คาดบอร์ดน้ำเมาห้ามขายแค่1วัน เอียงตามสนั่น โพลหนุนห้ามตลอดสงกรานต์ ซัดรบ.รักนายทุนมากกว่าปชช.


ลุ้นบอร์ดนโยบายแอลกอฮอล์แห่งชาติห้ามขายเหล้าช่วงสงกรานต์หรือไม่ คาดเอียงตาม"เสธ.หนั่น" ห้ามขายแค่ 1 วัน ผอ.ศวส.จี้ต้องมีคนรับผิดชอบหากคุมแค่ 13 เม.ย.แล้วไม่ได้ผล โพลระบุ 68.5% หนุนห้ามขายน้ำเมาตลอดสงกรานต์ 76% ระบุขายบางเวลาไม่ช่วยลดอุบัติเหตุ 43.1 เชื่อรัฐบาลรักนายทุนมากกว่าชาวบ้าน

 
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ในการประชุม คณะกรรมการนโยบายแอลกอฮอล์แห่งชาติ ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 30 มีนาคมนี้ ซึ่งมี พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน จะมีการพิจารณาข้อเสนอของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้ออกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง "มาตรการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นเวลา 3 วัน" หลังจากคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความแล้วว่าประกาศได้ไม่ขัดกับประกาศคณะปฏิวัติ 253/2515 มีแนวโน้มว่า ที่ประชุมจะมีมติให้ทดลองห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพียง 1 วัน คือ ในวันจันทร์ที่ 13 เมษายนนี้ เพื่อประเมินก่อนว่า มาตรการดังกล่าวช่วยลดอุบัติเหตุลงหรือไม่ ตามแนวคิดส่วนตัวของ พล.ต.สนั่นที่อ้างเหตุผลทางด้านการท่องเที่ยว จากนั้นที่ประชุมจึงจะพิจารณาว่าในช่วง 1 วันนั้น จะห้ามจำหน่ายทุกสถานที่เลย หรือให้ยกเว้นโรงแรมและสถานบันเทิงเริงรมย์

นพ.บัณฑิต ศรไพศาล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.) กล่าวว่า น่าติดตามอย่างยิ่งว่าที่ประชุมจะมีมติตามที่ พล.ต.สนั่นเคยเสนอไว้หรือไม่ แต่ฝากถึงคณะกรรมการให้พิจารณาโดยอิงข้อมูลทางวิชาการและข้อเท็จจริง เนื่องจากจุดประสงค์เดิมของนโยบายคือห้ามจำหน่ายอย่างต่ำ 3 วัน ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อลดวงจรการซื้อดื่มเพิ่ม หากไม่ดำเนินการเช่นนี้จะไม่สามารถทราบถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น อย่าลืมว่า การห้ามจำหน่ายเพียงวันเดียว แทบไม่ส่งผลอะไรเลย แต่หากกังวลว่าจะส่งผลต่อการท่องเที่ยวก็อาจยกเว้นให้โรงแรมจำหน่ายได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้น เพราะมีราคาแพง

"หากกรรมการยืนยันจะกำหนดห้ามจำหน่ายเพียง 1 วัน จะมีอะไรมายืนยันว่าข้อกำหนดดังกล่าวจะลดอุบัติเหตุจากการดื่มน้ำเมาได้ หากสุดท้ายยังมีคนตายเพิ่ม ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ เรื่องนี้ควรมีคนรับผิดชอบกรณีที่นโยบายไม่ส่งผลด้วย ส่วนที่ว่าใครจะรับผิดชอบอย่างไร ก็แล้วแต่การพิจารณาของคนคนนั้น" นพ.บัณฑิตกล่าว

นายสงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการเครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยหากจะกำหนดห้ามขายเหล้าเพียงวันเดียว เนื่องจากแทบไม่ช่วยอะไร เพราะสามารถซื้อกักตุนได้ง่ายมาก แต่หากห้ามขาย 3 วัน จะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตได้ เพราะการกักตุนค่อนข้างทำได้ยาก เนื่องจากไม่สามารถคาดการณ์จำนวนการกักตุนสินค้าประเภทนี้ได้ ทางที่ดีที่สุดควรห้ามขายเหล้าทั้ง 7 วัน ตลอด 24 ชั่วโมง เพราะข้อมูลสถิติที่ผ่านมา ระบุชัดว่าอุบัติเหตุจากการดื่มน้ำเมาจนตายเกิดขึ้นทุกๆ 20 นาที การสั่งห้ามขายเหล้า 3 วัน น่าจะช่วยลดการตายได้ไม่ต่ำกว่า 100 คน นอกจากนี้ ที่อ้างว่าอาจส่งผลต่อการท่องเที่ยวนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะเคยสำรวจพบว่า 95% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดไม่ได้สนใจว่าจะจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือไม่ หากกำหนดห้ามขายเหล้าเพียง 1 วัน แล้วสุดท้ายไม่เป็นผล รัฐบาลต้องตอบคำถามกับประชาชนให้ได้ว่ามีอะไรอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้หรือไม่

