(20มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.วิสาระดี เตชะธีรวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นอภิปรายไว้วางใจ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ
พฤติกรรมที่ผ่านมาของนายกษิต ไม่เหมาะสมที่จะเป็นรมว.ต่างประเทศ โดยเฉพาะประสบการณ์และประวัติในการทำงาน สมัยที่รับราชการเป็นทูตประจำประจำประเทศต่างๆ เคยทะเลาะกับทูตและข้าราชการด้วยกัน ทั้งทูตแรงงานขณะประจำอยู่ประเทศญี่ปุ่น และยังทะเลาะกับอัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายการพาณิชย์ รวมทั้งยังชกต่อยนักเรียนทุนในต่างแดน นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมแสดวงหาผละประโยชน์ โดยบีบบังคับขอเปียโนจากนายไพบูลย์ ซึ่งเป็นผู้ส่งออกสินค้าระหว่างประทศ แต่อ้างว่าจะนำไปให้ผู้ใหญ่ ซึ่งเปียโนดังกล่าวหน้าตาคล้ายกับที่บ้านของทาน นอกจากนี้ยังขอตั๋วเครื่องบินจากการบินไทย 500 ใบต่อปี โดยอ้างว่าเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และไม่ทราบว่าท่านมีส่วนร่วมอะไรด้วยหรือไม่ กับคนที่ชื่อเป๊บซี่ ซึ่งเป็นพ่อค้าเงินในตลาดมืด
น.ส.วิสาระดี กล่าวต่อว่า นายกษิต ยังมีพฤติกรรมส่อไปในทางที่ไม่เคารพศาสนา เพราะมีพระเจ้าอาวาสวัดคลองบางกุ้ง
ซึ่งเป็นเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เคยไปเยี่ยมท่านที่สถานทูต ขณะเผยแพร่ศาสนา แต่นายกษิตกับพูดว่า “หลวงพ่อมากินไกลจังเลยนะ” ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมที่นอกจากไม่อนุมัติแล้วยังดูถูกผู้ที่เป็นถึงเลขานุการพระสังฆราช โดยเฉพาะพฤติกรรมที่ท่านไปร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ และสนิทกับนักบวชนอกรีต ทำให้เรายิ่งประหวั่นพรั่นพรึงด้วย ทำให้น.ส.สุพัชรี ธรรมเพชร ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ลึกขึ้นพระท้วงทันทีว่าผู้อภิปรายไม่ควรเอาศาสนามาพูดในที่ประชุมสภา และขอให้ผู้อภิปรายอยู่ในประเด็นด้วยไม่ใช่เอาเอกสารมาอ่าน
แต่น.ส.วิสาระดี ยังยืนว่า พูดอยู่ในประเด็นและการพูดก็ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว เพราะตนไม่เคยรู้จักกับนายกษิตมาก่อน และไม่รู้ว่าที่นายกษิต เป็นรมว.ต่างประเทศได้ มาเป็นตัวแทนของใคร
เป็นเพราะพันธมิตรฯและตอบแทนบุญคุณที่ยึดสนามบิน ยึดทำเนียบรัฐบาล ทั้งๆที่บุคคลดังกล่าวถือเป็นผู้ก่อการร้าย และรัฐบาลยังทุ่มงบประมาณเพื่อสร้างภาพลักษณ์ของประเทศ ซึ่งทุ่มเท่าไหร่ก็ไม่พอ เพราะแค่ปลดนายกษิตออกก็ภาพลักษณ์ได้แล้ว ตนขอยกคำพูดของนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ส.ส.นครปฐม พรรคเพื่อไทย ที่บอกว่า เรื่องปลากระป๋องเน่าก็ยังพอให้อภัยได้เพราะไม่รู้ว่าเน่ามาก่อน แต่นายอภิสิทธิ์ กลับเอาปลาที่เน่าแล้วไปใส่กระป๋อง อย่างนี้นายอภิสิทธิ์ใจดำมากๆ
