กลุ่มคนเสื้อแดงยังตรึงรอบทำเนียบฯ ไม่ให้นายกฯ และ ครม. เข้าทำงาน ด้าน “พล.ต.ต.อำนวย” เผยนายกรัฐมนตรีมีภารกิจข้างนอกตลอดทั้งวัน พร้อมวอนเสื้อแดงอย่าพาดพิงสถาบัน ขู่หากยังฝ่าฝืนจะออกหมายจับภายใน 3 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงว่า เมื่อเวลา 07.30 น. วันนี้ (27 มี.ค.) ยังคงมีผู้ชุมนุมปักหลักอยู่บริเวณรอบพื้นที่ทำเนียบรัฐบาลจำนวนมากในทุกด้าน โดยเฉพาะประตูเข้าออก เนื่องจากป้องกันไม่ให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี เข้าทำงาน ซึ่งแนวร่วมแกนนำได้ขึ้นเวทีปราศรัยแจ้งเตือนผู้ชุมนุมเป็นระยะว่า นายกรัฐมนตรีจะเดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลผ่านทางช่องทางใด อย่างไรก็ตาม มีผู้ชุมนุมบางส่วนต่างทยอยเดินทางกลับบ้าน และเดินทางไปทำงานในช่วงเช้า
สำหรับการจราจรบริเวณรอบทำเนียบรัฐบาล ปรากฏว่า ติดขัดเป็นอย่างมาก ทั้งถนนพระราม 5 ถนนพิษณุโลก และถนนเลียบคลองผดุงกรุงเกษม เพราะมีถนนบางสายผู้ชุมนุมได้ปิดการจราจร ขณะที่ข้าราชการทำเนียบรัฐบาลเดินทางเข้ามาปฏิบัติงานบางตา เนื่องจากไม่มั่นใจในความปลอดภัย และกลัวว่าจะมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น ขณะที่ข้าราชการบางส่วนได้ย้ายไปทำงานที่บ้านพิษณุโลกและบ้านมนังคศิลา
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เมื่อเวลา 07.00 น. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้เรียกประชุมศูนย์ติดตามสถานการณ์ที่ตึก 44 ทำเนียบรัฐบาล เพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง โดยมี พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ รองผู้บัญชาการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
จากนั้น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลได้เดินทางออกจากตึก 44 ไปยังถนนเลียบคลองผดุงกรุงเกษม เพื่อขึ้นรถยนต์ที่จอดอยู่บริเวณสะพานมัฆวานฯ เดินทางไปประชุมที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมมอบหมายให้ พล.ต.ต.วิชัย เข้าเจรจากับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง เพื่อขอให้ผู้ชุมนุมเปิดเส้นทางให้เจ้าหน้าที่เข้าออก ซึ่งนายณัฐวุฒิได้ประกาศบนรถขยายเสียงให้ผู้ชุมนุมเปิดเส้นทางและไม่ให้ใช้ความรุนแรง
ด้าน พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า วันนี้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรียังไม่ประสานจะเข้ามาทำงานภายในทำเนียบรัฐบาล ซึ่งหากต้องการเดินทางเข้ามาทำงาน ตำรวจจะดูแลความปลอดภัยให้อย่างเต็มที่ ไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้น พยายามใช้การเจรจากับแกนนำเป็นหลัก เพราะการบริหารราชการแผ่นดินถือเป็นเรื่องสำคัญ แต่หากมีการขัดขวางก็ไม่ถูกต้อง
“ยังไม่ได้รับการติดต่อว่า นายกรัฐมนตรีจะเดินทางเข้ามา เนื่องจากทราบว่า นายกรัฐมนตรีมีภารกิจข้างนอกตลอดทั้งวัน ส่วนการรับมือยุทธวิธีดาวกระจายนั้น ทางตำรวจมีประสบการณ์ในการติดตามความเคลื่อนไหวตามแผนดาวกระจายตั้งแต่การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯแล้ว ดังนั้น หากมีการเคลื่อนการชุมนุมจริงก็รับมือได้หมด และหากปิดล้อมบ้านสี่เสาเทเวศร์ ก็เตรียมการแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้” พล.ต.ต.อำนวย กล่าว
พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า การปราศรัยของกลุ่มเสื้อแดง ได้สั่งให้บันทึกเสียงการปราศรัยบนเวทีทุกตัวอักษร หากเป็นการพาดพิงและดูหมิ่นเป็นการส่วนตัว ก็ขึ้นอยู่กับผู้เสียหายว่าจะดำเนินคดีหรือไม่ แต่ขอร้องว่าอย่ามีการพาดพิงสถาบันและอย่านำมาพูด เพราะขณะนี้มีคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพหลายคดี
“ผมเชื่อว่ากลุ่มเสื้อแดงมีความจงรักภักดีและเทิดทูนสถาบัน แต่ที่ผมต้องพูดเช่นนี้ เพราะต้องการปรามไว้ก่อน ถ้าพูดพาดพิงจะมีการอนุมัติหมายจับอย่างแน่นอน ในเวลาไม่เกิน 3 วัน”พล.ต.ต.อำนวยกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะปราศรัยผ่านวิดีโอลิงค์ในคืนนี้ เนื้อหาอาจพาดพิงสถาบัน พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า ได้สั่งการให้บันทึกเทปทุกตัวอักษร แต่หากหมิ่นสถาบันก็ยอมไม่ได้
เมื่อถามต่อว่า ถ้ามีการพูดพาดพิงสถาบันจะมีการตัดสัญญาณหรือไม่ พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า เป็นเรื่องของกรมประชาสัมพันธ์และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารหรือไอซีที่จะพิจารณา
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะแฉถึงผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ จะทำให้จำนวนผู้ชุมนุมมากขึ้นหรือไม่ พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า อย่าถามชี้นำที่ผ่านมาทุกวันศุกร์และวันเสาร์จะมีผู้ชุมมากกว่าทุกวัน ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ แต่ตำรวจมั่นใจสามารถควบคุมสถานการณ์ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.10 น. ขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้ามาสับเปลี่ยนกำลังภายในทำเนียบรัฐบาล ทางผู้ชุมนุมที่ปักหลักอยู่บริเวณสะพานมัฆวานฯ ได้ขัดขวางไม่ให้เจ้าหน้าที่ผ่านเข้ามาได้ โดยนายณัฐวุฒิได้ยื่นข้อเสนอว่า หากต้องการเปลี่ยนกำลังเจ้าหน้าที่จะต้องให้กำลังเจ้าหน้าที่ที่ประจำการอยู่ภายในทำเนียบรัฐบาลเดินเท้าออกมาเท่ากับจำนวนเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าไปแทน อีกทั้งต้องใช้เส้นทางบริเวณสะพานมัฆวานฯ ในการสับเปลี่ยนกำลังเท่านั้น