"จตุพร" บอก "ป๋าเปรม "แค่ไพร่ กล่าวพาดพิงได้ ยันไม่ได้จาบจ้วงกระทบสถาบัน "ณัฐวุฒิ"ซัด"สุรยุทธ์"หมดต้นทุนแล้วเรื่องเขายายเที่ยง "กษิต" เตรียมส่งทีมเจรจาทางการเอมิเรตส์ หวังสลายที่มั่นอดีตผู้นำที่ดูไบ "ปีย์ มาลากุล"ยอมรับเชิญ"สุรยุทธ์"พบ"3 บิ๊กตุลาการ"จริง ปัดวางแผนโค่น"ทักษิณ" แค่ถกแก้วิกฤตบ้านเมือง "ทักษิณ"งดวิดีโอลิงก์วันพระราชทานเพลิงพี่สาว
"ทักษิณ"งดโวิดีโอลิงก์วันพระราชทานเพลิงพี่สาว
ด้านความเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือ "กลุ่มคนเสื้อแดง"นั้น เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 29 มีนาคม นายจตุพร พรหมพันธุ์ พร้อมด้วยนายจรัล ดิษฐาอภิชัย และนายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำ นปช. ร่วมแถลงข่าว โดยนายจตุพรกล่าวว่า ล่าสุดได้พูดคุยทางโทรศัพท์มือถือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าในวันนี้ (29 มี.ค.) จะงดการโฟนอินและถ่ายทอดสดวิดีโอลิงก์ เนื่องจากเป็นวันพระราชทานเพลิงนางเยาวลักษณ์ ชินวัตร พี่สาว พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งดูจะไม่เหมาะสมหากต้องโฟนอินในวันนี้ โดย พ.ต.ท.ทักษิณต้องการทำใจ และนั่งสมาธิภาวนาอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่พี่สาว เพราะไม่มีโอกาสได้มาร่วมในพิธี แต่วันที่ 30 มีนาคม เป็นต้นไป จะถ่ายทอดสดวิดีโอลิงก์เหมือนเดิม
นายจตุพรกล่าวอีกว่า ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 31 มีนาคม กลุ่มคนเสื้อแดงจะไม่เคลื่อนไหวไปยังสถานที่ใด การที่นายอภิสิทธิ์ และ ครม.จะเดินทางเข้าทำเนียบ ก็สามารถดำเนินการได้ แต่ไม่รับประกันว่าจะออกจากทำเนียบได้หรือไม่ เพราะผู้มาเข้าร่วมจำนวนมาก และจะมากไปจนถึงบ้านสี่เสาเทเวศร์ และว่า การพูดผ่านวิดีโอลิงก์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากใครในรัฐบาลตามที่นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย อ้าง เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณก็เชี่ยวชาญด้านนี้อยู่แล้ว
บอก "ป๋า" แค่ไพร่-พาดพิงได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายอภิสิทธิ์ระบุว่ากลุ่มผู้ชุมนุมไม่ควรจาบจ้วงเบื้องสูง นายจตุพรกล่าวว่า การกล่าวถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ไม่ได้อยู่ในสถาบันเบื้องสูง แต่เป็นแค่บุคคลธรรมดา หรือที่เรียกว่าไพร่คนหนึ่ง ที่ทำหน้าที่ปรึกษาพระเจ้าแผ่นดิน เหมือนกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่เป็นชนชั้นไพร่เหมือนกัน
นายจักรภพกล่าวว่า ขณะนี้มีกระแสข่าวว่าตำรวจและทหารระดับ พล.อ.จะส่งกำลังพลกว่าร้อยนาย สวมเสื้อแดงเข้าร่วมการชุมนุม เม็ดกระดุมติดกล้องบันทึกภาพและเสียง เข้ามาเพื่อก่อกวน และยั่วยุผู้ชุมนุมให้มีอารมณ์โทสะ ให้เกิดความรุนแรงและหมิ่นเบื้องสูง อยากส่งสัญญาณให้คนที่ต้องการใช้วิชามารดังกล่าวว่า หากจับกุมคนเสื้อแดงด้วยวิธีนี้นานวันเข้าก็อาจเกิดความวุ่นวายได้
ห้าม"สุเทพ"เข้าทำเนียบหลัง31มี.ค.
