ปชป.แนะพัลลภใช้ความรู้ที่มีรักษาประเทศ

คมชัดลึก :"โฆษกปชป.”แนะ“พัลลภ” ใช้ความรู้ที่มีอยู่ รักษาความมั่นคงประเทศด้วย ควรแยกแยะให้ออกว่าถูกใช้เป็นเครื่องมือหรือไม่ เชื่อ“ทักษิณ”กำลังใช้ยุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศไทย”สอดรับกับยุทธศาสตร์แดงทั้งแผ่นดินกระทบความมั่นคง

(28มี.ค.) นพ.บุรณัชย์  สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกรณีพล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรองผู้อำนวยการ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ออกมาให้สัมภาษณ์หลายครั้งถึงพรรคประชาธิปัตย์ ว่าชอบฉวยโอกาส ทั้งยังระบุว่า 63 ปีที่ผ่านมาเป็นฝ่ายค้านถึง 57 ปีนั้นก็เป็นการเข้าใจไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เพราะ 63 ปีเราก็ทำงานไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลก็ทำหน้าที่ รักษา

ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นพระประมุข ทำงานปกป้องสถาบันมาโดยตลอด การเข้าสู่อำนาจในรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมาก็เป็นทั้งแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อประเทศวิกฤตทั้งปี 2516 หรือ 2535 และ 2540 และครั้งนี้ก็เข้ามาตามกระบวนการทุกครั้ง เรามาตามระบอบประชาธิปไตยและต่อสู้กับเผด็จการผูกขาดทุกรูปแบบ ทั้งเผด็จการทหาร นักธุรกิจการเมือง ไม่เคยฉวยโอกาสเอาประโยชน์ทางการเมืองและทำร้ายบ้านเมืองในช่วงที่ประเทศชาติบอบช้ำ

 “พล.อ.พัลลภก็เคยเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์มาก่อน และรับผิดชอบงานด้านความมั่นคง โดยดูแลยุทธศาสตร์ทางด้านนี้ น่าจะแยกออกว่าถูกใช้เป็นเครื่องมือทางยุทธวิธี การที่พล.อ.พลลภกล่าวสนับสนุนการนิรโทษกรรม ให้คุณทักษิณนั้น ความจริงน่าจะแยกกับภาพยุทธศาสตร์ที่ใหญ่กว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นยุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศไทย โดยใช้ปฏิญญาแถลงการณ์แดงสยาม ซึ่งสอดรับกับยุทธศาสตร์แดงทั้งแผ่นดิน ซึ่งกระทบต่อความมั่นคง อยากเรียกร้องให้พล.อ.พัลลภใช้ความรู้ของท่าน ช่วยรักษาความมั่นคงภายในประเทศด้วย ”โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
 

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่พ.ต.ท.ทักษิณพูดพาดพิงถึงพล.อ.เปรม ถือว่าเป็นการส่งสัญญาณให้ คนเสื้อแดงบุกบ้านสี่เสาเทเวศร์หรือไม่ นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า การส่งสัญญาณของกลุ่มคนเสื้อแดง ไม่ได้ทำเฉพาะเมื่อวันที่ 27 มีนาคมเท่านั้น แต่ได้ทำทุกจังหวัด โดยเป้าหมายไม่ใช่การล้มรัฐบาล อีกทั้งศัตรูไม่ใช่พรรคประชาธิปัตย์ เพราะเราเป็นแค่หลักกิโลเมตรหนึ่งเท่านั้น การต่อต้านรัฐบาลสามารถทำอย่างสงบได้ แต่ทุกครั้งที่มีเวทีก็จะพาดพิงคนนอก สถาบันองค์กรต่างๆ ที่ไม่สามารถตอบโต้ได้ เช่น องคมนตรี ศาลฎีกา องค์กรยุติธรรมต่าง ๆ ทำให้ไทยถูกกระทบเรื่องความน่าเชื่อถือโดยรวม พรรคประชาธิปัตย์กังวลเพราะได้รับทราบว่า มีการเตรียมการให้เกิดเงื่อนไขการเผชิญหน้าต่อประธานองคมนตรี ศาลยุติธรรม ศาลรัฐธรรมนูญ และศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จึงอยากให้รัฐบาลเฝ้าระวังเหตุร้าย เนื่องจากเกรงว่าจะเหมือนเหตุการณ์ 7 ตุลาฯ 2551 ได้ยินว่าเหตุการณ์จะเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวเพื่อนำไปสู่การผลักดันร่างพรบ.ปรองดองแห่งชาติที่ฝ่ายค้านเป็นผู้ร่างขึ้นมา ถือเป็นการส่งสัญญาณให้คนออกมาทำผิดก่อนวันที่ 5 พ.ค. เพื่อต่อต้านรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่รัฐบาลปล่อยให้พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินบ่อยครั้ง ถือเป็นการละเลยเกินไปหรือไม่ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เราพยายามติดตามอย่างใกล้ชิดในช่วง 3 วันที่ผ่านมา โดยรัฐบาลได้ส่งคนเข้าไปเจรจากับผู้ชุมนุมอย่างที่เคยทำมาอยู่ตลอด แต่ได้รับการปฏิเสธจากแกนนำคนเสื้อแดงทุกครั้ง โดยยื่นคำขาดว่าจะขับไล่รัฐบาลและปฏิเสธการเจรจา ขณะที่นายกรัฐมนตรี  ก็ได้ขอร้องฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคทุกพรรคเพื่อหาทางออกก่อนการชุมนุมใหญ่ที่ผ่านมา ขณะนี้ก็กำลังเจรจาอย่างต่อเนื่อง