จาตุรนต์จวกยับรธน.50ไม่เป็นปชต.ชี้ปฏิรูปการเมืองแค่ซื้อเวลา

คมชัดลึก : อดีต 111 กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย "จาตุรนต์ ฉายแสง" ชี้ การเมืองไม่สมดุลเกิดความแตกแยก รัฐธรรมนูญปี 50 ไม่เป็นประชาธิปไตย ห่วงปฏิรูปการเมืองของรัฐบาลเป็นเพียงการซื้อเวลา

 ในการอภิปรายเรื่องรัฐธรรมนูญ 2550 สร้างปัญหาให้กับสังคมไทยอย่างไร การปฏิรูปการเมืองที่แท้จริงเป็นเช่นไร นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีต 111 กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า การเมืองในขณะนี้ถือว่ายังไม่สมดุลโดยยังคงมีความขัดแย้งที่มีแนวโน้มกลายเป็นวิกฤติที่เข้มข้นขึ้น เนื่องจากมีการฎีกาซึ่งก็คือรัฐธรรมนูญ 2550 ที่ไม่เป็นธรรมและไม่เป็นประชาธิปไตย แต่กลับกลายเป็นวิกฤติที่ปิดทางออกของสังคม
 ส่วนการพยายามปฏิรูปการเมืองของรัฐบาลโดยสถาบันพระปกเกล้านั้น นายจาตุรนต์ แสดงความเป็นห่วงว่า จะเป็นการจงใจซื้อเวลาของรัฐบาลมากกว่า ซึ่งจะทำให้วิกฤติทางการเมืองไม่ได้รับการแก้ไขและรุนแรงยิ่งขึ้น
 ด้าน นายประสิทธิ์ ปิวาวัฒนพานิช อาจารย์คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ กล่าวถึงการปฏิรูปการเมืองว่า จะไม่สามารถทำได้ หากไม่มีการปฏิรูปเศรษฐกิจอย่างจริงจังควบคู่ไปด้วย โดยเฉพาะเรื่องความเหลื่อมล้ำระหว่างคนเมืองและคนชนบท เพราะในอนาคตการเมืองและเศรษฐกิจ จะเป็นสิ่งที่แยกจากกันไม่ออก
 นายคณิน บุญสุวรรณ อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวในการอภิปรายเรื่องรัฐธรรมนูญ 2550 สร้างปัญหาให้กับสังคมไทยอย่างไร การปฏิรูปการเมืองที่แท้จริงเป็นเช่นไร ว่า รัฐธรรมนูญ 2550 เป็นปัญหาตรงที่สร้างของปลอมขึ้นมามากมายไม่เฉพาะแต่ กกต.เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงองค์กรตามรัฐธรรมนูญและ ส.ว.สรรหา ซึ่งในบทเฉพาะกาลก็เปรียบเสมือนรัฐธรรมนูญอีก 1 ฉบับ ที่เขียนขึ้นมาเพื่อหักล้างตัวบทของรัฐธรรมนูญ
 ทั้งนี้ ยังเห็นว่า ระบบตุลาการศาลก็ถูกแปรสภาพไปหลงเชื่อทางการเมือง โดยรัฐธรรมนูญได้ให้อำนาจศาลสามารถเสนอหรือคว่ำกฎหมายได้โดยไม่ต้องผ่านสภาและยังมีผลทำให้ล้มรัฐบาลได้ ซึ่งเขาเห็นว่า เป็นการขยายอำนาจที่มากเกินไป
 อนึ่ง ความเห็นของนายคณิน สอดคล้องกับความเห็นของ นายประสิทธิ์ ปิวาวัฒนพานิช อาจารย์คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ที่ไม่เห็นด้วยกับการที่ดึงตุลาการเข้ามายุ่งเกี่ยวทางการเมือง โดยเฉพาะการเป็นประธานสรรหาองค์กรตามรัฐธรรมนูญ และวินิจฉัยกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการบริหาร อาทิ กรณีที่เคยวินิจฉัยมาตรา 190 กรณีที่เกี่ยวข้องกับข้อพิพาทปราสาทเขาพระวิหาร ที่ศาลรัฐธรรมนูญเอง ก็ไม่มีความชำนาญในเรื่องของการต่างประเทศ
 นอกจากนี้ ยังเห็นว่า องคมนตรีก็เป็นอีกตำแหน่งหนึ่ง ที่ไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยวทางการเมือง และควรได้รับการตรวจสอบเช่นเดียวกับนักการเมือง