เวลา 18.00 น. ประชาชนทยอยเข้ามาร่วมชุมนุมอย่างต่อเนื่อง จนบริเวณตั้งแต่ทางเข้าบริเวณวัดเบญจมบพิตร จนถึงสะพานชมัยมรุเชฐเนื่องแน่นไปด้วยคนเสื้อแดง และตั้งแต่สะพานชมัยมรุเชฐถึงแยกมิสกวันคลาคล่ำไปด้วยผู้ชุมนุมเช่นเดียวกับโดยรอบพื้นที่ทำเนียบรัฐบาลด้านอื่น โดยแกนนำผลัดกันอภิปรายโจมตีองคมนตรีที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรัฐประหาร 19 กันยายน อย่างต่อเนื่อง
จากนั้น นายจตุพร พรหมพันธุ แจ้งผู้ชุมนุมเรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณงดการถ่ายทอดวิดีโอลิงก์ เพราะเป็นวันพระราชทานเพลิง นางเยาวลักษณ์ ชินวัตร พี่สาว แต่จะโฟนอินมาค่ำวันที่ 30 มีนาคม แน่นอน พร้อมทั้งยืนยันว่าช่วงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไปร่วมประชุมจี-20 ในวันที่ 31 มีนาคม และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รักษาการแทน คนเสื้อแดงจะไม่ยินยอมให้นายสุเทพเข้าทำเนียบแน่นอน
กลุ่ม"ลูกป๋า"ขู่ตอบโต้เสื้อแดง
วันเดียวกัน กลุ่มคนรักป๋าเปรม และสมาคมชาวสงขลา นำโดย นายวิรัตน์ ทองใบเพชร นายกสมาคมชาวสงขลา ได้นัดชุมนุมสมาชิกสมาคม และออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 ตอบโต้การกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณ และกลุ่มคนเสื้อแดงที่ปราศรัยพาดพิงสถาบันองคมนตรี เรียกร้องให้รัฐบาล เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบจัดการกับผู้ชุมนุมและผู้ปราศรัย ไม่ใช่ปล่อยนิ่งเฉย มิฉะนั้น กลุ่มคนรักป๋าเปรมจะเข้าไปคัดค้านตอบโต้กลุ่มผู้ชุมนุมทุกรูปแบบในทันที
"ปีย์"รับเปิดบ้านคุย-แต่ไร้ปฏิวัติ
นายปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ระบุเป็นเจ้าของบ้านเชิญ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ขณะเป็นองคมนตรี มาพบกับตุลาการระดับสูงเพื่อวางแผนโค่นล้มรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ก่อนการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ให้สัมภาษณ์ "มติชนออนไลน์" และเผยแพร่เมื่อวันที่ 29 มีนาคม โดยยืนยันว่าในการพูดคุยกัน 7 คน ที่บ้าน ประกอบด้วย พล.อ.สุรยุทธ์, พล.อ.พัลลภ, นายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด, นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ ขณะเป็นประธานศาลฎีกา, นายจรัญ ภักดีธนากุล ขณะเป็นเลขาธิการประธานศาลฎีกา, นายปราโมทย์ นาครทรรพ และตน ไม่มีการพูดเรื่องการวางแผนรัฐประหารหรือโค่นล้มรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเพียงเชิญคนสนิทสนมและเพื่อน มารับประทานอาหารเพื่อพูดคุยปัญหาบ้านเมือง
เชื่อ"พัลลภ"โกรธ "แอ้ด"ไม่ให้เก้าอี้
นายปีย์กล่าวต่อไปว่า ได้ถามฝ่ายตุลาการถึงแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งนายอักขราทรและนายชาญชัยอธิบายแนวทางกฎหมายโดยไม่ได้ลงรายละเอียดถึงตัวบุคคล หลังจากนั้นคุยกันเรื่องอดีต เรื่องมโนสาเร่ ยอมรับว่าพูดถึงการเลือกตั้ง แต่จำไม่ได้ในรายละเอียด
"ยืนยันว่าไม่มีการพูดเรื่องปฏิวัติ หรือพูดเรื่องตำแหน่ง ไม่มีทหารอยู่สักคน จะพูดเรื่องปฏิวัติได้อย่างไร ผมดู พล.อ.สุรยุทธ์ให้สัมภาษณ์ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ตรงกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แต่ที่ พล.อ.พัลลภพูดไม่ตรง ก็แปลกใจว่าทำไม คิดว่า อาจไม่พอใจ พล.อ.สุรยุทธ์ที่ไม่ได้ตำแหน่งอะไรในรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ หรือไม่ได้รับการตอบแทนอะไรบางอย่าง"นายปีย์กล่าว
"สุเทพ" ชี้ "แม้ว" พูดไม่ดี-คนยิ่งน้อย
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินแล้วพาดพิงองคมนตรีว่า องคมนตรีผู้เสียหายได้ออกมาชี้แจงให้ประชาชนทราบแล้ว ประชาชนก็ต้องใช้วิจารณญาณพิจารณาข้อเท็จจริงด้วยตัวเอง พ.ต.ท.ทักษิณพูดพาดพิงประธานองคมนตรีก็ต้องรับผิดชอบคำพูดว่าถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง เหมาะสมหรือไม่เหมาะสมด้วยตัวเอง และประชาชนจะเห็นธาตุแท้ของ พ.ต.ท.ทักษิณมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า วิตกหรือไม่ว่าการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณจะเรียกแนวร่วมคนเสื้อแดงให้ออกมาชุมนุมมากขึ้น นายสุเทพกล่าวว่า ไม่คิดว่าคนจะสนับสนุนมากอย่างที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตกัน ถ้ายิ่งพูดไม่เหมาะสม คนจะยิ่งน้อยกว่าเก่า เมื่อถามว่า รัฐมนตรีจะเข้าไปทำงานที่ทำเนียบ หรือต้องย้ายสถานที่ นายสุเทพกล่าวว่า จะพยายามเข้าไปทำหน้าที่ของตัวเอง และยืนยันมาตลอดว่าไม่ได้หาสถานที่สำรองเอาไว้ เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภามาเริ่มต้นกันใหม่ นายสุเทพกล่าวว่า สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณพูดเพื่อหวังประโยชน์ 3 เรื่องให้ตัวเอง
"สาทิตย์" เล็งฟันขรก.ช่วยวิดีโอลิงก์
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข้อสังเกตเรื่องการปล่อยให้ พ.ต.ท.ทักษิณใช้วิดีโอลิงก์อย่างเสรีว่า รัฐบาลตามเรื่องนี้มาตั้งแต่ครั้งก่อนๆ แล้ว และมีข้อมูลก่อนหน้าว่ากลุ่มคนทำวิดีโอลิงก์ให้ส่วนหนึ่งเป็นข้าราชการ ขณะนี้กำลังติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิดว่าเป็นส่วนไหน และให้หัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำเรื่องนี้อยู่ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณใช้หลายวิธีมาก มีทั้งผ่านดาวเทียม เช่น ยูลิงก์ ซึ่งเป็นวิธีการที่หลบเลี่ยงข้อกฎหมาย
เมื่อถามต่อว่า รัฐบาลตัดสัญญาณวิดีโอลิงก์ได้เลยหรือไม่ นายสาทิตย์กล่าวว่า ถ้าผิดก็ดำเนินการได้ ส่วนข้อกฎหมายที่จะดำเนินการ พ.ต.ท.ทักษิณ มี 2 ส่วน คือ 1.สิทธิส่วนบุคคล บุคคลนั้นต้องใช้สิทธิตามกฎหมาย 2.หากคาบเกี่ยวความเสียหายของบ้านเมืองก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ต้องดูเรื่องความละเอียดอ่อนของมวลชน รัฐบาลไม่ต้องการสร้างความแตกแยกให้เพิ่มเติมขึ้น ซึ่งอาจเข้าทางแกนนำให้ชุมนุมยืดเยื้อ
รับคุมยากวิทยุชุมชนช่วยกระพือ
