'เฉลิม'พุ่งเป้า'ประดิษฐ์'เผย อ.ออกซฟอร์ดค้าน'มาร์ค'กล่าวสุนทรพจน์
"เพื่อไทย"ตกลงกันลงตัว เพิ่ม"เสี่ยจิ้น"ขี้นเขียงซักฟอกอีก 1 คน เหตุได้ข้อมูลใหม่ “น้องเนวิน” ชักใย “มท.1” อยู่เบื้องหลัง “เหลิม” ชี้พุ่งเป้า “ประดิษฐ์” คนสำคัญลากโยงถึงเงินบริจาคพรรค ลั่นไฮไลต์ถล่มนายกฯ ถ้าเจาะจนรั่วก็จมทั้งลำ ขณะที่วิปรัฐบาลผนึกกำลังช่วยเหลือรัฐมนตรีสั่งพรรคร่วมรัฐบาลป้อนข้อมูลฝ่าด่านให้ได้ ด้าน “โสภณ ซารัมย์” ลั่น 29 มี.ค.เจ้าจำปีย้ายกลับสุวรรณภูมิ เพื่อลดค่าใช้จ่าย ปัดเอื้อประโยชน์ให้เอกชน โยนนโยบายสนามบินเดียวหรือ 2 สนามให้นายกฯ ตัดสินใจ ด้าน “มาร์ค” ลังเล อ้างข้อมูลยังไม่ชัดเจน แต่สงสัยตัวเลขเจ้าจำปีแตกต่างกันมาก “เพื่อไทย” เผยอาจารย์ออกซ ฟอร์ดยื่นจดหมายคัดค้าน “มาร์ค” กล่าว สุนทร พจน์เรื่องประชาธิปไตย ชี้ได้อำนาจมาจากความรุนแรงข้างถนน ไม่ใช่วิถีทางประชาธิปไตยที่แท้จริง โฆษกส่วนตัวนายกฯ โต้งานนี้มีคนอยู่เบื้องหลัง ยันออกซฟอร์ดไม่คัดค้านปาฐกถา “ศิริ โชค” เหน็บ พท.แปลภาษามั่ว
“มาร์ค”ลังเลเจ้าจำปีย้ายสนามบิน
เมื่อวันที่ 12 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความเห็นที่ไม่ตรงกันถึงการย้ายการบินไทยจากดอนเมืองไปสุวรรณภูมิว่า การตัดสินใจในเรื่องนี้ต้องเป็นของบริษัทการบินไทยแต่ก็ได้ให้ข้อสังเกตว่า หากตัดสินใจแล้วฝืนความรู้สึกลูกค้าโดยเฉพาะที่เป็นคนไทย และทำแล้ว จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างบริษัทก็จะมีปัญหา หากยังคงยืนยันที่จะดำเนินการก็ต้องชี้แจงให้ชัดเจน
“การย้ายสนามบินเป็นการตัดสินใจของบริษัทการบินไทย แต่เรื่องการกำหนดนโยบายว่าจะใช้สนามบินเดียวหรือ 2 สนามบินเป็นเรื่องของรัฐบาล และยังไม่มีการตัดสินใจเนื่องจากยังไม่ได้รับข้อมูล” นายกฯกล่าว เมื่อถามว่า จะใช้เวลาอีกนานแค่ไหนในการตัดสินใจ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า หากกระทรวงคมนาคมมีข้อมูลที่ชัดเจนรัฐบาลก็สามารถตัดสินใจได้ ที่ผ่านมารัฐบาลยังไม่พอใจกับข้อมูลที่ได้รับ ที่ไม่เพียงพอที่จะตัดสินใจ
ครม.ศก.ห่วงกระทบลูกค้า
ต่อข้อถามว่า การที่นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม อ้างว่า ครม.เศรษฐกิจเห็นด้วยกับการที่บริษัทการบินไทยย้ายไปสุวรรณภูมิจะเป็นการงัดข้อหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ใช่อย่างนั้น นายโสภณคงถูกถามว่า ครม.คัดค้านใช่หรือไม่ นายโสภณก็เลยชี้แจงว่า ครม.ไม่ได้คัดค้าน เมื่อถามในการประชุม ครม.เศรษฐกิจมีการพูดถึงการขีดเส้นตายให้บริษัทการบินไทยย้ายออกจากดอนเมืองในวันที่ 29 มี.ค.นี้หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า มติของบริษัทการบินไทยเป็นอย่างนั้น อย่างไรก็ตามที่ประชุมได้แสดงความเป็นห่วงผลกระทบกับลูกค้าที่จองตั๋วตามตารางบินใหม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าการตัดสินใจของกระทรวงคมนาคมครั้งนี้ อาจจะเอื้อประโยชน์ให้เอกชนและสายการบินต้นทุนต่ำ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ครม.ได้ตั้งคำถามในเรื่องเหล่านี้เช่นกัน เพราะฉะนั้นคนที่ตัดสินใจเรื่องนี้ต้องชี้แจงให้ได้ว่าไม่เป็นอย่างนั้นเพราะอะไร
ข้องใจตัวเลขแตกต่างกันเยอะ
