนมาก รวมถึงการชุมนุมทำให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไม่กล้าเข้าทำเนียบรัฐบาล ขณะเดียวกัน กรณีที่รัฐบาลไม่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็หมายถึงการเสียทำเนียบรัฐบาลไปแล้วอย่างสิ้นเชิง อีกทั้งการชุมนุม 7 วันที่ผ่านมา ไม่มีการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร และทำให้อำมาตยาธิปไตยได้รู้ว่าประชาชนจะไม่ยอมอยู่ใต้อำนาจอีกต่อไป

"อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ กลุ่มคนเสื้อแดงจะเริ่มเปิดเกมรุกอย่างต่อเนื่อง โดยจะมี พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ อดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน เป็นผู้นำ จึงขอให้ผู้ชุมนุมเตรียมตัวไว้ด้วย ในวันที่ 2 เมษายนนี้ กลุ่ม นปช.จะเริ่มเคลื่อนไหวด้วยยุทธวิธีดาวกระจาย โดยจะนำผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งเคลื่อนขบวนไปยังกระทรวงการคลัง เพื่อคัดค้านการดำเนินการกู้เงินจากต่างประเทศตามนโยบายของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพราะไม่อยากรับภาระหนี้สินจากการกู้เงินจากต่างประเทศของรัฐบาลชุดนี้"

พงศ์เทพโผล่ปูดทหารเตรียมสลาย

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า กรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ตั้งวอร์รูมเพื่อติดตามความเคลื่อนไหวการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง โดยอ้างว่าเป็นการพยายามที่จะนำไปสู่เหตุการณ์ความรุนแรงเหมือนเมื่อครั้งเหตุการณ์พฤษภาทมิฬนั้น วอร์รูมของพรรคประชาธิปัตย์ประกอบด้วยคนเพียงไม่กี่คน และไม่เข้าใจการเคลื่อนไหวของ นปช.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าวันเดียวกัน นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ขึ้นเวทีปราศรัยบนเวทีคนเสื้อแดงเป็นครั้งแรกในช่วงรายการเล่าข่าวว่า กองทัพกำลังเตรียมการบางอย่าง เพื่อสลายการชุมนุม ทั้งนี้ ผู้ชุมนุมจะรับรู้ถึงการเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด เนื่องจากตนมีสายข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ทั้งตำรวจและทหาร

"พัลลภ"ยังไม่ขึ้นเวทีรอวันแตกหัก

ด้าน พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรอง ผอ.รมน. กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าจะขึ้นเวทีปราศรัยกับกลุ่ม นปช. ค่ำวันที่ 1 เมษายน ว่า ยังไม่ขึ้นเวทีแน่นอนเพราะไม่เคยพูดว่าจะขึ้น เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพียงแค่ต้องการผูกมัดและกดดันให้ตนขึ้นปราศรัยบนเวที ขอยืนยันอีกครั้งว่า ถ้าจะขึ้นต้องเป็นวันดีเดย์ถึงขั้นแตกหัก หรือวันเสียงปืนแตกจึงจะขึ้นปราศรัย ถ้าขึ้นตอนนี้จะเสียหาย ทั้งนี้กลุ่มแกนนำนปช.ไม่เคยปรึกษาหารือกับตน แต่ยอมรับว่ามีคนโทรมาถามมากว่าจะขึ้นเวทีปราศรัยหรือไม่เพราะเขาอยากจะไปฟัง และที่ผ่านมาตนพูดข้อเท็จจริงจำนวนมาก เมื่อถามถึงกลุ่ม นปช.จะเคลื่อนไปล้อมบ้าน พล.อ.เปรม พล.อ.พัลลภกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นความพยายามกดดัน แต่คงไม่สำเร็จ คงไปเย้วๆ กันมากกว่าไม่มีประโยชน์อะไร