นายสาทิตย์กล่าวต่อไปว่า ในที่ประชุมหน่วยงานความมั่นคงที่ผ่านมา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ได้กำชับให้ตำรวจนครบาล (บช.น.) ตักเตือน และสอดส่องเรื่องการถ่ายทอดสัญญาณโฟนอินและวิดีโอลิงก์ทางสถานีวิทยุชุมชนไปแล้ว ตำรวจรับปากไปแล้ว แต่ไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงยังถ่ายทอดสัญญาณมากยิ่งขึ้น กรณีนี้ไม่ได้อยู่ในอำนาจของตนเอง แต่ขึ้นอยู่กับอำนาจของคณะกรรมการกิจการโทรคมมาคมแห่งชาติ (กทช.) และอนุ กทช. เท่าที่ทราบอนุ กทช.ได้ทำหนังสือตักเตือนไปที่วิทยุชุมชนเหล่านี้หลายครั้งแล้ว แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ
"กษิต" จะส่งทีมเจรจาดูไบตัดฐาน
ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ ในการประชุมใหญ่พรรคประชาธิปัตย์ ช่วงตอบคำถามสมาชิกพรรค มีสมาชิกถามนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ว่า เมื่อไหร่จะนำ พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาจัดการเสียที นายกษิตกล่าวว่า ขณะนี้ได้แจ้งไปสถานทูตทั่วโลกแล้ว และได้พูดเป็นการภายในกับทูตต่างๆ ว่ามีความไม่สบายใจมาก หากประเทศเหล่านั้นปล่อยให้ พ.ต.ท.ทักษิณใช้ประเทศนั้นๆ เป็นเวทีโจมตีประเทศไทย นอกจากนี้ ยังได้ประสานอัยการสูงสุดเพื่อแจ้งรัฐบาลต่างประเทศว่าถ้ารู้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ที่ไหน ก็จะขอให้ส่งตัวกลับมาดำเนินคดีกรณีมีสนธิสัญญาร่วมกัน ล่าสุด อัยการสูงสุดส่งคณะไปฮ่องกงเพื่อเริ่มเจรจาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนที่ยังตกค้างกันอยู่แล้ว และในสัปดาห์หน้า จะมีคณะไปที่กรุงดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อแจ้งความในใจให้รัฐบาลทราบ เพราะมีข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณมักใช้ที่ดังกล่าวเป็นฐานปฏิบัติการ
ปลุกสมาชิก"ปชป." สู้-ขอนำลุย
นายกษิตชี้แจงถึงความคืบหน้าในการยกเลิกหนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ทางสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามีหนังสือแจ้งมายังกระทรวงการต่างประเทศ หลังจากถามไปว่า ถ้ายกเลิกพาสปอร์ตเล่มสีน้ำตาล (บุคคลธรรมดา) จะเป็นการกระทบสิทธิของ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ ทางกฤษฎีกาบอกว่า ไม่รับตีความ เพราะเป็นเรื่องการเมือง จึงแจ้งให้นายกฯทราบแล้ว
"แต่ผมขอเปิดใจว่า วันนี้เป็นการต่อสู้ของ 2 อุดมการณ์ คือ เราต้องการมีประชาธิปไตย มีสถาบันพระมหากษัตริย์ มีรัฐธรรมนูญ แต่อีกฟากไม่ต้องการมีสิ่งเหล่านี้ ดังนั้น เราต้องถามตัวเองว่า เราต้องการให้มีสิ่งเหล่านี้หรือไม่ มันถึงเวลาที่เราต้องออกมาแล้ว เพราะวันนี้มันเป็นเรื่องความอยู่รอดของสิ่งที่เราอยู่กันมานานหลายร้อยปี เราต้องสู้แล้ว เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องการชิงอำนาจทางการเมือง วันนี้ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างใหญ่หลวงที่มีกลุ่มบุคคลที่พยายามดำเนินการบางอย่าง วันนี้ผมพร้อมจะลุยเองในเรื่องนี้" นายกษิตกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พยายามบ่ายเยี่ยงไม่ขอตอบคำถามของสมาชิกเกี่ยวกับการวิดีโอลิงก์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ
มท.1ยันไม่มีเหตุผลยุบสภา
