วันนี้ (20 มี.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีมอบรางวัลเชิดชูเกียรติอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ( อสม. ) ดีเด่นประจำปี 2552 และเปิดงานวันอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งชาติ และพิธีมอบค่าตอบแทนอาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน
โดยนายกฯ กล่าวว่า ขอแสดงความชื่นชมต่อผู้ทำงานในด้านสาธารณะสุขของประเทศไทย ซึ่งตลอดระยะเวลาหลายสิบปี ได้รับการยอมรับ ชื่นชม ไม่เพียงแต่ในประเทศ แต่จากประชาคมโลกในแง่ของความก้าวหน้าที่ได้ยึดถือหลักการ การให้บริการด้านสาธารณะสุขพื้นฐาน การมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชน การให้ความสำคัญกับการป้องกัน เพื่อดูแลให้พี่น้องประชาชนคนไทยไม่เจ็บไข้ได้ป่วย
อภิสิทธิ์ปลื้มอสม.สร้างชื่อเสียง-คนรุ่นใหม่ร่วมงาน
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวเพิ่มว่า ในการทำงานด้านนี้ บทบาทของอสม. ที่ได้อุทิศกำลังกาย กำลังใจ และเวลาในการทำงาน เพื่อแก้ปัญหา และพัฒนาสาธารณะสุขของประเทศ ซึ่งได้ก่อเกิดประโยชน์แก่ส่วนรวม และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ของคนทั่วไป 30 กว่าปีที่ผ่านมา
ถือว่าอสม. ได้ช่วยเหลืองานของกระทรวงสาธารณะสุขได้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในหลายช่วง หลายโอกาสที่กำลังเผชิญกับวิกฤติของโลกภัยไข้เจ็บ หรือกรณีของภัยพิบัติธรรมชาติ อสม.ได้ทำหน้าที่ให้ความรู้ และคำแนะนำ ซึ่งทำให้ประเทศไทยประสบความสำเร็จในหลายๆ ครั้ง ในการควบคุมโลกติดต่อเหล่านี้ นายกฯ กล่าวอีกว่า ในช่วงเทศกาลสำคัญ อสม.ก็ได้ออกมาช่วยรณรงค์ในเรื่องของการป้องกันภัยอุบัติเหตุ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการช่วยลดการบาดเจ็บ และป้องกันอุบัติเหตุได้อีกทางหนึ่ง ที่ผ่านมา อสม. เป็นผู้เสียสละแรงกายแรงใจ เวลา และทุนทรัพย์ ในการพัฒนาหมู่บ้าน เพื่อให้สามารถเฝ้าระวังเกี่ยวกับสุขภาพ รวมถึงส่งเสริมพัฒนาสุขภาพของชุมชนได้เป็นอย่างดี โดยที่ไม่ได้รับค่อตอบแทน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลได้ตระหนักถึงความสำคัญ บทบาทของอสม. ที่มีอยู่โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมองไปข้างหน้า ก็มองเห็นถึงภารกิจสำคัญที่จะมีขึ้นในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการสานต่องานต่างๆ ที่ได้ทำมา การรับมือกับโลกภัยไข้เจ็บ
ซึ่งอาจจะเป็นผลพวงมาจากการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ ภัยพิบัติต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น และที่สำคัญคือ การดูแลสุขภาพของพี่น้องประชาชนในลักษณะที่จะชาวยลดการเจ็บไข้ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งปัจจุบันก็ถือเป็นภาระสำหรับรัฐบาล และผู้เสียภาษีอากรอย่างมาก นายกฯ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลยังมีนโยบายสำคัญที่กำลังดำเนินการต่อไป โดยเฉพาะเรื่องคุณภาพของเด็ก ที่หมายถึงการดูแลสุขภาพตั้งแต่ตั้งครรภ์ไปจนถึงการดูแลในเรื่องของโภชนาการของเด็ก เพื่อให้อนาคตเติบโตมาพร้อมทั้งร่างกาย จิตใจ และสติปัญหา และรัฐบาลยังให้ความสำคัญต่อผู้สูงอายุ ซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้มีพระคุณต่อแผ่นดิน ต่อพวกเราทุกคน ซึ่งถือเป็นบทบาทสำคัญ อสม. ต่อไป ซึ่งรัฐบาลได้มีนโยบายที่จะให้มีสวัสดิการค่าตอบแทนให้แก่อสม. จำนวน 700 บาทต่อคนต่อเดือน ไม่ถือเป็นเงินเดือน และโยงไปยังภารกิจหรืองานที่ต้องทำ ดีใจที่มีคนรุ่นใหม่เข้ามาร่วมงานกับอสม.มากขึ้น
จากนั้น นายกฯ เดินทางไปร่วมการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ (19 มี.ค.)