ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลถึงบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงในวันนี้ (30 มี.ค.) ซึ่งเป็นวันที่ 5 ของการชุมนุมว่า
เมื่อเวลา 08.30 น.ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้ประกาศเสียงตามสายในทำเนียบรัฐบาลไปถึงผู้ชุมนุมรอบทำเนียบรัฐบาล ว่า “เจ้าหน้าที่ตำรวจขอประกาศไปถึงผู้จัดการชุมนุม และผู้เข้าร่วมการชุมนุมขอให้หยุดการกระทำขัดขวางการเข้าออกภายในทำเนียบรัฐบาล หากยังไม่ยอมเลิกตำรวจจะเข้าควบคุมฝูงชนตามขั้นตอนจากเบาไปหาหนัก โดยจะเริ่มจากการใช้โล่ แต่ขอยืนยันกับประชาชนว่า ตำรวจไม่ได้พกพาอาวุธปืนแต่อย่างใด และจะทำตามกฎหมายกับผู้จัดการชุมนุม และผู้เข้าร่วมชุมนุมทุกราย หากกระทำการผิดกฎหมาย ดังนั้นหวังว่า จะได้รับความร่วมมือจากกลุ่มผู้ชุมนุม เพราะการแก้ปัญหาการเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง แต่ไม่ใช้ความรุนแรง”
ทั้งนี้ ทางบช.น.ได้ประกาศเสียงตามสายดังกล่าว พร้อมเปิดเพลงมาร์ชปลุกใจอยู่เป็นระยะๆ ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่ได้ยินเสียงตามสายดังกล่าวไม่พอใจ พากันโห่ร้อง ส่วนข้าราชการ เจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อได้ฟังประกาศเสียงตามสายว่า อาจจะมีการสลายการชุมนุม ต่างก็รีบเซ็นชื่อ และรีบเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาลทันที เพื่อความปลอดภัย
จนกระทั่งเวลา 09.45 น. ประกาศดังกล่าวทำให้แกนนำบนเวทีอย่างนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เรียกคนมารวมตัวกันหน้าเวที และที่บริเวณประตูทางเข้าออกต่างๆ ภายในทำเนียบฯ โดยให้รวมตัวกันให้ได้ประตูละ 100-300 คน ขวางตามประตูเข้าออก ห้ามข้าราชการเข้ามาทำงานในทำเนียบฯ โดยให้สื่อมวลชนเข้าออกได้อย่างเดียวเท่านั้น พร้อมระบุว่าเป็นเพียงการข่มขู่ ทำสงครามทางจิตวิทยาที่ผู้ชุมนุมจะไม่หลงกล และฝากถึงประชาชนคนเสื้อแดง ที่กำลังจะเข้ามาว่า หากมาไม่ได้ให้ไปรวมตัวที่ศาลากลางจังหวัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สั่งระดมพลเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 กองร้อยไปรวมตัวกันที่บริเวณ ด้านข้างสำนักงานอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อเฝ้าระวังความปลอดภัย เนื่องจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กำลังปฏิบัติภารกิจอยู่ที่สำนักงานสหประชาชาติ ในช่วงเวลาดังกล่าว ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมระดมกำลังจำนวนมาก มาตั้งแถวเผชิญหน้ากับตำรวจ เนื่องจากเกรงว่า จะใช้เส้นทางดังกล่าวเข้ามาสลายการชุมนุม
โดยน.ส.เบญจวรรณกล่าวว่า
เป็นชาวอุดรธานี เคยเป็นพนักงานนวดแผนโบราณ แต่ตกงาน ทราบว่า มีเพื่อนชาวอุดรธานี มาร่วมชุมนุมที่ทำเนียบฯ จึงอยากมาทักทาย ไม่คิดว่า จะถูกกลุ่มเสื้อแดงเข้ามาทำร้ายร่างกาย ซึ่งการใส่เสื้อเหลืองไม่เจตนาอะไรพิเศษ แต่เห็นว่า เป็นคนไทยด้วยกัน ต้องใส่เสื้อได้ทุกสี ไม่คิดว่าจะมีอันตรายเกิดขึ้น หลังจากนี้จะไปแจ้งความที่สน.นางเลิ้ง เอาผิดกับคนที่ทำร้ายตน เพราะถูกรุมตบ ถีบ กระชาก จนมีรอยฟกช้ำที่ต้นแขนซ้าย