เมื่อเวลา 12.30น. พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการติดตามกำกับการ แก้ไขปัญหาภัยแล้ง (คปล.)
หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้มารายงานความพร้อมในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง ทั้งมาตรการระยะเร่งด่วน ระยะกลางและระยะยาว เพราะที่ผานมานายกรัฐมนตรีได้รับการร้องเรียนว่าการแก้ปัญหาภัยแล้งล่าช้ามาก ซึ่งการช่วยเหลือในปีนี้จะเร่งให้เป็นอย่างรวดเร็วไม่ล่าช้าแน่นอน โดยให้ทุกหน่วยงานบูรณาการร่วมกัน จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการเพิ่มเติมทั้ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และอธิบดีที่เกี่ยวข้อง ในเบื้องต้นยังไม่มีการเสนอของบประมาณเพิ่มเติม ถ้าไม่เพียงพอจะมาพิจารณาดูที่งบกลาง ซึ่งจะตนจะรายงานให้ที่ประชุมครม.วันที่ 17 มี.ค.รับทราบด้วย ส่วนปัญหาที่บางจังหวัดมีประชาชนแย่งน้ำกันนั้น ตอนนี้ก็มีการนำรถน้ำไปแจกทั้งจากรมน้ำบาล กรมทรัพยากรน้ำ หน่วยทหาร และกระทรวงมหาดไทย
พล.ต.สนั่น กล่าวว่า การประเมินสถานการณ์ ปัญหาภัยแล้งปีนี้จะน้อยกว่าปีที่แล้ว และมีโครงการฝนหลวงที่ช่วยได้มาก
ซึ่งจะมี พื้นที่ที่เสี่ยงภัยแล้งทั้งหมด 46 จังหวัด แบ่งเป็นเสี่ยงภัยแล้งมาก 8 จังหวัดและอีก 38 จังหวัดเสี่ยงภัยแล้งปานกลาง เมื่อถามว่า ในระยะยาวจะต้องมีการสร้างเขื่อนเพิ่มขึ้นหรือไม่ พล.ต.สนั่น ตอบว่า ในระยะยยาวก็คงต้องทำ อย่างการสร้างเขื่อนแก่งเสื้อเต้นที่แม่น้ำยม จ.แพร่ ให้ประชาชนมีน้ำใช้ แต่ยังมีคนต่อต้านอยู่ก็ต้องทำความเข้าใจกันไป ถ้ารัฐบาลนี้อยู่ครบเทอมก็น่าทำได้แน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับพื้นที่เสี่ยงต่อภัยแล้ง มีทั้งสิ้น 46 จังหวัด ได้แก่ พื้นที่เสี่ยงภัยแล้งมาก 8 จังหวัด
คือ จ. เชียงราย แม่ฮ่องสอน อุทัยธานี เพชรบูรณ์ จ.สุรินทร์ อำนาจเจริญ จ. ชลบุรี และ ปราจีนบุรี พื้นที่เสี่ยงภัยแล้งปานกลาง รวม 38 จังหวัด ได้แก่จ. เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน แพร่ น่าน พะเยา ตาก สุโขทัย พิจิตร ลพบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ นครราชสีมา ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี ยโสธร ชัยภูมิ ขอนแก่น เลย หนองเคย มหาสารคาม ร้อยเอ็ด สกลนคร ระยอง จันทบุรี นครนายก สระแก้ว ชุมพร ระนอง ภูเก็ต นครศรีธรรมราช พังงา สงขลา สตูล ตรัง และนราธิวาส