ขุนพล ปชป.ชวนร่วมล้มระบอบทักษิณ - คนเมืองคอนแห่ร่วมกว่า 2 หมื่นคน
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 5 มีนาคม 2549 13:38 น.
นครศรีธรรมราช - ปชป.ร่ายยาวแจงเหตุผลไม่ส่งผู้สมัคร ส.ส. บัญญัติ อัดยับไม่เป็นพระอันดับบวชให้โจร เกรียงศักดิ์ ชี้ระยะยาวประเทศไทยหายนะ สามสี ยกทักษิณเทียบผู้นำเปรู-อาร์เจนตินา-ฟิลิปปินส์ พาประเทศอ่อนแอ เสนอ 3 ช่องทางก่อนรณรงค์ประชาชนใช้สิทธิกาช่องไม่ลงคะแนนเพื่อแสดงการต่อต้านระบอบทักษิณ
ที่สนามหน้าเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช วานนี้ (4 มี.ค.) พรรคประชาธิปัตย์ได้เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ทางการเมืองเพื่อชี้แจงถึงการไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง รวมทั้งสถานการณ์ทางการเมืองก่อนที่ฝ่ายค้านจะมีมติไม่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. การเดินหน้าต่อสู้ทางการเมืองต่อไปของพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีแกนนำคนสำคัญมาอย่างพร้อมเพรียง ยกเว้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายชวน หลีกภัย ที่มีการแจ้งบนเวทีว่าทั้งสองคนจำเป็นที่จะต้องอยู่ที่กรุงเทพมหานคร เพื่อติดตามสถานการณ์การเมืองในระยะนี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากสถานการณ์นั้นเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมาก ท่ามกลางประชาชนที่ให้ความสนใจเข้ารับฟังอย่างเนืองแน่นไม่น้อยกว่า 20,000 คน
นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ขึ้นเวทีกล่าวปราศรัยเป็นคนแรกของบรรดาแกนนำ โดยนายบัญญัติ ระบุว่า การที่ไม่ส่งผู้สมัคร ส.ส.นั้นไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับไหนบังคับให้พรรคการเมืองต้องส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง และการทำหน้าที่ของฝ่ายค้านในเวลานี้ คือ การต่อสู้ทางการเมือง เป็นการเดินเกมทางการเมืองตามรัฐธรรมนูญอย่างถูกต้อง ซึ่งไม่ได้เดินเกมตามทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ สงสัยว่าผู้ที่ออกมาโจมตีอยู่เป็นระยะๆ นั้น ไม่ได้อ่านรัฐธรรมนูญอย่างแจ่มแจ้ง แต่คงจะเน้นไปอ่านรัฐธรรมนูญของอาณาจักรชินเสียมากกว่า ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเจ็บปวดของผู้นำอย่างเห็นได้ชัด ที่ใครก็ตามรู้เท่าทันไม่สนองความต้องการของตัวเองคนเหล่านี้เรียกว่าอาชญากรทางจิต จะออกอาการทุรนทุรายดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด และประชาธิปัตย์ร่วมกับพรรคชาติไทย และพรรคมหาชน จะไม่เป็นพระอันดับเพื่ออุปสมบทให้คนที่ไม่เหมาะสมหรือคนที่เป็นโจรเด็ดขาด
