วันนี้(15 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.) เปิดเผยว่า ขณะนี้การเคลื่อนไหวของกลุ่มนปช.มีแนวโน้มที่รุนแรงขึ้น
เชื่อว่า ส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจากแรงกระตุ้นของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งโฟนอินบ่อยครั้งขึ้น โดยเนื้อหายังมีลักษณะปลุกระดมมวลชนตลอดเวลา อีกส่วนเป็นเพราะรัฐบาลแก้ปัญหาผิดวิธี เนื่องจากรัฐบาลหวังเพียงว่านโยบายที่ดีจะแก้ปัญหามวลชนเสื้อแดงหรือสลายแรงต้านรัฐบาลได้ ขณะที่นปช.จำนวนหนึ่งที่ไม่สนใจถูกผิด แต่ถือเอา พ.ต.ท.ทักษิณ คือความถูกต้อง
ทั้งนี้ นายสุริยะใส่ ยังระบุว่า นโยบายที่ดีอาจใช้ได้กับมวลชนพลังเงียบ แต่ไม่มีความหมายกับพลังมวลชนที่ตั้งเป้าล้มรัฐบาล
โดยมวลชนของเครือข่ายระบอบทักษิณก้าวหน้าไปไกลกว่ารัฐบาลประชาธิปัตย์หลายช่วงตัว และพรรคประชาธิปัตย์ควรหยุดแย่งอำนาจกันในพรรคได้แล้ว ถ้ายังอยากอยู่ในอำนาจต่อไป นอกจากนี้ นายสุริยะใส ยังกล่าวถึงกรณีการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ ว่า การโฟนอินถี่ขึ้น น่าจะมาจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ แรงบีบจากโลก ในยุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศเริ่มเสื่อม เพราะหลายประเทศรู้เท่าทัน จึงไม่ยอมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้พื้นที่ของเขาเป็นฐานบัญชาการโจมตีประเทศไทย อีกปัจจัย คือ นปช.เริ่มขาดความชอบธรรม ยิ่งเคลื่อนไหวมาก ยิ่งถูกแรงต้านจากสังคม จึงทำอะไรรัฐบาลได้ยากขึ้น
ส่วนกรณีการปาระเบิดใส่ขบวนรถนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ขณะลงพื้นที่จังหวัดปทุมธานีเมื่อวานนี้(14 มี.ค.) นายสุริยะใส กล่าวว่า เป็นการจัดตั้งมาอย่างแน่นอน
เพราะการที่แกนนำนปช.ออกมาปฏิเสธความรับผิดชอบ แล้วโยนความผิดให้ผูหญิงคนหนึ่งนั้น ถือเป็นเรื่องน่าละอาย พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ความรุนแรงครั้งนี้เป็นสัญญาณเตือนรัฐบาลว่า ความรุนแรงกำลังเริ่มต้นมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยรัฐบาลควรลุกขึ้นมาต่อสู้.