ปฏิวัติเอ็นบีทีสู่ทีวีแห่งชาติ ปรับผังรายการเน้นผลิตเอง

วันนี้ (17 มี.ค.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกรมประชาสัมพันธ์

กล่ากวถึง กรณีที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์การปฏิรูปสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีอย่างหนักว่า ตนทำใจไว้แล้ว จากนี้จะมีเสียงวิจารณ์ตามมาอีกมาก เพราะมีการเปลี่ยนผังใหม่หมด ผังเก่าหลุดไปเกือบ 70% โดยตนเน้นจะให้กรมประชาสัมพันธ์ ต้องมีสถานะในการร่วมผลิตเท่าๆ กัน จากเดิมที่เจ้าหน้าที่กรมประชาสัมพันธ์จะอยู่ข้างล่างบริษัทเอกชน คาดจะพิจารณาแล้วเสร็จในสัปดาห์นี้ เพราะมีบริษัทเอกชนเสนอตัวเข้ามาเพียง 2 บริษัท  

อย่างไรก็ตาม รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวอีกว่า ตนยังกังวลการพัฒนาศักยภาพของคนทำข่าวในกรมประชาสัมพันธ์ เพราะมีการแข่งขันกันมาก

โดยใช้เครื่องมืออุปกรณ์เยอะ ภาคเอกชนไปไกลแล้ว รวมทั้งต้องปรับผู้ประกาศ หรือผู้ดำเนินรายการด้วยให้ทันสมัยขึ้น โดยในวันที่ 23 มี.ค.นี้ จะประชุมร่วมกับสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 เพื่อเตรียมการประกาศเป็นสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ โดยต้องเป็นสื่อที่ทำหน้าที่แก้ปัญหาวิกฤติของชาติได้ ไม่ใช่แค่พอมีการปฏิวัติรัฐประหารก็พร้อมออกมาเป็นกระบอกเสียง  

นายสาทิตย์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้วิกฤติของชาติมมี 2 ส่วนคือวิกฤติความขัดแย้งทางการเมือง และปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจที่กระทบถึงประชาชน

ดังนั้นรายการโทรทัศน์แห่งชาติต้องตอบสนองการแก้ปัญหา 2 ส่วนนี้ให้ได้ เวลาไพร์มไทม์กับช่วงเวลาที่เป็นข่าวจะเน้น 2 เรื่องนี้เป็นหลัก ในช่วงข่าว 7 ชั่วโมงที่กำลังจัดหาคนมาร่วมผลิตอยู่ จะทำผังรายการควบคู่กับกรมประชาสัมพันธ์หลัก คือ ต้องนำเสนอข้อมูลพื้นฐานที่เป็นข้อเท้จจริงที่ไปจากรัฐ เช่น วิกฤติปากท้องรัฐบาลกำลังคิดทำอะไรอยู่ เป็นต้น แต่ก็ยังเสนอข่าวรอบด้านอยู่ดี และในพื้นที่ที่เป็นไพร์มไทม์เดิมซึ่งอาจจะมีรายการต่างๆ อยู่ จะเป็นรายการที่ตอบสนองการแก้วิกฤติของประเทศ เช่น รายการแก้ปัญหาคนว่างงาน ที่กระทรวงแรงงานสนับสนุน หรือรายการหันหน้าเข้าหากัน  

รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวเพิ่มว่า ส่วนทีวีช่อง 11 ในท้องถิ่น เฟสแรกยังทำหน้าที่ 3 ชั่วโมงเหมือนเดิม แต่ในเฟส 2 ทีวีท้องถิ่นจะมีช่องทีวีดาวเทียม โดยวางเป้าให้ไปสู้กับเคเบิลทีวีท้องถิ่นกับทีวีดาวเทียม

โดยจะมีเนื้อหาของรายการกึ่งหนึ่งแป็นเรื่องที่ท้องถิ่นผลิตเอง และสถานีภูมิภาค 8 แห่ง จะนำเสนอข่าวท้องถิ่นปัญหาของชาวบ้านนำเสนอมาสู่ทีวีส่วนกลางด้วย เมื่อถามว่าทางโฆษกพรรคเพื่อไทยระบุว่าเป็นการปฏิวัติเอ็นบีที ไม่ใช่การปฏิรูป ไม่เคยให้โอกาสฝ่ายค้านไปออกรายการ นายสาทิตย์ กล่าวด้วยว่า ฝ่ายค้านก็หาผู้นำให้ได้เสียก่อน แล้วขอรายการเข้ามาเราจะให้ แต่เที่ยวนี้จะเป็นการปฏิรูปสื่อภาครัฐครั้งใหญ่ครั้งหนึ่ง เนื้อหารายการทั้งหลายทราบดีว่าจะกระทบกับหลายฝ่ายมาก ตนก็คงถูกวิพาษ์วิจารณ์อย่างมาก แต่ก็น้อมรับ เพราะต้องการให้ดี โดย 1 เม.ย.นี้ จะมีการเปิดตัว และมีระยะเวลา 3 เดือนเมื่อครบ 3 เดือนจะมีการประเมินผลว่าผังรายการที่ทำออกมาเป็นอย่างไร ตอบสนองทิศทางการประชาสัมพันธ์ตามนโยบายรัฐบาลหรือไม