คมชัดลึก : “สดศรี”ชี้ประเด็นอภิปรายฯไม่ถึงขั้นยุบพรรค แนะให้ไปฟ้องศาลกันเองน่าจะเหมาะกว่า แหยงเกมการเมืองเล่นย้อนรอยเงิน 258 ล้านหนุนปชป. พร้อมตั้งข้อสังเกตุทำไมดีเอสไอ.ไม่ส่งเรื่องฟ้องศาลเอง กลับโยนกลับมากกต. ลั่นสังจนท.กกต.ห้ามปิดกล่องเอกสารทั้งหมด หวั่นกลัวถูกป้ายขี้โยนความผิดหากเกิดปัญหาภายหลัง "พีระพันธ์”โยนอธิบดี ดีเอสไอสอบไอ้โม่งส่งสำนวนเงินบริจาคให้ฝ่ายค้าน
นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ระบุว่า ข้อมูลที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย นำมาอภิปรายเป็นความเท็จ ซึ่งจะมีการยื่นให้ตรวจสอบและอาจมีผลถึงขั้นยุบพรรคเพื่อไทย ว่า กรณีที่กกต.จะพิจารณาประเด็นการอภิปรายฯมีการกล่าวหากันนั้นจะถึงขั้นยุบพรรคได้หรือไม่นั้น กกต.จะพิจารณากม.ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง หากมีการเลือกตั้งมีการปราศรัย ใส่ร้าย ป้ายสีกัน หากมีการร้องเข้ามากกกต.ก็จะต้องพิจารณา แต่กรณีนี้น่าที่จะฟ้องร้องศาลมากกว่า เพราะเป็นการอภิปรายฯกันในสภา ซึ่งหากใครเสียหายก็เป็นการหมิ่นประมาทกันซึ่งก็ไม่เกี่ยวกับกกต. เป็นความผิดทางคดีอาญา ซึ่งสามารถแจ้งความดำเนินคดีเหมือนคดีอาญาทั่วไป เพราะถือว่ามีการนำหลักฐานที่เป็นเท็จมายื่นให้กับหน่วยงานของรัฐ อีกทั้งพรรคประชาธิปัตย์ก็มีสิทธิ์ที่จะฟ้องร้องได้เช่นกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ทั้ง 2 พรรคเตรียมยื่นหลักฐานให้กกต. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยุบพรรคนั้น มองว่า อาจเป็นการใช้กกต.เป็นเครื่องมือทางการเมืองหรือไม่ นางสดศรี กล่าวว่า ตนมองว่า การที่ทั้ง 2 พรรคนำหลักฐานมาให้กกต.นั้นเป็นเรื่องที่ดี เพราะถือเป็นการช่วยกกต.ในการหาข้อมูลเพื่อสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริง โดยการตรวจสอบเรื่องการใช้เงินของพรรคการเมืองยังไม่เคยมีเรื่องใหญ่เท่านี้มาก่อน ซึ่งถ้าทั้ง 2 พรรคมีหลักฐานให้กกต.สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ ประชาชนก็จะได้เห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
“สดศรี”แหยงเกมการเมืองเล่นย้อนรอยเงิน 258 ล้านหนุนปชป.
นางสดศรี กล่าวถึงกรณีเงินบริจาคให้พรรคประชาธิปัตย์ 258 ล้านบาท และเงินกองทุนของพรรคประชาธิปัตย์ที่ดีเอสไอส่งหลักฐานมาให้กกต.ตรวจสอบ และฝ่ายค้านจะนำข้อมูลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจส่งให้กับกกต.ตรวจสอบเรื่องเดียวกัน ว่า ขณะนี้ต้องรอให้มีการเสนอเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมกกต. แต่หากกรณีดังกล่าวเป็นเรื่องเดียวกันกกต.ก็จะต้องให้รวมเข้าเป็นเรื่องเดียวกัน
“ประเด็นดังกล่าวนี้เห็นว่าเป็นประเด็นทางการเมือง กลัวจะมีปัญหาจึงได้สั่งเจ้าหน้าที่ว่าอย่าพึ่งเปิดกล่องเอกสาร เพราะต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเปิดและตรวจสอบดูเอกสารในกล่อง พร้อมทั้งต้องมีตัวแทนจากดีเอสไอ.มาร่วมเซ็นรับรองเอกสารถูกต้องทุกใบด้วย เพราะหากเปิดมาแล้วบอกว่าเอกสารหายไประหว่างอยู่ที่กกต. ก็จะถูกข้อครหาได้ ดังนั้นการที่จะดำเนินการอะไรเราก็ต้องทันเกมการเมืองด้วย เพราะไม่อยากให้ใครมากล่าวหากกกต. หากทำโดยบุ่มบ่าม ก็อาจจะเกิดปัญหาได้ในภายหลัง และก็จะถูกโจมตีอีก”นางสดศรี กล่าว
