วันนี้ (18 มี.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในพิธีมอบนโยบายความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และนโยบายด้านยาเสพติด กับผู้ปฏิบัติงาน ประกอบด้วย
ปลัดกระทรวง ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อธิบดี แม่ทัพภาค ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้แทนองค์กรส่วนท้องถิ่น เพื่อให้ได้รับทราบเกี่ยวกับแผนปฏิบัติการณ์ อันจะตอบสนองนโยบายของรัฐบาลได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการบูรณาการความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงาน
โดยนายกฯ กล่าวว่า
ปัจจุบันมีปัจจัยคุกคามรูปแบบใหม่ ลักษณะต่างๆ ที่นับวันทวีความรุนแรงมากขึ้น รวมทั้งสลับซับซ้อน ยากต่อการแก้ไข ซึ่งส่งผลให้ปัญหานั้น มีรูปแบบใหม่ต่างไปจากเดิม ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกัน และเตรียมการแก้ไขปัญหาอันเกิดจากภัยคุกคาม ซึ่งแม้ว่าจะมีองค์กรกลางอย่างสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นหน่วยงานระดับชาติที่จะดูแลก็ตาม แต่ในเรื่องของการปฏิบัตินั้น หน่วยงานด้านความมั่นคงก็ถือว่าจำเป็นที่จะต้องนำสู่การปฏิบัติ รวมถึงการบูรณาการ วางแผน แก้ไขปัญหา ซึ่งจะมีทั้งปัญหายาเสพติด ปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมือง การก่อการร้าย และอาชญากรรมข้ามชาติ รวมทั้งความมั่นคงพิเศษ และความมั่นคงเฉพาะที่ด้วย
นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวเน้นย้ำว่า
ทุกหน่วยงานจะต้องยึดหัวใจสำคัญ ในการปฏิบัติงาน คือ การให้ยึดถือความต้องการ และการมีส่วนร่วมของประชาชนในแต่ละพื้นที่ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ และนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน รวมทั้งขอให้ทุกส่วนราชการสนับสนุนเรื่องกำลังคน และการบริหารจัดการอย่างบูรณาการด้วย
ส่วนเรื่องการปฏิบัติการป้องกัน และปราบปรามปัญหายาเสพติดนั้น นายกฯ กล่าวเน้นย้ำว่า
ขอให้ทุกหน่วยงานบูรณาการ เพื่อต่อสู้เอาชนะปัญหายาเสพติดไปสู่การปฏิบัติตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เพราะถือว่าปัญหายาเสพติดเป็นภัยคุกคาม เช่นเดียวกับการก่อการร้าย และอาชญากรรมข้ามชาติ โดยยอมรับว่าปัจจุบันปัญหายาเสพติด ยังมีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้น โดยเฉพาะรายงานที่พบล่าสุด มีผู้เสพรายใหม่เกิดขึ้นในรอบ 5 ปี สูงถึง 150,000 คน ทั้งที่มีมาตรการในการแก้ไขอยู่แล้ว นอกจากการปราบปรามต้องมีมาตรการอื่นควบคู่ไปด้วย
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า
รัฐบาลไม่ได้มุ่งหวังผลสำเร็จอย่างเดียว แต่อยากให้ปัญหายาเสพติดลดลงอย่างแท้จริง และที่สำคัญมาตรการที่ต้องเน้นย้ำนำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ก็คือความมุ่งหมาย และปัญหาในพื้นที่เป้าหมาย และเพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปทุกมิติ เน้นยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกัน ประกอบด้วย รั้วชายแดน รั้วสังคม รั้วชุมชน รั้วโรงเรียน และรั้วครอบครัว ซึ่งแต่ละรั้วจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปสร้างแนวป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา
นายกฯ กล่าวต่อว่า
หากทำได้ทุกรั้วที่มีการพูดถึง ปัญหายาเสพติด จะลดลงอย่างแน่นอน เบื้องต้นจะมีการประเมินทุก 6 เดือน จากนั้นจะมีการประเมินทุก 1 เดือน เพื่อติดตามนโยบายที่ให้ไปว่าได้ผลมากน้อยขนาดไหน
ส่วนปัญหากลุ่มคนเสื้อแดง พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า
เรื่องของการล่นเวลาในการชุมนุมจากเดิม 29 มี.ค. มาเร็วขึ้นกว่าเดิมนั้น ยังไม่มีรายงานเข้ามา แต่หากเป็นจริงก็ไม่น่าห่วง เพราะทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บชน.) มีมาตรการในการรับมือไว้อยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า
วันนี้จะไม่มีการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ แต่จะมีการประชุมคณะกรรมการพัฒนาความร่วมมือเศรษฐกิจ ซึ่งจะเริ่มขึ้นในเวลา 10.00 น.