รัฐบาลเตรียมลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเป็นแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจ


นายกรัฐมนตรีเผย จากการหารือกับทีมเศรษฐกิจ ช่วงเช้าวันนี้ ทีมเศรษฐกิจกังวลภาวะเศรษฐกิจในสหรัฐ จึงเตรียมแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยมีกรอบระยะเวลา 2-3 ปี ซึ่งจะมีการกู้เงินจากต่างประเทศ และดูการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน



นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เบื้องต้นกำหนดวงเงินลงทุนไว้ 1.4 ล้านล้านบาท เพื่อลงทุนในโครงการขนาดเล็ก ไม่ใช่โครงการขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจกต์) เช่น คมนาคม สาธารณสุข โรงเรียน โรงพยาบาล โดยเหตุผลที่ต้องเพิ่มเงินลงทุน เนื่องจากการลงทุนจากต่างประเทศ และการส่งออกมีปัญหา ขณะที่การจัดเก็บรายได้ก็จะต่ำกว่าเป้า จาก ประมาณการ 100,000 ล้านบาท เป็น 150,000 ล้านบาท หรือมากกว่า



นอกจากนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียง ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ครอบคลุมทุกประเภท ทั้งการชดเชยให้ประชาชน และการปรับปรุงอาคารให้ได้รับผลกระทบน้อยลง ส่วนปัญหาการย้ายเที่ยวบินของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จากท่าอากาศยานดอนเมืองกลับไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมินั้น ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเป็นเพียงการตั้งข้อสังเกต เพื่อให้ศึกษาแนวทางให้รอบคอบ แต่การตัดสินใจขึ้นอยู่กับการบินไทยเป็นผู้ดำเนินการ



ด้านนายพุฒิพงษ์ ปุณณกันต์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรียังได้หารือเกี่ยวกับปัญหารายได้ของรัฐบาลที่ลดลงไป จึงมอบหมายให้กระทรวงการคลังไปศึกษาแนวทางการจัดเก็บภาษีหลายประเภท ที่ยังสามารถดำเนินการได้ โดยเฉพาะภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ภาษีมรดก รวมไปถึงการให้กรมที่เกี่ยวกับการจัดเก็บภาษี ติดตามรายได้ให้เป็นไปตามเป้าหมาย ส่วนเงินกู้ 70,000 ล้านบาท จากสถาบันการเงินต่างประเทศ เมื่อผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาแล้ว จะลงสู่ระบบเพื่อใช้จ่ายด้านต่าง ๆ ในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์