ขณะที่ ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศักดิ์ อดีต ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ เจ้าของหนังสือ ค้านทักษิณอย่างสร้างสรรค์ กล่าวว่า ตั้งแต่ชีวิตการเป็นอาจารย์มานั้นไม่เคยเก็บข้อมูลใคร และพบใครที่มีปัญหามากเหมือนกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และไม่เคยเห็นประเทศไทยเสียหายในระบบเศรษฐกิจมากเท่านี้ 5 ปีที่ผ่านมา ถ้าพิจารณาให้ชัดจะเห็นถึงการบ่อนทำลายระยะยาว ส่วนระยะสั้นนั้นเสียหายแค่เพียงน้อยนิด ข้อมูลจากทุกวงการทยอยเข้ามาที่ตนอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีลูกศิษย์อยู่ในทุกวงการ
ขณะนี้ประชาธิปัตย์ไม่ได้สู้อยู่กับระบบทักษิณ แต่สู้กับระบอบทักษิณ คือการจัดโครงสร้างใหม่ทุกอย่างของ พ.ต.ท.ทักษิณ เรียกว่า ระบบที่ประกอบกันขึ้นจนกลายเป็นระบอบ การมองโลก ค่านิยม แนวคิด ระบบเศรษฐกิจ วัฒนธรรมทางการเมือง ระบบการศึกษาแบบทักษิณหมด การชี้แจงทำความเข้าใจของประชาธิปัตย์นั้นจะเน้นการให้ความรู้ถึงพฤติกรรมของระบอบนี้ว่าจะต้องเอาออกไปวันนี้ ถือว่าอันตรายยังน้อยอยู่ แต่ถ้าทิ้งไว้เนิ่นนานจะเป็นอันตรายในระยะยาว
ดร.เกรียงศักดิ์ ยังกล่าวต่อว่า การโตขึ้นของ พ.ต.ท.ทักษิณ เหมือนกับฟิลิปปินส์ที่เวลานี้ได้สูญเสียความรุ่งโรจน์ไปแล้ว และ 5 ปีที่ผ่านมาถือว่าพอแล้ว หากปล่อยไปความเสียหายจะทบเท่าทวีคูณ แล้วคนรุ่นหลังจะมาว่าได้ว่าทำไมถึงได้ปล่อยให้เนิ่นนานแบบนี้ปล่อยให้เป็นเช่นนี้
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาระบบการออมของไทยลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะครัวเรือนเดิม 14% ขณะนี้เหลือแค่ 4% เท่านั้น ระบอบทักษิณได้สร้างรากหญ้าให้พึ่งพารัฐบาลอุดหนุน แจกฟรีทุกประเภท พึ่งรัฐให้มากที่สุดเพื่อคะแนนเสียงจงใจทำงานรากหญ้าเพื่อคะแนนเสียง ต่อไปคนไทยจะเป็นหนี้อย่างมหาศาล ถ้าล้มครั้งนี้จะมาถึงรากหญ้าทั้งหมดแน่นอน
ส่วน นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวปราศรัยท่ามกลางเสียงเฮและปรบมือต้อนรับด้วยความชื่นชอบในลีลาฝีปากกล้าของนายไตรรงค์ ซึ่งนายไตรรงค์ ได้กล่าวถึงการปฏิรูปการเมืองเมื่อปี 2540 ถือว่า ดีพอสมควรด้วยเจตนารมณ์ที่จะต้องได้นักการเมืองดี จัดตั้งองค์กรอิสระเพื่อความอิสระ ไม่ขึ้นกับใคร อย่างเช่น กกต.ซึ่งจะต้องเป็นกลางจะส่งผลให้ได้ ส.ส.และ ส.ว.มีคุณภาพในสภา
