“อภิสิทธิ์"อัด“ทักษิณ"อย่าดึง"ป๋าเปรม"มาเข้าเกี่ยวข้อง ระบุปัญหาทางการเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง ชี้“ทักษิณ" ฉวยโอกาสปั่นหัวคนไม่รู้ประวัติศาสตร์ที่แท้จริง เผยมอบ"สุเทพ”รักษาการช่วงไปประชุมจี - 20 ที่อังกฤษ ไม่เชื่อ “ทักษิณ" โวถ้าเป็นรัฐบาลแล้วไม่กู้เงิน “สุเทพ” ชี้แม้วต้องรับผิดชอบ คำพูดพาดพิง สถาบันองคมนตรี เผย ปชช . จะเห็นธาตุแท้เอง
(29มี.ค.)ที่โรแรมราเคิล แกรนด์ เมื่อเวลา 09.15 น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงยังปักหลักชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาลว่า การชุมนุมเรียกร้องทางการเมืองก็ขอให้เป็นเรื่องของนักการเมืองด้วยกัน ไม่ควรที่จะไปพาดพิงถึงพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ หรือองคมนตรีคนอื่นๆ เพราะความจริงแล้ว ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะดึงเข้ามาเกี่ยวข้อง มีการกล่าวหาในเรื่องที่ไม่เป็นความจริง
เช่น กรณีที่ว่าประธานองคมนตรีเกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น เนื่องจากตั้งแต่ที่พล.อ.เปรมวางมือทางการเมือง ก็ไม่มีส่วนไหนที่จะมาเกี่ยวข้องกับการดำเนินการทางการเมืองของพรรค ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองใด ซึ่งตนคิดว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้องที่มีการกล่าวพาดพิง เพราะรู้กันอยู่แล้วว่าตำแหน่งที่พล.อ.เปรมดำรงอยู่ตอนนี้เป็นเรื่องยากที่จะให้ท่านมาชี้แจงหรือตอบโต้อะไรได้มากนัก
“เราไม่ควรมีการฉวยโอกาสที่ประชาชนส่วนหนึ่งอาจไม่ทราบประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน เพราะเมื่อครั้งที่พล.อ.เปรมดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นช่วงเวลาที่นานมาแล้ว และเป็นผู้ที่ช่วยทำให้บ้านเมืองพ้นจากวิกฤตที่เกิดขึ้นในตอนนั้นได้ และเมื่อท่านดำรงตำแหน่งมานาน 8 - 9 ปี ก็เห็นว่าพอแล้วและเลิกไป จากนั้นได้รับโปรดเกล้าฯให้เป็นรัฐบุรุษ ดังนั้นการไปกล่าวหาโจมตีท่านจึงเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม และถ้าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องการเรียกร้องอะไรทางการเมือง ก็เป็นเรื่องระหว่างนักการเมืองด้วยกัน เพราะในแง่ของประวัติการทำงานต่างๆของประธานองคมนตรีและองคมนตรี ก็เป็นหลักประกันได้อยู่แล้ว เพียงแต่ท่านคงไม่มีโอกาสออกมาพูดชี้แจงอยู่ตลอด”นายอภิสิทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่ารัฐบาลสามารถดำเนินการอะไรในเรื่องนี้ได้บ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้าอยู่ในกรอบของกฎหมาย ก็เป็นสิ่งที่ทำได้ แต่อยากให้ทุกคนทราบข้อเท็จจริง และประชาชนควรมีวิจารณญาณเปรียบเทียบได้ว่าประวัติการทำงานและคุณงามความดีของแต่ละบุคคลเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้นอยากให้ข้อคิดตรงนี้ไว้ ส่วนการเรียกร้องเพียงเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มบุคคลก็ไม่ควรที่จะก้าวล่วงไปถึงสถาบันอื่นๆ ซึ่งรัฐบาลอยากยืนยันจุดนี้ ทั้งนี้รัฐบาลจะดูแลถ้ามีการกระทำที่ผิดกฎหมาย ก็จะดำเนินการ ส่วนเรื่องความเหมาะสมนั้นเป็นเรื่องที่สังคมต้องช่วยกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าคาดการณ์ไว้หรือไม่ว่าจะเกิดความรุนแรงจากการที่พ.ต.ท.ทักษิณออกมาสู้แบบสุดตัวเหมือนคนเลือดเข้าตา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนยังเชื่อมั่นว่าประชาชนส่วนใหญ่ที่มองเห็นสถานการณ์ปัจจุบันคงจะคิดค่อนข้างตรงกันว่าบ้านเมืองต้องการความสงบ ซึ่งทุกฝ่ายต้องช่วยกันเสนอข้อมูลข่าวสารให้ครบถ้วนและรอบด้าน ไม่ใช่ให้มีการฟังความข้างเดียว