นางสดศรี กล่าวอีกว่า สัปดาห์นี้คาดว่าเรื่องนี้น่าจะเข้ากกต. ซึ่งตนจะเสนอและขอหารือกับที่ประชุม ว่าก่อนที่จะเปิดควรที่จะต้องคณะกรรมการขึ้นมาก่อนหรือไม่ ถ้ากกต.เปิดกล่องหลักฐานที่ดีเอสไอส่งมาให้ก่อน ก็อาจเป็นอันตรายกับกกต.ได้ เพราะดีเอสไอไม่ได้ทำเรื่องเข้ามาว่า ได้ยื่นหลักฐานอะไรมาบ้าง ซึ่งถ้ากกต.เปิดกล่องหลักฐานก่อน ก็อาจมีการกล่าวหาว่า กกต.นำหลักฐานเท็จเข้ามาใส่ปะปน ซึ่งตนก็อยากจะให้ทางดีเอสไอแถลงด้วยว่าทำไมถึงต้องส่งมาให้กกต.เพราะเหตุใด นางสดศรี กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีการตรวจสอบเรื่องนี้ กกต.ต้องพิจารณาก่อนว่า มีอำนาจที่จะตรวจสอบเรื่องนี้หรือไม่ เพราะคิดว่าในเมื่อดีเอสไอได้ตรวจสอบเรื่องนี้จนจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว ทำไมไม่ฟ้องศาลเสียเอง และขอให้กกต.ไปเป็นพยาน จะได้ตรวจสอบได้ในชั้นศาลซึ่งน่าจะเป็นกระบวนการที่เร็วกว่าที่จะโยนเรื่องมาให้กกต.ตรวจสอบ และหากผลออกมาเป็นอย่างไร หากพรรคประชาธิปัตย์ผิดแล้วต้องถึงขั้นยุบพรรค ก็สามารถส่งมาให้กกต.ดำเนินการตรวจสอบ และส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคก็ได้
“เรื่องนี้ดีเอสไอก็สอบจนเสร็จแล้ว ซึ่งก็ได้มีการสอบมาตั้งแต่เดือนพ.ค. 2551 แต่ทำไมถึงโยนเรื่องมาให้กกต.เวลานี้ เพราะเรื่องเสร็จแล้วก็น่าที่จะส่งต่อไปยังอัยการให้ส่งฟ้องศาล ก็ได้ ซึ่งในเมื่อดีเอสไอ.ก็ระบุว่าเป็นความผิดทั้งพ.ร.บ.ตลาดหลักทรัพย์ ก็สามารถฟ้องร้องดำเนินการได้แล้ว แต่หากเข้าพ.ร.บ.พรรคการเมืองอย่างที่กล่าวอ้างมาหากศาลตัดสินแล้วส่งมาให้กกต.ก็น่าจะเป็นการดีกว่าให้กกต.สอบ ในเวลานี้ เพราะกกต.ต้องเริ่มสอบใหม่จะช้าออกไปอีก ” นางสดศรี กล่าวและว่า หรือทางดีเอสไอ เห็นว่าเป็นประเด็นทางการเมืองจึงไม่อยากตรวจสอบเองกลัวโดนการเมืองเล่นงาน จึงได้โยนเรื่องนี้มาให้กกต. ซึ่งตนก็จะเสนอนายทะเบียนในเรื่องนี้ด้วยว่า สมควรหรือไม่ที่เราจะรับเรื่องของดีเอสไอไว้พิจารณา เพราะเขาได้ดำเนินการสอบจนเสร็จแล้วก็น่าจะให้ดีเอสไอ ส่งฟ้องศาลพิจารณาให้เสร็จก่อนดีกว่าที่กกต.จะมาลงมือทำเองหรือไม่
"พีระพันธ์”โยนอธิบดี ดีเอสไอสอบไอ้โม่งส่งสำนวนเงินบริจาคให้ฝ่ายค้าน
นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม ระบุว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสวบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะต้องพิสูจน์ หรือตรวจสอบให้ได้ว่า ข้อมูลเรื่องเงินบริจาค 258 ล้านบาท ที่ฝ่ายค้านนำมากล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนั้น เป็นข้อมูลที่ถูกส่งมาจาก ดีเอสไอ ตามที่พรรคเพื่อไทย กล่าวอ้างจริงหรือไม่
"ข้อมูลดังกล่าวเป็นเรื่องการทำสำนวนคดีของ ดีเอสไอ ที่ยืนยันว่าแล้วผมไม่เคยเข้าไปแทรกแซง ขณะเดียวกันก็เป็นหน้าที่ขอ พ.ต.อ.ทวี ที่จะต้องเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าข้อมูลดังกล่าวมาจาก ดีเอสไอ และมีการเปิดเผยให้กับพรรคเพื่อไทยจริงหรือไม่ หากพบว่ามีการนำข้อมูลออกไปเปิดเผยจริงจะออกไปได้อย่างไร บุคคลใดนำไปเปิดเผย ซึ่งผมไม่จำเป็นต้องเรียก พ.ต.อ.ทวี มาสอบถาม"
ก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ รองอธิบดี ดีเอสไอ ในฐานะโฆษก ดีเอสไอ เปิดเผยว่า ดีเอสไอ มีหน้าที่สอบสวนเฉพาะความผิดทางการเงิน ตาม พรบ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เท่านั้น ส่วนประเด็นเรื่องพรรคการเมือง ดีเอสไอ ได้ส่งเรื่องไปให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กลต.) วินิจฉัย
Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday