บทวิเคราะห์:ศาลสั่ง´กกต.´นอนคุก ปลดชนวนลูกแรก

กรุงเทพธุรกิจ

25 กรกฎาคม 2549 20:10 น.
คำสั่งศาลอาญาชั้นต้นครั้งนี้ ถือเป็นกุญแจดอกแรกที่จะปลดชนวนระเบิด ปมขัดแย้งวุ่นวายที่สั่งสมอัดแน่นมานาน และย่อมกระทบชิ่งไปถึงพรรคไทยรักไทย และพ.ต.ท.ทักษิณ อย่างแน่นอน

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : * ประชุม ประทีป
------------------

ก่อนที่พระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 25 สิงหาคม และนำไปสู่กำหนดการเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 15 ตุลาคม ตามที่พรรคไทยรักไทย และคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ตั้งธงไว้

อาจเป็นชัยชนะของพรรคไทยรักไทย เพียงส่วนเดียว และขณะเดียวกัน กลายเป็นผลดีต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจด้วย ที่นักลงทุนเริ่มเห็นทิศทางการเมืองที่แน่ชัดยิ่งขึ้น

แต่กลับไม่ใช่ชัยชนะของ กกต. ที่กล้าล่อเอาเถิด กับความรู้สึกของสาธารณชน ดื้อดึงขอการร้องขอของ 3 ศาล ไม่ยอมแสดงความรับผิดชอบต่อความผิดพลาดทางบริหารของตัวเอง

โดยอาจคิดหวังไปว่า จะได้เอกสิทธิ์คุ้มครองหากดื้อจน พ.ร.ฎ.เลือกตั้งมีผลบังคับใช้ ซึ่งประเด็นก็ยังถกเถียงกันได้เช่นมุมมองของ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตมือกฎหมาย พ.ร.ฎ.เลือกตั้งจะมีผลยังคับใช้ก็ตาม การดำเนินคดีก็ยังดำเนินไปได้ ไม่เหมือนเอกสิทธิ์ของ ส.ส. และ ส.ว. ที่ห้ามดำเนินคดี

ตัดปัญหาถกเถียงข้อกฎหมายลงทันที เมื่อศาลอาญาชั้นต้น โดยนายชาญณรงค์ ปราณีจิตต์ รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา นายกมล คำเพ็ญ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอาญา เจ้าของสำนวน นายบันดาล ดังขุนทด ผู้พิพากษาศาลอาญา และองค์คณะได้อ่านคำพิพากษาจำคุก พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายปริญญา นาคฉัตรีย์ และนายวีระชัย แนวบุญเนียร กกต.

จำเลยในความผิดฐาน กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2541 มาตรา 24, 42 และ มาตรา 38 เป็นเวลาคนละ 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา และให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดคนละ 10 ปี

กรณี ร่วมกันจัดการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตรอบใหม่ เมื่อวันที่ 23 และ 29 เมษายน 2549 โดยไม่มีอำนาจ และการออกหนังสือเวียนถึง ผอ.กต.เขต ให้รับผู้สมัครรายเดิมเวียนเทียนสมัครใหม่ ตามที่นายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง

ซึ่งผลจากคำพิพากษาของศาลครั้งนี้ ได้กระทบชิ่งไปถึง พรรคไทยรักไทย พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างแน่นอน

คำสั่งศาลอาญาชั้นต้นครั้งนี้ จึงถือเป็นกุญแจดอกแรกที่จะปลดชนวนระเบิด รวมทั้งปมขัดแย้งวุ่นวายสั่งสมอัดแน่นมานาน หากปล่อยให้จัดการเลือกตั้งอีก อาจเกิดผลเสียใหญ่หลวงต่อไปในภายภาคหน้า

ซึ่งสอดคล้องกับพระราชดำรัส แนบท้ายพระราชกฤษฎีกา ทรงปรารถนาจะเห็นการเลือกตั้งเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรม เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย

หากพูดให้ชัด หากได้ กกต.ไม่เป็นอิสระ และไม่เป็นกลางเสียแล้ว กกต.จะกลายเป็นเครื่องมือสกัดกั้นคนที่ประชาชนเลือก สกัดคนดีออก กรองเอาแต่คนของฝ่ายผู้มีอำนาจเข้าเข้าสู่รัฐสภา

ถ้าออกมารูปนี้ เชื่อว่าประชาชนจำนวนมากจะตบมือ หรือยกมือไหว้ท่วมหัว โมทนาสาธุกับวีรกรรมของศาลเป็นแน่แท้

แน่นอน ส่วนสำคัญมาจากตัวผู้นำประเทศ ที่ประชาชนเสื่อมถอยศรัทธา ด้วยปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น ด้วยการละเลยเรื่องละเมิดจริยธรรม คุณธรรมของผู้นำประเทศ ขาดมารยาททางการเมือง

แต่จนแล้วจนรอด พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ยังยืนต้านมรสุม ได้ และบ่อยครั้งยังเป็นฝ่ายรุกท้าทายพลังฝ่ายคัดค้านอย่างล่อแหลม หวาดเสียว จนคล้ายจะมาถึงทางตัน

ยิ่งสถานการณ์ยังพัดพาให้ทุกฝ่ายต่างอ้างสถาบันประมุขแห่งชาติ มาสร้างความชอบธรรมให้แก่ตัวเองด้วยแล้ว ก็ยิ่งตอกลิ่มความขัดแย้งในสังคมไทย

ยิ่งช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา การฟัดเหวี่ยงของขั้วอำนาจ ต่างเปิด"ยุทธการกูไม่กลัวมึง" อย่างเด่นชัดแล้ว ยิ่งทวีความอึดอัดใจแก่คนทั่วไป

จากนี้ไป ไม่เพียงมองที่ กกต. จากนี้ไป ยังเล็งกุญแจดอกต่อไป เพื่อไขประตูถัดไป ให้การเมืองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ดำเนินได้ต่อไป

และต้องคอยดูว่า "ทักษิณ" จะทิ้ง"ไพ่ไฟ" ใบไหนมาหลอกล่อพรรคอื่น และสังคมอีก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์