เมื่อถามต่อว่ารัฐบาลจะปกป้องสถาบันต่างๆที่พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวพาดพิงอย่างไรบ้าง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มีการดำเนินการอยู่ในบางส่วน แต่อยู่ในขอบเขตของกฎหมาย แต่สังคมต้องช่วยกัน อย่าเพิกเฉยต่อสิ่งที่ไม่เหมาะสม โดยต้องออกมาตำหนิติติงกันบ้างเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ครบถ้วนและรอบด้านมากขึ้น
ถามว่าดูเหมือนว่าพ.ต.ท.ทักษิณเคลื่อนไหวกดดันให้รัฐบาลมาพูดคุยเจรจาเพื่อให้มีการนิรโทษกรรม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นความพยายามในส่วนผลประโยชน์ของพ.ต.ท.ทักษิณ แต่รัฐบาลคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศและประชาชนมาก่อน และต้องรักษาความถูกต้องในบ้านเมือง ที่จริงแล้ว การที่พ.ต.ท.ทักษิณกลับเข้าประเทศแล้วยอมรับกระบวนการยุติธรรม ทุกอย่างจะแก้ปัญหาได้เอง
ผู้สื่อข่าวถามว่าพ.ต.ทักษิณมีสถานะหนึ่งเป็นผู้ต้องหา แต่ยังสามารถโฟนอินเข้ามาได้ รัฐบาลจะดูแลเรื่องนี้อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ความพยายามในการติดตามตัวพ.ต.ท.ทักษิณนั้นเรายังทำอยู่ และเราทำตามกรอบของกฎหมาย แต่เราทำอะไรที่นอกเหนือกฎหมายไม่ได้
เมื่อถามว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันที่ 31 มี.ค.นี้ จะสามารถเข้าไปประชุมทำเนียบรัฐบาลหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ช่วงเช้าของวันดังกล่าวตนจะเข้าเฝ้าฯถวายพระพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องจากในวันคล้ายวันพระราชสมภพ จากนั้นตนจะเดินทางไปขึ้นเครื่องบินเดินทางไปประชุมจี -20 โดยในช่วงที่ตนไม่อยู่นั้น ได้มอบหมายให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาการแทน และตนจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แต่แนวทางก็เข้าใจกันดีอยู่แล้วว่ารัฐบาลจะเดินอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่าสรุปแล้วตั้งแต่วันจันทร์ที่ 30 มี.ค.นี้ ไปจนถึงวันที่จะเดินทางไปประเทศอังกฤษ จะไม่มีกำหนดการเข้าทำเนียบรัฐบาลใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีกำหนดการ แต่ถ้าจำเป็นต้องเข้าก็จะเข้า เมื่อถามว่าคิดว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะมีมากขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่สามารถบอกได้ เพราะเราเห็นความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดในเรื่องของตัวเลขของกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งบางช่วงก็มีมากขึ้น บางช่วงก็มีน้อยลง เป็นธรรมชาติของมัน เราจะพยายามดูแลไม่ให้กระทบต่อความมั่นคงและความสงบเรียบร้อย ตนย้ำว่าสังคมส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้บ้านเมืองเกิดปัญหาอีก และรัฐบาลจะพยายามให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
