กรณ์ ยันความจำเป็นกรอบกู้ยืมเงิน

รัฐสภา 24 มี.ค. - "กรณ์" รมว.คลัง ชี้แจงกรอบการเจรจาเงินกู้ของรัฐบาล ยืนยันจำเป็นต้องผลักดันการลงทุนในภาครัฐ หากไม่ดำเนินการ เศรษฐกิจอาจติดลบ 8-9%

การประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณากรอบการเจรจากู้เงินของรัฐบาล เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ วันนี้ (24 มี.ค.) เริ่มเวลา 16.30 น.

มีนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ในฐานะรองประธานรัฐสภา เป็นประธาน สมาชิกรัฐสภาอภิปรายท้วงติง และเสนอแนะว่า ควรใช้ในโครงการที่จำเป็น ขณะที่ ส.ส.ฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตว่า กรอบเงินกู้ไม่มีรายละเอียด เสมือน Blank Check จึงไม่สามารถอนุมัติได้ พร้อมถามว่า ถ้ากู้เงินแล้วเศรษฐกิจจะดีขึ้นหรือไม่ คนจะตกงานน้อยลงหรือไม่

ขณะที่นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงเรื่องรายละเอียดโครงการการลงทุนว่า

เนื่องจากวันนี้มาพิจารณากรอบเงินกู้ฟื้นฟูเศรษฐกิจ ไม่ใช่การมาเสนอรายละเอียด ซึ่งเป็นขั้นตอนเรื่องของงบประมาณ อย่างไรก็ตาม เงินที่กู้มามีความจำเป็นต้องผลักดันการลงทุนในภาครัฐ เพราะการถดถอยของเศรษฐกิจในภาคเอกชน รัฐบาลมีความจำเป็นต้องสมทบงบลงทุนที่อยู่ในงบประจำปี 2552 เป็นงบขาดดุล ซึ่งจำกัดความจำเป็นในการกู้งินอยู่แล้ว ที่ 2.5 แสนล้านบาท

“ถ้ารัฐบาลไม่ดำเนินการอะไร เศรษฐกิจอาจติดลบ 8-9% ดังนั้น ความจำเป็นต้องกู้เงินมีมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะจีดีพีที่ถดถอยจะส่งผลกระทบให้ประชาชนเดือดร้อน อาจถูกถอนออกจากงาน 2-3 ล้านคน จึงจำเป็นทุกวิถีทางในการเพิ่มบทบาทแก้ปัญหาเศรษฐกิจ” นายกรณ์ กล่าว. - สำนักข่าวไทย