เบื้องลึกพุทธิพงษ์ไขก๊อก เกาเหลาชามใหญ่ในปชป.

นั่งอยู่ในเก้าอี้ "รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี" ได้เพียง 70 กว่าวัน ก็เป็นอันต้องโบกมือลา คืนตำแหน่งนี้ให้กับ "พรรคชาติไทยพัฒนา" ในฐานะเจ้าของเดิม

ซึ่งแม้ว่าสาเหตุที่ทำให้ "รองบี" พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ต้อง "ไขก๊อก" จะเป็นเพราะพรรคร่วมรัฐบาล แต่ความจริงแล้ว มีความพยายามที่จะส่งสัญญาณเรื่องนี้หลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะการโหมโรงถึงความขัดแย้งระหว่าง "รองบี" กับ "ผู้ปฏิบัติหน้าที่โฆษกรัฐบาล" อย่าง ปณิธาน วัฒนายากร ที่ถูกมองว่างานนี้อาจมีคนต้องไป

และหวยก็มาออกที่ "พุทธิพงษ์" ... ที่ถูกเด้งเข้ากรุ ไปเป็น "ผู้ช่วยรัฐมนตรี" จนกล่าวได้ว่า "ต้นตอ" ที่ทำให้ "รองบี" โดนใบสั่งเก็บคือ "ปณิธาน"

ซึ่งสาเหตุเกิดจาก "ความไม่ลงลอย" ระหว่าง 2 ฝ่าย ว่ากันว่า มีจุดเริ่มต้นมาจาก "การปฏิบัติหน้าที่" เพราะตลอด 2 สัปดาห์แรกของการทำหน้าที่ของทีมโฆษกรัฐบาล ดูเหมือนว่ามีคนแอบเกี่ยงงาน จนทำให้ "รองบี" ต้องรับหน้าเสื่อ แถลงข่าวแทนมาโดยตลอด

ต่อมาสภาวะ "รอยร้าว" ระหว่าง 2 บุรุษ เริ่มฉายภาพชัดยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในการประชุมอาเซียนซัมมิท ที่หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่ "ปณิธาน" ปฏิเสธที่จะพา "2 รองโฆษก" จากพรรคร่วม ซึ่งเป็น "เดอะแก๊ง" ของ "รองบี" เข้าร่วมฟังการประชุม โดยให้เหตุผล "ไม่รู้ภาษา (อังกฤษ)"

หรือการ "เลือกงาน" เลือกทำแต่ "งานราษฎร์" ในตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยปฏิเสธ "งานหลวง" ในฐานะ "โฆษกรัฐบาล" โดยการไม่ยอมแถลงข่าวใดๆ รวมทั้ง ยังปฏิเสธทุกข้อเสนอของ "รองโฆษก" แม้กระทั่งข้อเสนอเรื่องการพบปะผู้บริหารสื่อ ที่เสนอโดย "รองบี" ส่งผลทั้ง 2 บุรุษเริ่มมองหน้ากันไม่ติด

ความไม่กินเส้นของทั้ง 2 ฝ่ายเริ่มหนักข้อยิ่งขึ้น ถึงขั้นที่เริ่มมีข่าวปล่อยมาจากทั้ง 2 ฝ่าย

เพื่อโจมตีการทำงานของกันและกัน อาทิ การโจมตีเรื่องความเหมาะสมของ "ปณิธาน" หรือข่าวปล่อยที่ว่า หากจะให้ "ปณิธาน" ลาออกจากตำแหน่ง "โฆษกรัฐบาล" คนต่อไปจะต้องไม่ใช่ชื่อ "พุทธิพงษ์" รวมทั้ง รายงานข่าวเรื่องการเปลี่ยนตัวโฆษกรัฐบาล โดยให้ "ศิริโชค โสภา" ลาออกจาก ส.ส.เพื่อมาเป็น "โฆษกรัฐบาล"

นอกจากนี้ ในฐานะที่ทั้ง 2 มีต้นกำเนิดมาจาก "ประชาธิปัตย์" โดยที่ "ปณิธาน" มี "แบล็คดี" เป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี "ชวน หลีกภัย" จนทำให้ไม่มีใครกล้าแตะต้อง ในขณะที่ "บี พุทธิพงษ์" เริ่มเส้นทางการเมืองโดยการชักชวนของ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" นายกรัฐมนตรี

ดังนั้น กลายเป็นว่าการตัดสินว่าใครจะอยู่ ใครจะไป ใครจะหลุดจากเก้าอี้หนนี้ "ประชาธิปัตย์" ก็ยังคงใช้วัฒนธรรมเดิมๆ หลักเกณฑ์เก่าๆ โดยพิจารณาจาก "ระบบศักดินา" เช่นเดียวกับที่เคยใช้ตอนจัด "โผ ครม.มาร์ค 1" หรือเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมา

โดยที่ครั้งนี้ "สายอภิสิทธิ์" ก็พ่ายแพ้เส้นใหญ่ อย่าง "สายนายหัวชวน" ไปโดยปริยาย ?

ทั้งหมดนี้ นอกจากจะสะท้อน "รอยร้าว" เล็กๆ ของสายต่างๆ ที่ยังคงอยู่ภายในพรรคประชาธิปัตย์แล้ว

ยังซ้ำเติมภาพเดิมๆ ที่ "คนทำงาน" มักจะไม่ได้ดี เช่นเดียวกับกรณี "นิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ" ส.ส.พัทลุง 7 สมัย ที่วันนี้ก็ยังไม่ได้เป็นรัฐมนตรี

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์