เมื่อถามว่าจะทำตามข้อเรียกร้องของพ.ต.ท.ทักษิณที่ให้ยุบสภา หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบว่าพ.ต.ท.ทักษิณเรียกร้องอะไรกันแน่ บางทีพ.ต.ท.ทักษิณบอกว่าให้แก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งถ้ายุบสภาแล้วจะแก้รัฐธรรมนูญได้อย่างไร พ.ต.ท.ทักษิณยังสับสนตัวเองอยู่ ส่วนแนวทางของร่างพ.รบ.การสร้างความปรองดองแห่งชาตินั้น ในส่วนของกระบวนการตรงนี้ทั้งหมด ถ้าใช้วิธีพูดทีละคน จะมีแต่ความสับสน ทั้งนี้ทั้งหมดต้องเอาเข้ามาอยู่ในกรอบของการทำงานเรื่องการปฏิรูปการเมืองเข้ามาพูดคุยกัน ถ้ามีความบริสุทธิ์ใจในการให้ระบบเดินหน้าและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ก็เอามาคุยกัน เปิดเวทีให้กว้าง ซึ่งรัฐบาลพร้อมอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เรียกร้องกันมาตอนนี้เป็นความพยายามที่จะปลุกระดมมากกว่า
เมื่อถามว่ารัฐบาลยังมีสมาธิในการทำงานดีอยู่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังมีสมาธิในการทำงานดี ตนสนใจกับงานของบ้านเมืองเป็นหลัก และมั่นใจว่ารัฐบาลทำงานได้
นายกฯไม่เชื่อ“ทักษิณ"โวถ้าเป็นรัฐบาลแล้วไม่กู้เงิน
นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวในการโฟนอินต่อกลุ่มคนเสื้อแดง โดยตำหนิแนวทางการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล ว่า ไม่มีปัญหาอะไรที่จะมาวิจารณ์นโยบายของรัฐบาล เพียงแต่การกู้ยืมเงินในช่วงที่ผ่านมาของรัฐบาลที่ทำให้ขาดดุลงบประมาณนั้น ก็เป็นเรื่องที่รัฐบาลชุดที่แล้วหรือรัฐบาลชุดก่อนๆก็ทำ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ อย่าพยายามบิดเบือนว่าสิ่งนี้ไม่ควรกระทำ ทั้งที่จริงถ้าใครที่เรียนเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น จะทราบว่าจังหวะเวลานี้เหมาะสมที่สุดที่จะทำงบประมาณแบบขาดดุล มิฉะนั้นเราจะไม่มีอะไรมาปกป้องคุ้มครองคนที่ตกงาน คนที่มีรายได้น้อย และเกษตรกรในยามเศรษฐกิจไม่ดีโดยมีปัจจัยจากเรื่องภายนอกและการที่รัฐบาลได้รับผลกระทบจากการจัดเก็บรายได้ ส่วนการกู้ยืมเงินมาเพื่อการลงทุนนั้นเป็นการเตรียมการสำหรับอนาคตและยืนยันว่าจะไม่กระทบต่อวินัยการเงินการคลัง ซึ่งตนเห็นว่าข้อเสนอของพ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้พิเศษอะไรที่บอกว่าไม่ให้กู้เงินแต่ให้ไปแคะกระปุกคือการนำเงินสำรองออกมาใช้ ซึ่งจะมีปัญหาในอีกทางหนึ่ง
เมื่อถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณสื่อสารถึงประชาชนในระดับรากหญ้าว่าพร้อมกลับมาแก้ปัญหาของประเทศ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีผลสำรวจต่างๆรวมถึงเอแบคโพลล์ ซึ่งตนไม่เชื่อว่าใครมาเป็นนายกฯ
แล้วจะไม่ต้องกู้เงินตอนนี้ คนส่วนใหญ่เข้าใจเศรษฐศาสตร์ดี
ผู้สื่อข่าวถามว่าในการไปร่วมประชุม จี- 20 ที่ประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ 31 มี.ค.- 3 เม.ย.นี้ จะไปชี้แจงสถานการณ์ในประเทศไทยต่อสังคมโลกอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนได้ติดตามการนำเสนอของสื่อต่างประเทศ ซึ่งเขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องภายในของเรามากนัก เพราะเขาเห็นว่าทุกอย่างเดินไปตามปกติ ส่วนใครจะใช้สิทธิเสรีภาพหรือมีความเห็นที่แตกต่างก็ดำเนินการได้ เวลานี้เหมือนกับคนไทยส่วนใหญ่ที่มองว่าปัญหาที่แท้จริงคือปัญหาเศรษฐกิจที่ต้องได้รับการแก้ไขบนความมั่นคงและยืนอยู่บนผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก เพราะฉะนั้น ชาวโลกสนใจว่าทำอย่างไรให้เศรษฐกิจโลกฟื้น ซึ่งตนไปประชุมครั้งนี้ก็ไปในฐานะประธานอาเซียน ต้องไปพูดถึงในจุดยืนของเราในฐานะของอาเซียนและตัวแทนประเทศกำลังพัฒนาหรือเศรษฐกิจที่เพิ่งเติบโต