สมมติว่าเราโชคร้ายได้นายกฯ มาแทรกแซงวุฒิสภา แทรกแซงครอบงำได้เกินครึ่ง คือ 120 เสียง สมมติว่าแทรกแซงศาลรัฐธรรมนูญได้เกินครึ่ง คำพิพากษาก็ไม่เป็นกลาง ถ้าเป็นฝ่ายนายกฯ รอด ไม่ผิด แต่ถ้าฝ่ายอื่นเสร็จ สมมติ ป.ป.ช.ได้เกินครึ่งก็ไม่ตรวจสอบฝ่ายนายกฯ แต่ถ้าตรวจสอบฝ่ายตรงข้ามก็เสร็จอีก กกต.5 คน สมมติว่าแทรกแซงได้เกินครึ่ง ฝ่ายนายกฯทำผิดก็ไม่ผิด แต่ถ้าฝ่ายตรงข้ามทำผิดก็เสร็จอีก และนี่คือ การสมมติ มันได้เกิดขึ้นแล้วเกิดขึ้นที่นี่ประเทศอาร์เจนตินา นายไตรรงค์ กล่าว หลังจากนั้นประชาชนที่มาฟังการปราศรัยต่างโห่ร้องด้วยความชื่นชอบ
นายไตรรงค์ ยังได้กล่าวถึงความบอบช้ำของประเทศโดยการยกตัวอย่างประเทศในแถบละตินอเมริกา ประเทศที่มีการขายสมบัติของประเทศชาติจนอยู่ในสภาพที่ผู้นำต้องถูกประชาชนขับไล่ และระบุว่า น้องแม้วยืนยันว่าไม่ลาออก ก็อย่าออกเถอะน้อง น้องแม้วคงรอให้ประชาชนเขากระทืบตายคาทำเนียบของน้อง ยกตัวอย่างในละตินอเมริกาที่มีทางเลือกให้ผู้นำ 3 ทางเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ประชาชนไม่พอใจ คือ 1.ฆ่าตัวตาย 2.ถูกกระทืบตาย และ 3.ลี้ภัยออกนอกประเทศ น้องแม้วคงจะต้องเลือกเอาเอง
นายไตรรงค์ กล่าวด้วยว่า ผลการวิจัยออกมาแล้วว่า มีประมาณ 100-120 เสียงของสภาสูงที่สามารถสั่งได้ นายกฯสั่งให้ยกมือก็ต้องยก สั่งให้ยกหางก็ต้องยก ทั้งที่มีการควบคุมได้อย่างเบ็ดเสร็จเช่นนี้ ยังมีการยุบสภา แท้จริงการยุบสภาต้องทำด้วยเหตุผล 2 อย่าง คือ 1.สภาครบ 4 ปีต้องยุบ เพื่อเลือกใหม่ 2.ยุบก่อน 4 ปี กรณีนายกรัฐมนตรีมีความขัดแย้งกับสภาอย่างรุนแรง จนไม่สามารถบริหารงานต่อไปได้ เขามีตั้ง 374 เสียงจะออกกฎหมายยึดอะไร ทำอะไรก็ได้ ยังยุบอีก และนำไปสู่การเลือกตั้งครั้ง ต่อไปก็เชื่อว่าสั่งได้อีก พรรคประชาธิปัตย์จะไม่ยอมเป็นรองเท้าให้โจรใส่ไปขโมยวัวชาวบ้าน ถ้าชาวบ้านยังเลือกพวกนี้อีกก็เลือกไปยกประเทศ ให้ไปเลย เพราะไม่ใช่ของผมคนเดียว อยากจะให้มีการบริโภคส่วนไหนของประเทศไทยก็ปล่อยไป ไม่หวังอะไร เพราะหากประชาชนเป็นคนเลือก
อนาคตประเทศไทยอยู่กับประชาชน อย่าหวังประชาธิปัตย์ ถึงเวลาที่ประชาชนต้องคำนึง เพราะเป็นเจ้าของประเทศ นั่นคือ การออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง และกาลงในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน นายไตรรงค์ กล่าว
ส่วน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้ขึ้นปราศรัยเป็นคนสุดท้าย โดยได้กล่าวว่า ขณะนี้มีความหวั่นวิตกในเรื่องของการสร้างม็อบชนม็อบ คนเจ็บคือประชาชนเท่านั้น ประชาธิปัตย์ไม่เอาด้วย ห่วงสถานการณ์บ้านเมืองกลัวว่าจะเกิดเหตุรุนแรง อยากให้ประชาชนเห็นอนาคตก่อนหน้านี้ได้ไปเสนอให้ลงมานั่งเจรจากัน แต่ก็ไม่เป็นผล
