วันนี้ (20 มี.ค.) นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อวันที่ 19 มี.ค.ว่า ไม่มีอะไรทุกอย่างเห็นกันอยู่
ส่วนที่ส.ส.กล่าวคำหยาบในการประชุมนั้น ประชาชนจะเป็นผู้วินิจฉัย เมื่อถามว่าจะตักเตือนอย่างไรเพื่อไม่ให้เสียภาพลักษณ์ต่อสภา ประธานสภา กล่าวเพิ่มว่า สื่อเป็นผู้วินิจฉัยแล้วกัน เพราะสภามีจริยธรรมที่ต้องคุมควบถ้าสมาชิกร้องขอมาสภาก็ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง แต่เวลานี้ยังไม่มีใครร้องขอมา
เมื่อถามว่าการอภิปรายจะจบในวันนี้หรือไม่ นายชัย กล่าวว่า เมื่อคืนก็มีมติทำเอ็มโอยูกันแล้วว่าจะเสร็จภายในเวลา 22.00 น.
เมื่อถามว่าจะมีการตรวจเซ็นเซอร์ภาพวีดีโอที่นำมาประกอบการอภิปรายก่อนหรือไม่ เนื่องจากเมื่อวันที่ 19 มี.ค.ได้มีการนำภาพทหารถูกตัดคอมาประจาน ประธานสภา กล่าวอีกว่า ปัญหาเรื่องนี้เป็นปัญหาที่ลำบากมาก เพราะสิทธิของผู้อภิปรายมีสิทธิที่จะขอให้ประธานฯ เป็นผู้อนุญาตให้นำมาอภิปราย แต่ประธานก็ไม่มีเวลาที่จะตรวจสอบ ความจริงจะต้องมีระเบียบตรวจสอบว่าจะต้องส่งเอกสารหลักฐานมาตรวจสอบก่อน 1 วัน ก่อนที่จะมีการอภิปราย แต่ก็ไม่มีข้อบังคับ ฉะนั้นจึงต้องอนุโลมไปตามข้อบังคับ
อย่างไรก็ตาม นายชัย กล่าวเพ่ิมว่า คงจะไม่มีอะไร เป็นเรื่องธรรมดา เพราะปัญหาต่างๆ เห็นอยู่แล้ว สื่อก็ลงข่าว อินเตอร์ก็ออกข่าว
ฉะนั้นปัญหาต่างๆ ถ้าโดยมารยาทไม่ควรจะมีซึ่งในความเป็นจริงสภาผู้ทรงเกียรติต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามทำนองครองธรรมในการอภิปราย “ยุคไหนสมัยไหนไม่เคยมีอย่างนี้ ไม่เคยมีการกระทำเช่นนี้เกิดขึ้น การอภิปรายสมัยก่อน 7 วัน 7 คืน ไม่เห็นมีปัญหา 3 วัน 3 คืน ก็ไม่มีปัญหา แต่คราวนี้ผมก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะสมาชิกผู้ทรงเกียรติท่านอ่อนแอ ไม่มีความอดทน อย่างเมื่อคืนผมบอกให้จบรมว.กระทรวงการต่างประเทศท่านก็ไม่ยอม เพราะท่านเป็นคนเสนอมาเอง ท่านถอนเอง ผมก็ไม่รู้จะทำอย่างไร รัฐบาลเตรียมที่จะตอบ ถ้าพูดถึงความพร้อมตอนนี้รัฐบาลพร้อมแต่ฝ่ายค้านไม่พร้อม ก็มีเท่านี้ ฉะนั้นวันนี้เขาก็คงพร้อมคงไม่มีปัญหาอะไร การอภิปรายคงจะจบในเวลา 22.00 น.ตามเงื่อนไขไม่มีอะไร” นายชัย กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า จะไม่มีการขยายเวลาออกไปใช่หรือไม่ ประธานสภา กล่าวต่อว่า ที่ประชุมมีมติกันแล้ว ถ้าไม่ปฏิบัติก็ถือว่าฝืนมติอาจจะเลยบ้างหรือขาดบ้างเป็นธรรมดา หรืออาจจะเสร็จก่อน หรือยาวเลยเวลาไปสักหน่อยก็ได้
ก็ต้องมีการยืดหยุ่น การเมืองก็ต้องมีการยืดหยุ่น ถ้าเสร็จวันนี้ก่อนเวลาเที่ยงคืนก็ลงมติวันเสาร์ แต่ถ้าหลังก็ต้องไปลงมติในวันอาทิตย์ ซึ่งต้องดูเหตุการณ์เพราะมันอยู่ที่มติเสียงข้างมาก ประธานสภามีหน้าที่เป็นคนกลางที่จะวินิจฉัยปัญหา ระเบียบข้อบังคับเท่านั้นเอง ซึ่งจะพยายามปฏิบัติให้ถูกต้องตามระเบียบ และตามกฎหมายรัฐธรรมนูญทุกวิถีทางที่จะทำได้ สื่อก็ช่วยกันเพื่อพยุงสภาพสถาบันนิติบัญญัติให้ไปรอด ในช่วงเวลานี้ เพราะยังดีกว่าประเทศอื่นที่มีปัญหามาก แต่ประเทศเราไม่ควรจะมีปัญหาอะไร เพราะคนไทยเป็นสยามเมืองยิ้มควรที่จะยิ้ม ใส่กัน
เมื่อถามว่า วานนี้มีการทะเลาะกันในสภา นายชัย กล่าวด้วยว่า จะไปเอาแต่ละคนมาเทียบกันไม่ได้ เป็นเสียงข้างน้อย คนจำนวนน้อยทำให้เกิดภาพเสียหาย เสียงข้างมากค่อนข้างดี ต้องยกย่องคนที่กระทำความดี