ทางด้าน นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลสำรวจ "ประชาชนคิดอย่างไรต่อรัฐบาลในประเด็นร้อนมาตรการห้ามขาย/ไม่ห้ามขายเหล้า ช่วงเทศกาลสงกรานต์" กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ใน 18 จังหวัดของประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 2,147 ครัวเรือน ระหว่างวันที่ 25-28 มีนาคม 2552 ประเด็นสำคัญที่ค้นพบ คือ ประชาชนที่ถูกศึกษาส่วนใหญ่หรือร้อยละ 84.6 เห็นว่าการดื่มเหล้าเป็นสาเหตุสำคัญทำให้เกิดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์ และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 68.5 เห็นด้วยกับมาตรการห้ามขายเหล้าตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในขณะที่ร้อยละ 27.3 ไม่เห็นด้วยและร้อยละ 4.2 ไม่มีความเห็น

เมื่อถามว่า ถ้าอนุญาตให้ขายเหล้าได้ "บางช่วงเวลา" ในเทศกาลสงกรานต์ จะช่วยแก้ปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนได้หรือไม่ พบส่วนใหญ่หรือร้อยละ 76.1 ไม่คิดว่าจะช่วยได้ ขณะที่ร้อยละ 12.1 คิดว่าจะช่วยแก้ปัญหาได้ และร้อยละ 11.8 ไม่มีความเห็น นอกจากนี้ เมื่อถามว่าถ้าอนุญาตให้ขายเหล้าได้ใน "บางสถานที่" เช่น อนุญาตให้ขายได้ในร้านอาหาร แต่ห้ามขายในร้านสะดวกซื้อ จะช่วยแก้ปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนได้หรือไม่ พบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 81.4 ไม่คิดว่าจะช่วยได้ ร้อยละ 8.5 คิดว่าจะช่วยแก้ปัญหาอุบัติเหตุได้ และร้อยละ 10.1 ไม่มีความเห็น

ประเด็นที่น่าเป็นห่วงคือประชาชนที่ถูกศึกษา ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 77.8 รู้สึกเคลือบแคลงสงสัยต่อรัฐบาล และผู้ใหญ่ในสังคมเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มนายทุนถ้าปล่อยให้ขายเหล้าได้ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ขณะที่ร้อยละ 13.9 ไม่รู้สึกเคลือบแคลงสงสัยอะไร และร้อยละ 8.3 ไม่มีความเห็น ยิ่งไปกว่านั้นประชาชนก้ำกึ่งกันคือ ร้อยละ 44.2 คิดว่ารัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ยังคงคำนึงถึงชีวิตของประชาชนมากกว่าผลประโยชน์ของกลุ่มนายทุน ในขณะที่ร้อยละ 43.1 คิดว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันคำนึงถึงผลประโยชน์ของกลุ่มนายทุนมากกว่า และร้อยละ 12.7 ไม่มีความเห็น

"ผลสำรวจก่อนหน้านี้พบว่า ภาพลักษณ์ของคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีจุดอ่อนตกเป็นรองด้อยกว่านายกรัฐมนตรีคนก่อนหน้านี้ในเรื่องความกล้าคิดกล้าทำ ถ้าปล่อยให้เป็นเช่นนี้อาจเป็นหนึ่งในความรู้สึกนึกคิดที่สะสมทางลบของสาธารณชนต่อเสถียรภาพของรัฐบาลโดยรวมได้ ดังนั้น คุณอภิสิทธิ์ต้องกล้าคิดกล้าตัดสินใจอย่างรวดเร็วฉับไวให้มากขึ้น มาตรการห้ามขายเหล้าตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นบทพิสูจน์อีกบทหนึ่งว่าเป็นอิสระไม่อยู่ภายใต้อิทธิพลของใคร และเล็งเห็นถึงความปลอดภัยและชีวิตของชาวบ้านทั่วไปเป็นสำคัญหรือไม่" นายนพดลกล่าว

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์