การดำเนินงานทางการเมืองของทักษิณนั้น มีความพยายามอย่างยิ่งที่จะดึง ส.ส.ของประชาธิปัตย์ในภาคใต้ ขอเจรจา แต่ไม่มีใครเอา พยายามมาเจรจากับผม ซึ่งผมบอกว่าไม่เอา กลัวสอบตก พรรคพวกจะบอกว่าเป็นคนทรยศ เพราะพรรคนี้เป็นพรรคของปู่ของย่า ผมจึงบอกเขาให้ไปดูตัวอย่างนายวีระ มุสิกพงศ์ ที่เคยครองใจคนใต้ พอไปอยู่พรรคอื่นมาปราศรัยในภาคใต้ทีหนึ่งมีคน 5 คน กับสุนัขอีก 8 ตัว สอบตกตั้งแต่ออกจากพรรคเป็นต้นมา ต่อมายังชวนอีก ชวนให้ไปเป็น มท.1 แก้ปัญหาภาคใต้ต่อหน้า พล.ต.อ.ชิดชัย ผมบอกว่าไม่กล้าจะให้ไปเป็นนายกฯแทนยังไม่กล้าเลย
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ตนไม่เชื่อพฤติกรรมการเล่นละครเหลี่ยมจัด ตีบทแตก บีบน้ำตา เกณฑ์คนมาเป็นแสน ท้าทายประชาชน บอกว่าจะไม่เป็นนายกฯหากประชาชนเลือกไทยรักไทยไม่ถึงครึ่ง เท็จทั้งนั้น บอกตนว่า จะเป็นนายกฯไปถึง 20 ปี ตนจึงบอกว่าให้อายุ 75 ปีก่อนแล้วค่อยไปเป็นต่อ จริงๆ ตนเกิดเดือนเดียวปีเดียวกับนายกฯ เป็นเพื่อนกันมานาน การเลือกตั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมานั้น ประชาธิปัตย์สู้ แต่ก็ถูกฉ้อไปทั้งสองสนาม ครั้งนี้ไม่ส่ง นายกฯจะไปชิงแชมป์โลกที่ไหนก็ไปให้สู้กับเงาตัวเอง ที่ไม่ส่งไม่ใช่ว่าไม่สู้แต่ประชาธิปัตย์เปลี่ยนวิธีสู้ คือ การสู้ด้วยอุดมการณ์ที่จะสามารถโค่นระบอบทักษิณได้
ที่บอกนักบอกหนาว่าเป็นนายกฯ นั้นเป็นนักบุญ ไม่จริง สร้างขึ้นมาเพื่อผลประโยชน์ของครอบครัว ของธุรกิจ ซื้อเหมาเข่ง ส.ส.ซื้อรายหัวร่วมกันสร้างกฎหมายเพื่อประโยชน์ของครอบครัว ทุกครั้งที่ผ่านมา ผมขึ้นเวทีจะขอคะแนนให้กับผู้สมัครของพรรค เพื่อไปทำหน้าที่ แต่ครั้งนี้ขอให้ประเทศชาติ เขาประกาศไว้แล้วว่าถ้าชนะจะเอาประชาธิปัตย์เข้าคุก ผมเป็นมาหมดแล้ว ประชาชนธรรมดา กำนัน เสนาบดี เลขาธิการพรรค จะลองเป็นนักโทษอีกซักอย่างคงไม่เป็นไร นายสุเทพ กล่าวและว่า
วันนี้ประชาธิปัตย์สู้กับเผด็จการทักษิณ หลังพิงประชาชน มาเรียกร้องความสามัคคีเพื่อโค่นล้มระบอบทักษิณ ขออาสาเป็นกองหน้าในการโค่นระบอบนี้ วิธีการบริหารของทักษิณพาประเทศวิบัติ ฉิบหาย ไม่ใช่นักบุญ แต่เป็นโจรในคราบจีวร จะต้องถลกเอาจีวรออกให้เห็นธาตุแท้ ตัวตนที่แท้จริง เอาให้ชัดเจนกัน
ดังนั้น 2 เม.ย.นี้ จะเดินกันเข้าคูหาลงคะแนนกันทุกคน โดยกาช่องไม่ลงคะแนน และช่วยกันเฝ้าหีบอย่าให้ได้ฉ้อโกงกันอีก อาจจะได้ ส.ส.497 เสียง มีลิงอีก 3 ตัวมาเป็นตัวตลกทางการเมือง มาเป็นสภาโจ๊ก ประชาธิปัตย์ก็จะสู้ต่อไป รบต่อไป จนกระทั้งหยุดระบอบทักษิณให้ได้ นายสุเทพ กล่าวในที่สุด