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการที่ พ.ต.ท.ทักษิณเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภาว่า ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องยุบสภา เชื่อว่ายังไม่ถึงเวลา แต่รู้สึกหนักใจหากมีการชุมนุมยืดเยื้อ ส่วนการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 31 มีนาคมนี้ ทางสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังไม่ได้แจ้งย้ายสถานที่มา แต่เชื่อว่าจะต้องประชุม ครม.ที่ทำเนียบแน่นอน
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศชาติกำลังรุกเป็นไฟ ควรเอาน้ำมาดับ อย่าเอาเชื้อเพลิงมาเติมให้ไฟแรงขึ้น หากชุมนุมยืดเยื้อยิ่งจะส่งผลกระทบถึงความเชื่อมั่นทั้งในด้านเศรษฐกิจ และการลงทุน
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึง ครม.นกขมิ้นว่า หากมีจริงก็ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศการประชุม เป็น ครม.สัญจร
แกนนำพธม.เล็งถกรับศึก "แม้ว"
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ให้สัมภาษณ์ว่า บุคคลระดับสูงทั้งองคมนตรี ผู้พิพากษา และคนอื่นๆ ต้องมีกลไกที่จะชี้แจงความจริงกับประชาชนเพื่อไม่ให้สังคมตกหลุมพรางของ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยเฉพาะรัฐบาลต้องมีกลไกตอบโต้ที่มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ ไม่ใช่ต่างคนต่างพูดจนดูเหมือนแข่งกันเอาตัวรอด เพราะถ้ายังอยู่ในสภาพการณ์แบบนี้ถือว่าตามหลัง พ.ต.ท.ทักษิณหลายช่วงตัว อย่าลืมว่าในขณะนี้ความสำเร็จของ พ.ต.ท.ทักษิณ และขบวนการเสื้อแดงคือยกระดับจากความพ่ายในสภามาเป็นปัญหาความมั่นคงของประเทศไปแล้ว เพราะสามารถดึงสถาบันเบื้องสูงมา แม้ พ.ต.ท.ทักษินจะระบุศัตรูทางการเมืองเป็นองคมนตรีบางคน แต่โดยนัยยะนั้นต้องการให้ทุกสายตาของสังคมพุ่งเป้าตั้งคำถามในสถาบัน โดยเฉพาะการปราศรัยขยายความของแกนนำ นปช.นั้นชัดเจนว่ากำลังขยายความโจมตีสถาบันอย่างรุนแรง
"แกนนำพันธมิตรให้ความสนใจและจับตาเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการคุกคามสถาบันเบื้องสูงนั้นอาจเป็นเหตุผลที่พันธมิตร จะต้องหารือเพื่อกำหนดท่าทีเป็นกรณีพิเศษเร็วๆ นี้ เพื่อเตรียมพร้อมเคลื่อนไหวตลอดเวลา" นายสุริยะใสกล่าว
ตร.เชื่อไม่บุกเข้าบ้านสี่เสาฯ
พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะรองโฆษก บช.น. กล่าวหลังประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงรอบทำเนียบรัฐบาลว่า วางกำลังตำรวจดูแลโดยรอบรวมถึงจุดล่อแหลมต่างๆ 23 กองร้อย หรือ 3,450 นาย ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียน และหากมีการเคลื่อนขบวนตามยุทธศาสตร์ดาวกระจาย จะจัดกำลังในจุดที่เคลื่อนขบวนจุดละ 2 กองร้อย หรือ 300 นาย ส่วนยอดผู้ชุมนุมไม่เปลี่ยนแปลงเท่าใด เนื่องจากส่วนหนึ่งเดินทางกลับ และอีกส่วนหนึ่งจะเข้ามาแทน แต่จะมากที่สุดเป็นช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โฟนอินเข้ามา ถือเป็นไฮไลต์ ส่วนกรณีกลุ่มคนเสื้อแดงจะไปปิดล้อมหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษนั้น เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาใดๆ เนื่องจากขณะนี้ทราบว่า พล.อ.เปรมไม่อยู่บ้าน ผู้ชุมนุมคงไม่บุกเข้าไปอย่างแน่นอน
"ณัฐวุฒิ" ซัด"สุรยุทธ์" หมดต้นทุน
