เมื่อวันที่ 26 มี.ค. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า
พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร อดีต ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ เป็นคนให้ข้อมูลเรื่องเงินบริจาค 258 ล้านบาทว่า ไม่เชื่อในข้อมูลและหลายอย่างที่ ร.ต.อ.เฉลิม พูด เพราะส่วนใหญ่พูดไม่จริง เพราะก่อนพล.ต.มนูญกฤตออกจากพรรค ได้แจ้งให้ทราบว่า ขอทำอะไรในแนวทางของตัวเอง และโดยส่วนตัวกับพล.ต.มนูญกฤต ไม่มีปัญหาความขัดแย้งกัน และไม่จำเป็นต้องโทรศัพท์หาเพื่อสอบถาม เพราะไม่เชื่อในข้อมูลของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่แล้ว
อย่างไรก็ตามเมื่อเย็นวาน (25 มี.ค.) พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร อดีต ส.ส. สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง
โดย ยอมรับว่าได้พูดคุยกับ ร.ต.อ.เฉลิม ในเรื่องดังกล่าวจริง แต่ไม่ขอเปิดเผยชื่อบุคคลที่นำข้อมูลมาให้ แต่ถือว่าเป็นผู้ใหญ่พอสมควรในพรรคประชาธิปัตย์ ที่หมั่นไส้คนที่ชอบทำตัวใหญ่โต ผูกขาด อำนาจภายในพรรค พอลาออกจาก ส.ส. ก็มีสมาชิกพรรคที่รู้ว่าเรื่องดังกล่าวไม่บริสุทธิ์ พอออกมาก็มีคนส่งโทรสารมาให้ 3-4 เรื่อง แต่ตนให้เรื่องบริษัทเมซไซอะ และเรื่องเงินกองทุนสนับสนุนพรรคการเมืองจาก กกต. โดยให้ ร.ต.อ.เฉลิม แล้วเขาก็ไปสืบหารายละเอียดข้อมูลเอง จากนั้นก็มีตัวละครในเรื่องบริษัทเมซไซอะ มาหาตนเพื่อให้ข้อมูล และขณะนี้เขาก็อยู่กับนายตำรวจยศ ร.ต.อ.คนหนึ่งที่สนิทกัน ยืนยันว่าพยานปากสำคัญปลอดภัยดี
พล.ต.มนูญกฤตกล่าวต่อว่า
ร.ต.อ.เฉลิมใช้เวลาหาข้อมูลเรื่องนี้ประมาณ 4 เดือน จึงมาขออนุญาตนำข้อมูลเหล่านี้อภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งตนเห็นว่ากรณีดังกล่าวเกี่ยวข้องกับเงินในตลาดหลักทรัพย์ เป็นเงินของราษฎร มาทำอย่างนี้ก็เท่ากับการฉ้อราษฎร์ จึงบอกอนุญาต อย่างไร ก็ตามได้มอบเอกสารและข้อมูลทั้งหมดให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อให้พิจารณาดำเนินการเรื่องนี้แล้ว