ข้อ 1 เขาเปิดเผยว่า ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ คือเรา คือคนเขารู้หมดแล้ว ตั้งแต่คุณทักษิณพูดตั้งแต่วันนั้นแล้ว คุณทักษิณ ว่า แต่เราพยายามถามเขาตอนนั้น ว่าหมายถึงเราใช่ไหม เขาก็ไม่ตอบ แล้วเราก็ถามอีกว่า ถ้าไม่ใช่เรา ก็ขอให้บอกมาว่าใคร ให้รู้กันชัด ๆ ไม่ได้ถามแต่คุณทักษิณ ให้คนถามคุณหญิงอ้อว่า งั้นให้ช่วยพูดหน่อยได้ไหมว่า ที่คุณทักษิณพูดว่า ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญนั้น ไม่ใช่ผม เขาก็ไม่พูด ตกลงไม่พูดไม่ตอบ ทั้งสามคำถาม ซึ่งจริง ๆ เราก็รู้ว่า เขาหมายถึงเรา ตอนนั้นคุณทักษิณ ไปพูดที่ไหนไม่รู้ แล้วก็เปิดเผย ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ คือ พล.อ.เปรม
ข้อ 2 เขากล่าวหาว่า เราอยู่เบื้องหลังการปฏิวัติของคุณสนธิ เราก็ไม่รู้ว่าจะไปชี้แจงเขาได้อย่างไร เพราะว่า เราไม่ได้อยู่เบื้องหลังการปฏิวัติ เราจะอยู่เบื้องหลังการปฏิวัติไม่ได้ เพราะเราไม่มีหน้าที่ ที่จะต้องไปปฏิวัติและเราก็ไม่มีอิทธิพลพอที่จะไปบอกคุณสนธิว่า "ปฏิวัติเถอะ" เพราะตอนนั้น รัฐบาลคุณทักษิณนี่ แย่มาก ๆ คนกำลังเล่นงานรัฐบาลทักษิณอยู่ ถ้าคุณจำได้ เขาจึง ไชโย ไชโย กัน ตอนที่ทหารออกมาปฏิวัติ คุณทักษิณ ก็บอกว่า ป๋าอยู่เบื้องหลังการปฏิวัติครั้งนี้ เบื้องหลังนี่ หมายความว่าอย่างไรก็ไม่รู้ เรานี่คงจะไปยุแหย่ หรือ ไม่ก็รู้ว่า คุณสนธิจะปฏิวัติ แต่ก็จริง ๆ เรามิได้เกี่ยวข้อง เขาก็ปฏิวัติกันไป ก็คิดดูกันเอาก็แล้วกันว่า ถ้าเรามีอิทธิพลพอที่จะไปบอกคุณสนธิว่า คุณไปปฏิวัติ คุณสนธิ ก็แย่ เพราะคุณสนธิต้องคิดเองว่า ทำไมจึงต้องปฏิวัติ มีเหตุใดที่ปล่อยให้รัฐบาลคุณทักษิณ อยู่ต่อไปไม่ได้ ไม่ใช่มาเชื่อเรา ฉะนั้น เราไม่ได้อยู่เบื้องหลังเบื้องหน้า
ข้อ 3 เขาบอกว่า เราเป็นคนนำ ผบ.เหล่าทัพ ไปเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งก็ไม่จริง คืนนั้นเขาประกาศปฏิวัติกัน ประมาณ 3 ทุ่มเศษ ๆ คือ วันที่ 19 กันยายน พอเราได้ยินว่า เขาปฏิวัติกันไป เราก็เข้าไปใน พระราชวังสวนจิตรลดา ที่เราเข้าไป เพราะเป็นหน้าที่ของเรา ที่เป็น องคมนตรี เนี่ย เมื่อมีปัญหาอย่างนี้ เราก็ต้องไปอยู่ใกล้ ๆ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เผื่อว่า ท่านจะทรงมีพระราชกระแสรับสั่งอย่างไรบ้าง เราจะได้รับใส่เกล้าใส่กระหม่อมมาปฏิบัติเพราะมันเป็นเหตุการณ์ฉุกเฉิน เราเข้าไปประมาณ 3 ทุ่มเศษ ๆ คุณสนธิ ( พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. ) กับ คุณชลิต ผบ.ทอ. ( พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ) 2 คนนั้น เข้าไป เมื่อตอน 5 ทุ่มเศษ คุณสถิรพันธุ์ ผบ.ทร. (พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ) มาที หลัง มาเกือบ 2 ยาม แสดงให้เห็นว่า เราไม่ได้นำ 3 คน เข้าไปที่พระราชวังสวนจิตรลดา เพื่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เราไปของเราเอง