เมื่อถามว่าการร่วมประชุมดังกล่าว จะมีการหารือกับนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องการจัดการหารอือแบบทวิภาคีนั้นยังไม่เรียบร้อย เพราะกำหนดการของผู้นำแต่ละประเทศค่อนข้างกันมาก แต่การพบปะแบบไม่เป็นทางการก็คงมีอยู่แล้ว
“สุเทพ”ชี้ แม้วต้องรับผิดชอบ คำพูดพาดพิง
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมถึงกรณีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ตนไม่ได้ประเมินเพราะถือเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่จะดูแลสถานการณ์ไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมกระทำผิดกฎหมาย ส่วนผู้ชุมนุมจะดำเนินการอย่างไรก็ขอให้ดูต่อไป
เมื่อถามว่ารัฐบบาลจะอธิบายกับประชาชนอย่างไร ถึงการดูแลความเรียบร้อยของการชุมนุม นายสุเทพ กล่าวว่า ทำไมต้องอธิบาย เพราะประชาชนก็เห็นอยู่ทุกวัน รัฐบาลไม่ต้องอธิบายเขาก็เห็น
เมื่อถามถึงกรณีที่ พ . ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โฟนอินแล้วพาดพิงสถาบันเบื้องสูง นายสุเทพ ย้อนถามว่า คุณถามเกินไป ต่อข้อถามว่ายังมีการพาดพิงถึงองคมนตรีด้วย นายสุเทพ กล่าว่า ไม่มีกฎหมายให้รัฐบาลไปดูแลเรื่องนี้ ส่วนองคมนตรีซึ่งถือเป็นผู้เสียหายก็ได้ออกมาชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบ ซึ่งประชาชนก็ต้องใช้วิจารณญาณ พิจารณาข้อเท็จจริงด้วยตัวเอง สำหรับประธานองคมนตรีที่เป็นผู้ใหญ่แล้วไม่ได้ออกมาตอบโต้นั้น พ . ต.ท.ทักษิณ ที่พูดพาดพิงก็ต้องรับผิดชอบคำพูดว่าถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง เหมาะสมหรือไม่เหมาะสมด้วยตัวเอง และประชาชนก็จะเห็นธาตุแท้ของ พงต.ท.ทักษิณมากขึ้น
เมื่อถามว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินโจมตีกรณีที่รัฐบาลกู้เงินและนำงบประมาณมาใช้กับแนวทางประชานิยมอย่างไม่ถูกต้อง นายสุเทพ กล่าวว่า ยืนยันรัฐบาลดำเนินการด้วยความโปร่งใส ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน และในทุกโครงการก็ได้คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชน และประเทศชาติเป็นหลัก เช่นโครงการ ให้ลูกหลานคนไทยได้เรียนหนังสือฟรี กองทุนช่วยเหลือผู้สูงอายุ กองทุนช่วยเหลือ อสม. รวมทั้งโครงการใหญ่ๆ เช่น รถไฟรางคู่ที่รัฐบาลกำลังดำเนินการและจะทำให้เร็วที่สุด
เมื่อถามว่าเกรงหรือไม่การโฟนอินของ พ . ต.ท.ทักษิณ จะเรียกแนวร่วมคนเสื้อแดงให้ออกมาชุมนุมเพิ่มากขึ้น รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่คิดว่าคนจะสนับสนุนมากอย่างที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตกัน ถ้ายิ่งพูดไม่เหมาะสมคนจะยิ่งน้อยกว่าเก่า ต่อข้อถามว่าหากมีการชุมนุมยืดเยื้อรัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นเรื่องของเขา เราคงไม่ว่าอะไรไม่ได้ เมื่อถามว่ารัฐมนตรีจะเข้าไปทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลหรือต้องย้ายสถานที่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนจะพยายามเข้าไปทำหน้าที่ของตัวเอง และยืนยันมาตลอดว่าใม่ได้หาสถานที่สำรองเอาไว้ เมื่อถามว่า พ . ต.ท.ทักษิณ เรียกร้องให้รัฐบาลกลับเริ่มต้นใหม่ด้วยการยุบสภา นายสุเทพ กล่าว่า สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณพูด เพื่อหวังประโยชน์ 3 เรื่องให้ตัวเองละ