คลังจุกทรัพย์สินวูบ 2.5 แสนล้าน


ตลาดหุ้นสาหัสปตท.-บินไทยดิ่งนรก ปากแข็งยังไม่เจ๊งแค่มูลค่าทางบัญชี


แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรม   การนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า  

จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ส่งผลให้การลงทุนในหลักทรัพย์ต่าง ๆ ของกระทรวงการคลัง ซึ่งมีทั้งบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) บริษัทนอกตลท. และบริษัทเอกชนที่ได้มาจากการยึดทรัพย์ มีมูลค่าลดลงตามบัญชีรวมแล้วกว่า 100 บริษัท ซึ่งเดิมมีสินทรัพย์รวมกว่า 500,000 ล้านบาท ขณะนี้มูลค่าลดลงกว่าครึ่งหรือเหลือประมาณ 250,000 ล้านบาทเท่านั้น
 
อย่างไรก็ตามมูลค่าหลักทรัพย์ที่ลดลงนั้น ถือว่าเป็นการลดลงตามมูลค่าบัญชีเท่านั้น และไม่ถือว่ากระทรวงการคลังขาดทุนแต่อย่างใด เพราะที่ผ่านมาไม่ได้ขายหุ้นออกไป อีกทั้งส่วนใหญ่จะมีกฎหมายกำหนดสัดส่วนการถือหุ้นไว้ชัดเจน เพื่อคงความเป็นรัฐวิสาหกิจ เช่น บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่กระทรวงการคลังถือหุ้นในสัดส่วน 51% ของหุ้นทั้งหมด บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. กระทรวงการคลังถือหุ้นสัดส่วน 70% เป็นต้น ขณะเดียวกันยัง  มีอีกหลายบริษัทที่กระทรวงการคลังถือหุ้นไว้จำนวนมาก อาทิ บริษัท ปตท. บริษัท ทีโอที บริษัท กสท โทรคมนาคม บริษัท อสมท บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย (บวท.) เป็นต้น
 
“ผลจากภาวะเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา แน่นอนว่าทำให้มูลค่าหุ้นที่กระทรวงการคลังลดลงด้วย โดยเฉพาะราคาหุ้นของบริษัทใหญ่ ๆ อาทิ การบินไทย และปตท. ซึ่งเป็นผลมาจากดัชนีตลาดหลักทรัพย์ที่ลดลงอย่างมาก จาก 800 จุดลงมาเหลือเพียงกว่า 400 จุด จึงไม่แปลกที่กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) จะประสบผลขาดทุนจากการลงทุนในตลาดหุ้น”
 
ในส่วนของบริษัทนอกตลาดนั้น ส่วนใหญ่กระทรวงการคลังมีสัดส่วนการถือหุ้นไม่มากนัก บางแห่งมีเพียง 1% โดยเฉพาะบริษัทที่ได้มาจากการยึดทรัพย์ตั้งแต่ปี 14 ซึ่งจนถึงปัจจุบันก็  มีปิดกิจการไปแล้วบ้าง และบางแห่งยังดำเนินกิจการอยู่
 
ทั้งนี้ หากนายกรณ์ จาติกวณิช รมว. คลัง มีนโยบายให้สำรวจหลักทรัพย์ที่กระทรวงการคลังถืออยู่ทั้งหมด เพื่อนำมาแปลงให้เป็นรายได้เข้ารัฐบาลก็สามารถทำได้ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้มีนโยบายที่ชัดเจนลงมา โดยหากจะขายหุ้นที่ถืออยู่ออกไป อาจเป็นในส่วนของบริษัทที่อยู่นอกตลาด และบริษัทเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่อาจได้เงินเข้ามาไม่มากนัก เพียงหลักล้านบาทเท่านั้น
 
ก่อนหน้านี้ สคร.ระบุว่า ในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา รัฐวิสาหกิจนำส่งรายได้เข้ารัฐ 5,038.81 ล้านบาท สูงกว่าที่ประมาณการไว้ 1,174.08 ล้านบาท จากที่ตั้งไว้ 3,864.73 ล้านบาท ทำให้เมื่อรวมช่วง 4 เดือน ของปีงบประมาณ 52 ตั้งแต่ ต.ค.-ม.ค. 52 รัฐวิสาหกิจสามารถนำส่งเงินรายได้เข้าคลังทั้งสิ้น 17,356.89 ล้านบาท แต่ต่ำกว่าที่ประมาณการไว้ 6,525.66 ล้านบาท จากที่ตั้งเป้าหมายไว้ 23,882.55 ล้านบาท


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์