แต่พอตอนที่เมื่อ พระบาทสมเด็จเจ้าอยู่หัว เสด็จลงมา เราเล่าข้ามตอนไปนิดว่า พวกที่เข้าไป บอกสมุหราชองครักษ์ ว่าเขาจะมาเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมุหราชองครักษ์ก็ไปกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สักพักหนึ่ง ก็เสด็จลงมาทั้ง 2 พระองค์ พวกนี้ก็ไปเข้าเฝ้า แต่มีเราอยู่ด้วย นอกจาก 3 คนแล้ว ยังมีเราอีกคนหนึ่ง รูปถ่ายก็มี เพราะฉะนั้น เราก็เป็นคนเข้าไปร่วมในการเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท จะว่าเรานำเข้าเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ก็ไม่ถูก แต่ว่าเราไปอยู่ในที่นั่นด้วย เพราะฉะนั้น ที่คุณทักษิณบอกว่า เราเป็นคนที่นำ 3 คนนี้ไปเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็เป็นเรื่องที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เพราะเราเข้าไปก่อน ชั่วโมงกว่า และเราก็ไม่รู้ว่า เขาจะมา หรือ ไม่มา เรารู้ก็ต่อเมื่อคุณสนธิ เข้าไปกับ คุณชลิต ไปเจอเราใน พระราชวังสวนจิตรลดา แล้ว นี่คือเรื่องจริง ๆ ที่เกิดขึ้น เราขี้เกียจไปต่อความยาวสาวความยืด ไม่แก้ตงแก้ตัว พะจุณณ์ ก็ทราบดี พวกเราก็ทราบดี เล่าให้ฟังเพื่อจะได้รู้ว่า ที่จริงมันเป็นอย่างไร ที่จริง คุณทักษิณ ก็มาบ้านเราหลายครั้ง คุณอ้อ ก็มาหลายครั้ง แล้วเมื่อคุณทักษิณ ถูกปฏิวัติ แล้วคุณอ้อ ก็มาอีก แล้วหนังสือพิมพ์ก็เล่นงานเรา จำได้ไหม คุณอ้อ ก็มาให้ป๋าช่วยเหลือ ตอนนั้น สักประมาณปลาย ๆ เดือนกันยายน
ที่เล่าให้ฟังทั้งหมดนี้ เพื่อจะได้รู้ว่า เหตุการณ์บ้านเมืองตอนนั้น เป็นมาอย่างไร อยากจะพูดกับทุกคน และขอบใจว่า เราเนี่ย เราถือว่า เราไม่มีศัตรู ไม่มีฝ่ายตรงข้ามกับเรา
เพราะเราถือว่า เราจะทำหน้าที่ของเรา เพื่อคนไทยทุกคน แต่บางส่วน เขาเห็นว่า เราเป็นฝ่ายตรงข้ามกับเขา เราก็ไม่ว่าอะไร เขาอยากเป็นฝ่ายตรงข้าม ก็เป็น แต่เรา ไม่เป็นด้วย เราถือว่า เราทำเสมอภาค ไม่มีฝ่ายตรงข้าม แต่นี่ มีบางคนเห็นว่า เราเป็นฝ่ายตรงข้ามกับเขา เป็นฝ่ายตรงข้ามกับคุณทักษิณ ความจริง เราก็ไม่ได้เป็นฝ่ายตรงข้ามกับคุณทักษิณหรอก นี่คือที่อยากให้เข้าใจ ให้รู้เรื่อง ก็ขอบใจที่มากัน และมีหลายคน ที่โทรศัพท์มาบ้าง มาพบเองบ้าง ขอมาเชียร์ และมาให้กำลังใจ ผมขอบอกว่า ขอบคุณ กำลังใจผมยังอยู่เต็มร้อย ผมไม่มีปัญหา ผมโดนมาเยอะแล้ว ผมโดนมามากกว่านี้ด้วยซ้ำไป อย่าง ตอนที่ผมเป็นแม่ทัพ ผมไปปราบ ผกค. เขาก็พูดว่า ปราบพวก ผกค. ผมบอกว่า ผมไม่ได้มาปราบพวกคุณหรอก ผมมาทำความเข้าใจกับพวกคุณ ว่าเราเข้าใจถูก เข้าใจผิดกันอย่างไร ผมไม่มีหน้าที่จะมาปราบคนไทยหรอก มีหน้าที่มาช่วยเหลือพวกคนไทยด้วยกัน ว่าทำอย่างนี้ ไม่ถูกหรอก ควรจะทำอย่างนี้มากกว่า เพื่อจะได้รู้ว่า ผมไม่คิดว่า คนไทยเป็นศัตรู เป็นฝ่ายตรงข้าม ผมมีหน้าที่ ที่จะทำให้คนไทยรักกัน ชอบพอกัน อันนี้ ถ้าหนังสือพิมพ์ถามผม ผมก็จะตอบ บางคนเขาบอกว่า ผมควรจะมาชี้แจง ผมคิดว่า ยังไม่ชี้แจงหรอก แต่ถ้าเผื่อถามก็จะชี้แจง แต่เล่าให้พวกเราฟัง โดยเฉพาะเด็ก ๆ ทั้งหลาย เพื่อที่จะได้รู้ความจริง....