ทางด้านความเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือ "กลุ่มคนเสื้อแดง"นั้น กลุ่มคนเสื้อแดงยังคงปักหลักชุมนุมปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลเป็นวันที่ 4 ช่วงเช้าจนถึงบ่าย มีประชาชนเข้าร่วมชุมนุมไม่มากนัก เนื่องจากอากาศที่ร้อนอบอ้าว ส่วนใหญ่นั่งๆ นอนๆ หลบร้อนอยู่ในเต๊นท์ และใต้ต้นไม้
เวลา 10.00 น. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. แถลงที่บริเวณเวทีสะพานชมัยมรุเชฐ ถึงการแถลงข่าวของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และนายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่ออกมาโต้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ปฏิเสธการอยู่เบื้องหลังการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ว่า น่าสังเกตว่า หากไม่ได้อยู่เบื้องหลังจริงๆ เหตุใดนายจรัญจึงไม่กล้าออกมาปฏิเสธทันทีเมื่อถูกซักถาม แต่ต้องรอปรึกษาผู้ใหญ่ก่อน ซึ่งหลังจาก พล.อ.สุรยุทธ์แถลงเสร็จไม่นานนัก นายจรัญก็ออกมาปฏิเสธทันที อยากถามนายจรัญว่า สาเหตุที่ไม่กล้าชี้แจงก่อนหน้านี้ เพราะกลัวว่าถ้อยคำจะไม่ตรงกันหรือไม่
นายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ อยากเตือน พล.อ.สุรยุทธ์ว่าอย่าเชื่อมั่นตนเองมากนัก เพราะต้นทุนความน่าเชื่อถือไม่เหลือแล้ว อยากให้สังคมไทยใช้สติพิจารณาความน่าเชื่อถือของตัวบุคคลจากอดีตที่ผ่านมา การกระทำของ พล.อ.สุรยุทธ์ชี้ชัดว่าพูดอย่าง แสดงอย่าง และกระทำอย่าง เช่น เป็นประธานชมรมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติเขาใหญ่ แต่กลับมีสิทธิครอบครองที่ดินยอดเขายายเที่ยง หรือกรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยพูดในคลิปวิดีโอว่า หากได้เป็นนายกฯจะให้ทีวีช่องหนึ่ง แต่พอได้เป็นก็ไม่ได้ให้ แบบนี้ท่านไม่มีต้นทุนทางสังคมอีกแล้ว
ไม่ให้ราคา"ปีย์" - พวกเดียวกัน
"คนเสื้อแดงยืนยันว่าจะขับไล่รัฐบาลชุดนี้ พร้อมกับโค่นอำนาจของระบอบอำมาตยาธิปไตย เปิดแนวรบโดยมวลชนกับองคมนตรีบางคนที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เนื่องจากแทรกแซงทางการเมือง ซึ่งจะเป็นการเคลื่อนไหวทางมวลชนโดยอิงข้อมูลข้อเท็จจริง ไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันองคมนตรี และสถาบันเบื้องสูง" นายณัฐวุฒิกล่าว และว่า กลุ่มคนเสื้อแดงจะยุติการชุมนุมเมื่อไหร่คงสรุปไม่ได้ในขณะนี้ แต่จะพร้อมขับไล่รัฐบาลทุกเมื่อ โดยเฉพาะการประชุมคณะรัฐมนตรี หรือการทำงานใดๆ ไม่ว่ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะเข้าทำเนียบด้วยวิธีใดก็ตาม กลุ่มเสื้อแดงจะขับไล่ทันที
ส่วนกรณีนายปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา ออกมาให้สัมภาษณ์ย้ำคำชี้แจงของ พล.อ.สุรยุทธ์นั้น นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ไม่แปลก เพราะนายปีย์เป็นอีกคนที่ยืนอยู่ฝ่ายเดียวกับ พล.อ.สุรยุทธ์ และยืนฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ และนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเรียกสมญาว่า หัวเถิก จึงไม่ผิดความคาดหมายอะไร เพราะเป็นพวกเดียวกัน
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