ทำให้บรรยากาศเริ่มเกิดการปะทะคารมกัน ระหว่างส.ส.หญิงฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน
เมื่อน.ส.พัชรี รรมเพชร ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ได้ลุกขึ้นประท้วงอีกครั้งว่า การอภิปรายของน.ส.วิสาระดี ที่ได้อภิปรายตำหนิพฤติกรรมของนายกษิต ที่ไม่มีความเหมาะสมเป็นรมว.ต่างประเทศ ที่ไปขึ้นเวทีพันธมิตรฯโค่นล้มรัฐบาลพรรคพลังประชาชน ด่านายกรัฐมนตรีกัมพูชาด้วยถ้อยคำหยาบคาย รวมถึงนำข้อมูลที่ข้าราชการในกระทรวงการต่างประเทศวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมส่วนตัวที่ไม่เหมาะสมของนายกษิตมาอภิปรายด้วย ขณะที่น.ส.วิสาระดีโต้กลับว่า ไม่เคยมีเรื่องส่วนตัวกับนายกษิต จึงไม่ใช่การพูดเรื่องส่วนตัว จากนั้นส.ส.หญิงฝ่ายรัฐบาล ได้ดาหน้าลุกขึ้นมากล่าวโจมตีน.ส.วิสาระดีอย่างรุนแรง เกิดความวุ่นวายในที่ประชุม
น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหาว่า ผู้อภิปรายอ่านเอกสารทุกคำพูดถ้าริบเอกสารนั้นมา เขาก็จะพูดไม่ได้
เพราะเขาไม่ได้พูดจากสมองเขาเอง ถ้าพูดจากใจจริงจะไม่ก้าวร้าวแบบนี้ ทำให้น.ส.วิสาระดี ไม่พอใจ ขอให้ น.ส.รังสิมา ถอนคำพูดที่ว่า ไม่มีสมอง รวมทั้งส.ส.หญิงของพรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นมาประท้วงขอให้ถอนคำพูด เพราะถือว่าเป็นการเสียดสีดูถูกผู้หญิงด้วยกัน และยังเป็นการดูถูกประชาชนในพื้นที่ที่เลือกเข้ามา จึงเกิดการโต้เถียงกันดูเดือดระหว่าง 2 ฝ่าย ทำให้นายสามารถ แก้วมีชัย ประธานในที่ประชุม ต้องพยายามไกล่เกลี่ยทั้ง 2 ฝ่าย ให้อยู่ในความสงบ และขอให้น.ส.รังสิมา ถอนคำพูด แต่น.ส.รังสิมายังคงตอบโต้ว่าเป็นความเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจ ไม่ใช่การใส่ร้าย หากน.ส.วิสาระดีมั่นใจในตัวเองก็ต้องพูดโดยไม่อ่านเอกสาร และขอให้อภิปรายแบบนี้อีกรอบโดยไม่ต้องอ่าน ตนก็ยินดีจะถอน แต่นายสามารถยังคงยืนยันว่าให้ถอนคำพูดในที่สุดน.ส.รังสิมายอมถอนคำพูด แต่ยังคงทิ้งท้ายว่า แต่ถ้าอภิปรายเหมือนเดิมก็จะโดนหนักนี้ว่า ไม่มีมันสมอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าน.ส.วิสาระดี ได้ลุกขึ้นอภิปรายด้วยสีหน้าไม่ดีและขอยุติการอภิปราย โดยเน้นย้ำว่า ได้รับเลือกมาจากประชาชนชาวเชียงราย และตนเป็นส.ส.สมัยใหม่
โดนอย่างนี้ก็ถือว่าได้แจ้งเกิดแล้ว แต่พฤติกรรมของน.ส.รังสิมาถือว่าดูถูกประชาชนชาวเชียงรายมาก จากนั้นปรากฏว่ามีส.ส.พรรคเพื่อไทยต่างกรูเข้ามาหาพร้อมจับมือและยกนิ้วให้น.ส.วิสาระดี โดยกล่าวชมเก่งมาก จากนั้นนายนที สุทินเผือก ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ได้นำน.ส.วิสาระดีเดินไปหาน.ส.รังสิมา เพื่อขอโทษขอโพยกัน ในฐานะส.ส.หญิงรุ่นน้อง และกล่าวว่ามีอะไรขอให้แนะนำกัน ซึ่งน.ส.รังสิมาก็รับไหว้