คมชัดลึก :"สุรยุทธ์"ยอมรับไปบ้าน"ปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา"จริง แต่ถกสถาน การณ์บ้านเมือง เพื่อหาทางออก ไม่มีการพูดเรื่องการปฏิวัติแน่นอน
(28มี.ค.) พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี กล่าวชี้แจงกรณีถูกพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีต รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (รอง ผอ.รมน.) ระบุว่า เกี่ยวข้องในการร่วมวางแผนล้มรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ห้องรับรองพิเศษ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยยอมรับว่า ตนไปทานข้าวบ้าน นายปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา โดยนายปีย์เป็นคนเชิญในลักษณะเชิญไปทานเข้า ตนรู้จักนายปีย์มานาน ก็แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น พูดคุยเรื่องสถานการณ์บ้านเมืองไม่ได้เกี่ยวกับการเมืองอย่างเดียวว่ามีปัญหาจะมีทางออกอย่างไร จากมุมมองของแต่ละฝ่าย แต่ไม่มีพูดเรื่องปฏิวัติรัฐประหาร
และที่คุณทักษิณได้วิดีโอลิ้งเข้ามาพูดเรื่องที่เกิดขึนช่วงปี2545นั่นเป็นอีกส่วนหนึ่งที่อยากเรียนว่าตนดำเนินการทุกอย่างตลอด หมายถึงแผนเคลื่อนย้ายกำลังไปฝึกชายแดนเพื่อพิทักษ์ดินแดนส่วนหลัง ซึ่งกองทัพบกทำเรื่องขออนุมัติไปยังผบ.สส. ซึ่งกองบัญชาการทหารสูงสุด ก็ทำเรื่องไปยัง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รมว.กห. แต่สิ่งที่ได้รับจากกลาโหมคือคำสั่งให้อนุมัติให้เคลื่อนย้ายกำลังไปใกล้ชายแดนได้ ซึ่งคำสั่งนี้เป็นคำสั่งชั้นความลับไม่สามารถเปิดเผยได้ขณะนี้ แต่ได้รับอนุมัติจาก รมว.กห.เมื่อ 12 เม.ย.45 และดำเนินการตามขึ้นตอน จากนั้นเมื่อรัฐบาลเห็นว่าไม่มีความเหมาะสมก็ได้ถอนกำลังกลับ เมื่อวันที่ 20 กว่าๆ ของเดือน พ.ค.
ส่วนที่ว่ามีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ตนคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวข้องฝ่ายใด แต่เป็นเรื่องที่เกิดบริเวณชายแดน ซึ่งมีกำลังชนกลุ่มน้อย ดังนั้น กองทัพบกไม่ได้เกี่ยวข้อง ซึ่งการสอบสวนก็ชัดเจนหลังจากนั้นว่าไม่ได้เป็นเรื่องที่กองทัพบกดำเนินการ
พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ตนอยากเรียนว่า หลายสิ่งที่นำออกมาพูด แต่ไม่ได้อยู่บนความเป็นจริงแต่คลาดเคลื่อน ทำให้เกิดความคิดเห็นที่กระทบกับเรื่องของตนเอง แม้แต่เรื่อง พล.อ.จารุภัทร เรืองสุวรรณ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตนไปพบพล.อ.จารุภัทร โดยพล.ต.จำลอง ศรีเมือง ได้โทรศัพท์มาขอให้ไปช่วยพูดด้วย เพราะโอกาสที่กกต.ทั้งหมด จะถูกฟ้องศาลมีมาก และโอกาสที่จะพลาดมีสูง ก็ได้คุยกัน
กระทั่ง พล.อ.จารุภัทร ได้มาขอบคุณตน ถ้าไม่ฟังก็คงถูกศาลตัดสินลงโทษไปแล้ว ที่ตนให้ข้อคิดเห็นไปก็ขึ้นกับพล.อ.จารุภัทร ตนเป็นผู้ที่ให้ข้อคิดเห็นเท่านั้นไม่ใช่คนที่จะไปสั่งใครทำสิ่งใดได้ ตนเคารพในความคิดเห็นคนอื่น แต่ขณะเดียวกัน ข้อคิดเห็นของตน ข้อมูลที่เรียนสื่อมวลชนเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ตนเสนอข้อเท็จจริงอีกด้านหนึ่งเพื่อตรวจสอบการตัดสินใจ ควรจะเชื่อในสิ่งที่ตนพูด หรือเชื่อในข่าวที่ออกมา
นอกจากนี้ พล.อ.สุรยุทธ์ ยังกล่าวยืนยันว่า คงไม่ฟ้อง อย่างที่เคยพูดไปแล้ว เพียงแต่ต้องการให้ทุกท่านได้ทราบความจริงว่าเกิดอะไรขึ้น โดยข้อสรุปที่ได้หารือวันนั้นคือว่าสิ่งที่พูดว่าตุลาการภิวฒน์จะมีทางออกหรือไม่ ตนไม่ได้โมโห ตนเข้าใจว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ประสบปัญหาอะไร เพียงแต่ต้องการให้ประชาชนรับทราบ อย่าฟังเพียงด้านเดียว ฟังอีกด้านหนึ่งด้วย แล้วพิจารณาว่าสิ่งใดมีเหตุผลมากน้อยเพียงใด