อุทธรณ์คำสั่ง-ให้ศาลรธน.ตีความ

นายคารม พลทะกลาง ทนายความ นปช.กล่าวถึงความคืบหน้าการยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลแพ่ง ที่สั่งคุ้มครองชั่วคราว ให้ม็อบเสื้อแดงเปิดทางให้ข้าราชการสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่ถนนลูกหลวง แยกเทวกรรม ถึงสะพานชมัยมรุเชฐ และกำชับห้ามใช้เครื่องขยายเสียงรบกวนการทำงานของข้าราชการในทำเนียบ ตั้งแต่ 08.30-16.30 น. ตั้งแต่วันจันทร์ถึงศุกร์ โดยสั่งให้มีผลทันทีตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา ว่าหารือกับแกนนำ นปช.ว่าจะยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลแพ่ง โดยจะยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความอำนาจของศาลแพ่งว่า มีอำนาจสั่งคุ้มครองชั่วคราวหรือไม่ เพราะแกนนำ นปช.ยืนยันว่า เป็นการใช้สิทธิชุมนุมตามกรอบของกฎหมาย และจะมีการยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลแพ่ง เวลา 11.00 น. โดยจะยื่นขอไต่สวนฉุกเฉินด้วย พร้อมกับนำแกนนำ นปช.ขึ้นเบิกความต่อศาล

อย่างไรก็ตามแม้ศาลแพ่งจะมีคำสั่งให้เปิดทางเข้าทำเนียบฯแล้ว แต่ในช่วงเช้ากลุ่มเสื้อแดงยังคงไม่ย้ายแผงรั้วเหล็กออกจากประตูทางเข้าทำเนียบ ทั้งสองด้าน โดยเปิดเพียงประตูช่องเล็ก ขณะที่ประตูทางเข้าทำเนียบที่ 6 มีกลุ่มเสื้อแดง คนรักเชียงใหม่ 51 ประมาณกว่า 20 คน มายืนเฝ้าด้านหน้า

"อำนวย"นำจนท.ติดคำสั่งศาล

เวลา 10.45 น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พร้อมด้วยนายถวัลย์ ดวงไชยวงศ์ เจ้าพนักงานศาลแพ่ง พร้อมกำลังตำรวจ นำคำสั่งของศาลแพ่งมาติดบริเวณ ประตูทางเข้าทำเนียบรัฐบาล 2 จุด คือประตู 6 (ทางเข้าอาคารสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ติดกับห้องอาหาร สลค.) และประตู 8 (ทางเข้าหน้าร้ายพับแอนด์พาย ตรงข้ามวัดโสมนัสวิหาร) ซึ่งเป็นประตูทั้งสองอยู่ติดกับคลองผดุงกรุงเกษม ท่ามกลางการจับตาของ กลุ่มผู้ชุมนุม ที่ใช้โทรโข่งขนาดเล็กตะโกนว่าตำรวจไม่ให้ความเป็นธรรมกับประชาชน แต่ไม่มีการขัดขวางหรือเหตุรุนแรงใดๆ ทั้งสิ้น

ทั้งนี้คำสั่งศาลแพ่งระบุให้ นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. เปิดถนนลูกหลวงตั้งแต่แยกเทวะกรรมจนถึงสะพานชมัยมรุเชฐ และให้เปิดประตูทำเนียบประตู ที่ 6 และ 8 ให้ข้าราชการ ครม. และผู้มามาติดต่อราชการนำรถยนต์เข้าออกได้สะดวก และให้ใช้เครื่องขยายเสียงในระดับที่ไม่รบกวนการทำงานภายในทำเนียบในเวลาทำการตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. ทุกวันจันทร์-ศุกร์ โดยให้มีผลทันที

พล.ต.ต.อำนวยกล่าวว่า เชื่อว่าตอนนี้ทุกคนรู้แล้วว่าศาลมีคำสั่งคุ้มครอง เรื่องคำสั่งน่าจะรู้กันไปทั่วโลกแล้วด้วยซ้ำ ก็ต้องดูว่าจะปฏิบัติตามหรือไม่ หากไม่ปฏิบัติตามกรมบังคับคดีก็ยื่นเรื่องไปที่ศาลอุทธรณ์ต่อไป ตอนนี้ถึงทางกลุ่มคนเสื้อแดงจะยื่นอุทธรณ์ก็ไม่มีผลจนกว่าศาลอุทธรณ์จะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

สั่งพร้อมรับมือม็อบบุกบ้านป๋า

ขณะที่ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจนครบาล (ศปก.น.) ประชุมติดตามสถานการณ์การชุมนุมคนเสื้อแดง โดยกำชับให้ ทุก สน.เพิ่มความเข้มตั้งจุดตรวจค้นบุคคล ซึ่งอาจมีผู้ไม่หวังดีเข้ามาก่อกวนในการชุมนุม พร้อมประสานการเตรียมแผนปฏิบัติในการรักษาความปลอดภัยบ้านพัก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษกับฝ่ายทหาร และให้ติดตามสถานการณ์ด้านการข่าวเพื่อปรับแผนการปฏิบัติ หรือการจัดเตรียมกำลังเพิ่มให้เพียงพอ และให้ประสานจัดเตรียมเครื่องขยายเสียงแบบพิเศษ (ความถี่สูง) เตรียมพร้อมไว้ใช้ในภารกิจด้วย

พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะโฆษก บช.น.กล่าวถึงกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมอาจเคลื่อนไปปิดล้อมบ้านสี่เสาเทเวศร์ ว่า ให้ กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 จัดทำแผน และหาข่าวเพื่อประเมินชั่วโมงต่อชั่วโมง ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะรุนแรงหรือไม่ ส่วนที่นัดชุมนุมใหญ่อีกครั้งในวันที่ 9 เมษายนนั้น ต้องติดตามว่าคนร่วมชุมนุมได้มากน้อยแค่ไหน

ส่วนกรณีตำรวจที่ไปรับเสื้อแดงนั้น พล.ต.ต.สุพรกล่าวว่า ถือว่าไม่เหมาะสม เพราะตำรวจมีหน้าที่ที่สำคัญและต้องมีความเป็นกลาง ไม่เช่นนั้นจะเหมือนกับทางภาษาพระว่า โลกะวัจฉะ คือโลกจะติเตียน คือไม่ควรทำ กำชับผู้ใต้บังคับบัญชาแล้ว

"ผบ.ทบ."นิ่งยังไม่สั่งทหารขยับ

ด้าน พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น. รับผิดชอบงานจราจร กล่าวถึงกรณีกลุ่ม นปช. จะเคลื่อนไปกระทรวงการคลัง วันที่ 2 เมษายน ว่า ผบช.น.มอบหมายให้ บก.น.2 ดูแล หากกำลังไม่เพียงพอให้ร้องขอมาที่ บช.น.จะจัดกำลังไปเสริม

ขณะที่ พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 เปิดเผยภายหลังแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงประกาศจะชุมนุมปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลต่อไป และนัดชุมนุมใหญ่วันที่ 9 เมษายนนี้ โดยไม่สนใจคำสั่งคุมครองชั่วคราวของศาลแพ่งให้เปิดเส้นทาง ว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งใดๆ จาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.)ส่วนกรณีแกนนำคนเสื้อแดงประกาศจะไม่ให้ทหารเข้าสับเปลี่ยนกำลังรักษาความปลอดภัยทำเนียบฯ อีกแล้วนั้น เหตุการณ์ยังไม่เกิดขึ้น จึงยังไม่สามารถบอกอะไรได้
 
พท.เชื่อรบ.เตรียมภาวะฉุกเฉิน

ที่รัฐสภา นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย แถลงว่า แม้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯจะยืนยันว่า จะไม่ใช้กำลัง แต่ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯให้สัมภาษณ์ดูแล้วสะท้อนว่า ถ้ากลุ่มคนเสื้อแดงยังไม่ยอมเปิดอาจจะมีการใช้ความรุนแรง คิดว่าอาจมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งต่างกับสมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่ประกาศใช้เพราะไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรง

"ขอเรียกร้องว่า สิ่งใดที่เกิดกับกลุ่มเสื้อเหลือง ขอให้ใช้แบบเดียวกับกลุ่มเสื้อแดงด้วย เพราะถ้ารัฐบาลทำอะไรรุนแรง แล้วกลุ่มเสื้อแดงไปปิดสนามบินบ้างอะไรจะเกิดขึ้น และขอเตือนนายสุเทพว่าวันนี้ทหารตำรวจระดับล่างไม่พอใจ ถ้าสั่งการอะไรแล้วสร้างความไม่พอใจ เขาอาจหันปากกระบอกปืนไปยังนายสุเทพ ก็ได้"

นายสุรพงษ์กล่าวถึงกรณีที่วอร์รูมรัฐบาลเตรียมใช้สถานีวิทยุโทรทัศน์เอ็นบีที ตอบโต้ พ.ต.ท.ทักษิณ และกลุ่มคนเสื้อแดง ว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะสื่อของรัฐต้องมีอิสระ คิดว่าสื่อมีเสรีภาพในการเสนอข่าว ฉะนั้น ขอให้สังคมช่วยกันตั้งคำถามว่าพฤติกรรมแบบนี้เหมาะสมหรือไม่ และนายสาทิตย์ ต้องถามตัวเองด้วย ขอเรียกร้องว่าอย่าทำแบบเก่าๆ เคยกล่าวหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ครอบงำสื่อ แต่วันนี้กลับทำเอง

ขู่เข้าชื่อส.ส.ร้องถอดยศ"แม้ว"

นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า การถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นความพยายามของตำรวจกลุ่มเล็กๆ เท่านั้นที่ต้องการตอบสนองความปรารถนาทางการเมืองให้นักการเมืองกลุ่มหนึ่ง ตำรวจสามารถกระทำได้หากเป็นการปฏิบัติตามข้อกฎหมายอย่างแท้จริงมีมาตรฐานเดียวกันกับนายตำรวจคนอื่น และจะต้องตอบคำถามสังคมให้ได้เพราะประชาชนรู้ดีว่าคดีที่ดินรัชดาฯของ พ.ต.ท.ทักษิณ มีเหตุจูงใจทางการเมืองซึ่งเป็นผลพวงมาจากการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 กันยายน

นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หาก สตช.ดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ จริง พรรคอาจจะมีการเข้าชื่อ ส.ส.ของพรรคทุกคนเพื่อยื่นเรียกร้องทุกช่องทางเพื่อให้มีการตรวจสอบการดำเนินการของตำรวจว่ามีอำนาจหน้าที่ในการดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ เรื่องนี้นายสุเทพ รองนายกฯจะปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่องไม่ได้ และถ้ามีการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ จริง ก็เท่ากับว่าพรรคประชาธิปัตย์นำยศที่ได้รับพระราชทานมาเล่นการเมืองกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งถือว่าเป็นการเล่นการเมืองที่ไร้กรอบ ไร้กติกาไปทุกอย่างแล้ว จึงขอบอกให้พรรคประชาธิปัตย์ระวังตัวเอาไว้เลย ว่าเมื่อมีการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง ก็จะต้องเจออย่างนี้บ้าง



ระดมพลใหญ่"เข้าเนื้อ"ร้องขอทุน

นายสุชาติกล่าวว่า การระดมพลครั้งใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 9 เมษายนเพื่อล้มรัฐบาลประชาธิปัตย์คาดว่าจะมีประชาชนมาร่วมเป็นจำนวนมากแบบมืดฟ้ามัวดิน เพราะในพื้นที่ต่างๆ เริ่มอึดอัดกับรัฐบาล ซึ่งครั้งที่ระดมพลคนเสื้อแดงมาปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลนั้นก็มีประชาชนมาร่วมนับแสนคนแล้ว ครั้งนี้ก็ต้องเยอะกว่าเดิมอย่างแน่นอน ได้แจ้งกับทางพรรคเพื่อไทยไปแล้วว่า ไม่สามารถแยกเสื้อแดงกับ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยได้ เพราะเมื่อประชาชนในพื้นที่จะมาร่วมชุมนุม ส.ส.ก็ต้องช่วยเหลือทุกครั้ง อาทิ ทุกครั้งที่มีการชุมนุมเสื้อแดง ประชาชนในพื้นที่ตนจะมาร่วมประมาณ 2,000 คน ซึ่งทั้งรถ เสื้อแดง และอาหาร ส.ส.ก็ต้องเป็นคนดูแลทั้งหมด และที่ผ่านมาก็ทราบดีว่า พรรคเพื่อไทยก็ไม่เคยมีเงินสนับสนุนให้ ส.ส.เอาไปช่วยเหลือชาวบ้านในส่วนนี้เลย และเราก็ไม่ทราบว่าใครเป็นนายทุนสำหรับการชุมนุม แต่ก็อยากจะแจ้งว่าขอให้พรรคได้ดูแลชาวบ้านในส่วนนี้บ้าง ไม่เช่นนั้นคะแนนนิยมของพรรคในพื้นที่จะตกลง

ระดม "111+109" ขึ้นเวที 3 เม.ย.

แหล่งข่าวจากแกนนำบ้านเลขที่ 111 กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย(ทรท.) เปิดเผยว่า อดีตแกนนำพรรคพลังประชาชน(พปช.)และแกนนำบ้านเลขที่ 111 อดีตกรรมการบริหารทรท. ได้หารือกันที่อาคารชินวัตร 3 บ้านวิภาวดี เมื่อวันที่ 31 มีนาคม เพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับ การให้อดีตกรรมการบิรหารพรรคการเมืองที่ถูกสั่งให้ยุบพรรคและได้รับโทษตัดสิทธิ์ทางการเมือง มาร่วมแสดงพลังบนเวทีปราศรัยของกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดง ตามที่พ.ต.ท.ทักษิณเรียกร้องมาก่อนหน้านี้ โดย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นประธานประชุม พร้อมแกนนำอาทิ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ อดีตรองหัวหน้าทรท. นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา  นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ นายจำลอง ครุฑขุนทด อดีตรองหัวหน้าทรท. น.ต.ศิธา ทิวารี อดีตโฆษกทรท. น.พ.ประสงค์ บูรณ์พงษ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชนและนายวิชิต ปลั่งศรีสกุล อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 

แหล่งข่าวจากแกนนำที่ประชุมเปิดเผยว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปว่าอดีตแกนนำพรรคไทยรักไทยและอดีตแกนนำพรรคพลังประชาชนจะขึ้นเวทีปราศรัยของกลุ่มเสื้อแดง ในวันที่ 3 เมษายน เวลา 19.00 น.พร้อมกันทั้งหมด โดยมีนายสมชาย เป็นหัวหน้าทีมในการนำอดีตแกนนำทั้งสองพรรคขึ้นเวที  โดยนายสมชาย ได้กล่าวกับอดีตแกนนำพรรคที่มาร่วมประชุมว่า ต่อไปนี้พวกเราคงอยู่เฉยๆ ต่อไปอีกไม่ได้ จึงขอให้ทุกคนร่วมกันออกมาแสดงพลังร่วมกันให้มากที่สุด เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยเต็มใบและเรียกร้องความยุติธรรม โดยขอให้ทุกคนช่วยกันระดมประชาชนคนเสื้อแดงมาร่วมในวันที่ 3 เมษายนให้มากที่สุด

