ประธานสภาผู้แทนราษฎร นายชัย ชิดชอบ บรรจุระเบียบวาระ อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอีก 5 คนในวันนี้ แทนที่จะเป็นวันที่ 26-27 มี.ค.
ซึ่งก็มีเสียงตำหนิติติงตามมาว่าเป็นการตัดเกม ก่อนการชุมนุมใหญ่กลุ่มเสื้อแดง และการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรในวันที่ 29 มี.ค.
สำหรับฝ่ายค้านอาจมองว่าการร่นระยะเวลาให้เร็วขึ้น ทำให้มีปัญหาเรื่องการเตรียมข้อมูลประกอบการอภิปรายไม่ทัน
โดยเฉพาะการทำชาร์ต ทำเพาเวอร์พอยต์
แต่ไหนๆจะอภิปรายแล้ว เร็วหรือช้าก็ไม่น่าจะต่างกันมากนัก ถ้าหากมีข้อมูลเจ๋งพอ
ในทางตรงข้ามกัน ฝ่ายรัฐบาลก็คงไม่ค่อยชอบเหมือนกัน เพราะรัฐมนตรีมีเวลาเตรียมตัวน้อยลงไปด้วย
สำหรับการอภิปรายในวันแรก เป็นคิวของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะล้วนๆ ซึ่งร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นคนจองกฐินเอาไว้
ที่บอกว่ามีแต่เนื้อไม่มีน้ำ พูดจบคนถูกอภิปรายโดนน็อกทันทีนั้น จะสมราคาคุยหรือไม่
ขณะเดียวกัน ก็จะเป็นการพิสูจน์นายอภิสิทธิ์ไปในตัวด้วยว่าทนแรงเสียดทาน ทนลีลาของร.ต.อ.เฉลิมได้หรือไม่
เคยแต่อภิปรายคนอื่น พอเจอถลกกลับบ้าง นายอภิสิทธิ์และลิ่วล้อจะใจกว้างพอที่ทนนิ่งฟังได้ขนาดไหน
บรรดาองครักษ์จะออกมาตีรวน ปกป้องให้ดูน่ารำคาญหรือไม่
สำหรับคนที่อาการหนักที่สุด ในการอภิปรายครั้งนี้ เห็นจะไม่พ้นนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ
เจ้าของประโยคเด็ดอาหารดี ดนตรีไพเราะ และการยึดสนามบินเป็นนวัตกรรมใหม่ของการประท้วง
การอภิปรายนายกษิต เท่ากับตีแสกหน้า แฉพฤติกรรมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของกลุ่มพันธมิตรไปด้วย
เพราะเป็นที่รู้กันอยู่ว่านายกษิตได้มาเป็นรัฐมนตรีในโควตาใคร
ที่สำคัญการพูดจาในระยะหลังๆ เหมือนยังอยู่บนเวทีม็อบยึดทำเนียบไม่ผิด
ส.ส.คนใดแสดงตัวออกมาปกป้อง ก็คงเปลืองตัว
แม้แต่ในพรรคประชาธิปัตย์เอง ก็มีคนออกมาประกาศว่าอาจจะใช้เอกสิทธิ์งดออกเสียง
ต้องดูกันต่อว่าส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลจะพร้อมใจกันใช้เอกสิทธิ์เยอะหรือไม่ ซึ่งจะได้เห็นคะแนนในวันลงมติ
รัฐมนตรีอีกคนที่อยู่ในข่ายโดนน่วมแน่ คงจะเป็นนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง ที่ฝ่ายค้านต้องการเชื่อมโยงกับพรรคประชาธิปัตย์ กรณีเงินบริจาค 258 ล้านบาท
เป็นการแฉนายประดิษฐ์ เพื่อลากไส้ประชาธิปัตย์ไปในตัว
สำหรับนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ก็จะโดนแน่ๆเรื่องลุยถั่วแก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะวิธีแบบกู้เงินมาแจก
ส่วนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล และนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ก็คงจะโดนพอท้วมๆ เท่านั้น!!