"วังทองหลาง"ลั่น"หญิงหน่อย"พร้อมยืนแถวหน้า

นายอนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กลุ่มวังทองหลางใกล้ชิดคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย หัวหน้ากลุ่มวังทองหลาง กล่าวว่า ภาค กทม.ยังไม่ทราบว่าอดีตแกนนำพรรคไทยรักไทยและพรรคพลังประชาชนมีมติว่าวันที่ 3 เมษายนจะออกมาแสดงพลังทางการเมือง แต่เชื่อว่าคุณหญิงสุดารัตน์ อดีตแกนนำภาค กทม.พรรคไทยรักไทย ซึ่งขณะนี้กำลังยุ่งอยู่กับงานของมูลนิธิไทยพึ่งไทย ที่ได้ก่อตั้งขึ้น พร้อมที่จะแสดงความชัดเจนในจุดยืนทางการเมืองที่แน่วแน่ แล้วยิ่งเป็นการต่อสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยแล้ว คุณหญิงสุดารัตน์ พร้อมที่จะก้าวขึ้นมายืนแถวหน้า เพราะตลอดเวลาที่คุณหญิงสุดารัตน์อยู่ในแวดวงการเมืองก็ต่อต้านการรัฐประหารและการได้มาซึ่งอำนาจโดยมิชอบมาตลอด
 
"ทักษิณ"ติดงานงดจ้อเวที 1 วัน

เวลา 17.10 น. นายณัฐวุฒิ แถลงถึงการตัดสัญญาณของสถานีโทรทัศน์ดีสเตชั่นเมื่อช่วงเย็นวันเดียวกันว่า เชื่อว่าเป็นการแทรกแซงของรัฐบาล ซึ่ง นปช.ก็พร้อมจะตอบโต้ทันที จริงๆ แล้วรัฐบาลต้องการที่จะพุ่งเป้าไปที่วิดีโอลิงก์ แต่หาช่องทางทำอะไรไม่ได้ก็เลยมาลงที่ดีสเตชั่นแทน ขอตั้งข้อสังเกตว่าเป็นฝีมือของนายสาทิตย์ และ ร.ต.หญิงระนองรักษ์ รัฐมนตรีไอซีที

"นอกจากนี้ที่สำนักขนส่ง จ.ชลบุรี มีการออกหนังสือถึงผู้ประกอบการรถบัสทุกราย ห้ามขนส่งกลุ่มเสื้อแดง และหากผู้ประกอบการรายใดไม่ปฏิบัติตาม อาจจะถูกส่งชื่อไปถึงคณะกรรมการควบคุมการขนส่งชลบุรี เพื่อเพิกถอนใบอนุญาต อยากถามว่ามีอำนาจอะไรไปควบคุม และข้อตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลแทรกแซง การทำงานที่สุจริตของของภาคเอกชนด้วยหรือไม่

นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ในช่วงค่ำเวลา 20.00 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จะขึ้นเวทีเสื้อแดง แทนการวีดีโอลิงก์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งวันนี้งดภารกิจ 1 วัน ส่วนพล.อ.พัลลภได้ขอยกเลิกไปแล้ว จะขอไปพูดในเวทีอื่นแทน

ย้ำ 3 แสนคนเผด็จศึก"เปรม-มาร์ค"

ด้านนายจตุพรกล่าวว่าวันที่ 8 เมษายนนี้ นปช.จะเผด็จศึกเช็กบิลรัฐบาล จะมีกลุ่มเสื้อแดงกว่า 3 แสนคนชุมนุมในกรุงเทพฯ เพื่อกดดัน พล.อ.เปรม และนายอภิสิทธิ์ให้ลาออก ซึ่งจะยาวไปตั้งแต่เชิงสะพานชมัยมรุเชษฐ์ไปจนถึงบ้านสี่เสาเทเวศร์ ซึ่งจะให้สงครามครั้งนี้จบก่อนช่วงสงกรานต์ และหากยังไม่ชนะก็จะชุมนุมต่อไปจนกว่าจะชนะ

เวลา 17.45 น.นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ไปที่เวทีชุมนุมกล่าวว่า กลุ่มคนบ้านเลขที่ 111 ตั้งใจมาให้กำลังใจคนเสื้อแดง เพราะประชาชนได้มาเรียกร้องประชาธิปไตยก็ไม่ควรนิ่งเฉย


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์