“การอ้างว่าตัดสินใจอย่างนี้เพื่อลดค่าใช้ จ่าย 600 ล้านบาท แต่เราไม่คิดว่าจะลดได้ถึง 600 ล้านบาท เพราะที่ลดจริง ๆ คือประมาณ 200 ล้านบาท คำถามคือ หากเขาบอกว่าขอลดต้นทุนแต่รัฐบาลไม่ยอมมันก็คงจะแปลก แต่เราต้องบอกว่า 200 ล้านบาทจะต้องไปชั่งน้ำหนักอีกด้านหนึ่ง และความจริงแล้ว 200 ล้านบาทคงไม่ใช่ตัวหลักที่จะปรับโครงสร้างหรือฟื้นฟูที่จะเกิดขึ้นในช่วงเดือน เม.ย.” นายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่า ทำไมตัวเลขถึงแตกต่างกันขนาดนี้ นายกฯกล่าวว่า เขาอ้างเรื่องบุคลากร แต่พอเราจี้ลงไปว่าจริง ๆ แล้วใช่หรือไม่ ไม่ใช่ว่ามาลดตรงนี้แล้วกลับไปมีค่าใช้จ่ายอื่นอีก ต่อข้อถามว่า มีการระบุว่าเอกชนให้เงิน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์กล่าวปฏิเสธว่า ไม่มี ตนมีแต่ถูกหักเงินเดือน เมื่อถามว่า ความสัมพันธ์ระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับบริษัทคิงเพาเวอร์เป็นอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ เขาทำธุรกิจเราเป็นพรรคการเมือง และแนวทางของพรรคชัดเจนอยู่แล้ว
ไม่เชื่อปัญหาจะลุกลาม
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลงานกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงปัญหาการย้ายสายการบินไทยไปที่สุวรรณภูมิว่า สิ่งที่นายกฯพูดว่าการเมืองจะไม่ไปเกี่ยวข้องนั้นชัดเจนอยู่แล้วว่าให้เป็นเรื่องของผู้บริหารสนามบิน รัฐบาลยังไม่มีมติว่าจะใช้สนามบินเดียวหรือ 2 สนามบิน และผู้บริหารการบินไทยทำเรื่องส่งมาว่าขาดทุน หากต้องบริหาร 2 สนามบิน จึงอยากอยู่ที่เดียวและกำหนดแผนย้ายวันที่ 29 มี.ค.
“ผมไม่คิดว่าเรื่องแค่นี้จะเป็นเรื่องลุกลามรุนแรงไปเป็นประเด็นการเมือง เพียงแต่เวลาสื่อรายงานข่าวมันมีสีสัน เลยไปผสมกับเรื่องการยื่นถอดถอน อย่าไปทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่เกินความ เป็นจริง ต้องว่ากันตามความเป็นจริง และผมก็แก้ปัญหาตามสถานการณ์” นายสุเทพกล่าว
ปชป.ข้องใจย้ายสนามบิน
วันเดียวกันที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณากระทู้ถามสดของนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ที่ถามนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม เรื่องผลกระทบจากการใช้นโยบายสนามบินเดียว เหตุใดกระทรวงคมนาคมจึงไม่ทำตามคำแนะนำขององค์การการบินพล เรือนระหว่างประเทศ (ไอเคโอ) ที่เสนอผลการศึกษาว่าหากใช้นโยบาย 2 สนามบิน สนามบินสุวรรณภูมิจะต้องสร้างรันเวย์เพิ่มขึ้นอีกเพียง 1-2 เส้นก็จะเพียงพอ ขณะที่การใช้สนามบินเดียวทำให้ต้องสร้างรันเวย์เพิ่มอีก 3-6 เส้น ต้องเวนคืนที่ดินอีก 9 พันไร่ ส่งผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมาก
นายโสภณได้ชี้แจงว่า จากการปิดสนามบินทำให้สนามบินสุวรรณภูมิขาดความน่าเชื่อถือ ขณะเดียวกันการบินไทยก็ประสบวิกฤติสภาพคล่อง สายการบินไทยก็คือประเทศไทยจึงไม่ยอมให้ล้มในช่วงที่ตนกำกับดูแล จึงให้ผู้บริหารการบินไทยไปทำ เวิร์กช็อป การบินไทยก็เสนอมาว่าจะต้องลดรายจ่ายและสร้างรายได้เพิ่ม การย้ายการบินไทยไปสุวรรณภูมิก็เป็นข้อเสนอมาเพื่อลดรายจ่าย
“โสภณ”แจงเพื่อลดต้นทุน
“การบินไทยอธิบายว่าการมีสนามบิน 2 แห่งที่อยู่ห่างกัน 18 กิโลเมตรนั้น เมื่อเครื่องขึ้นไปภาคอีสานไม่สามารถเลี้ยวขวาได้ทันที ต้องวนเครื่องอีก 4 นาที เสียค่าน้ำมันคราวละ 3 หมื่นบาท รวมแล้วปีละกว่า 100 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีข้อมูลที่กัปตันทั่วประเทศรู้ดีว่า การขึ้นลงนั้นไม่เป็นธรรมชาติเพราะมีจุดตัดในอากาศประมาณ 20 จุด ส่งผลในเรื่องความปลอดภัย”รมว.คมนาคมกล่าว
ส่วนที่ถามว่าการย้ายไปสุวรรณภูมิต้องทำการขยายและสร้างรันเวย์อีก 5 หมื่นล้านบาทนั้น รมว.คมนาคมกล่าวว่า ไม่ต้องสร้างเพิ่มเติม ปัจจุบัน สุวรรณภูมิมีเครื่องขึ้นลง 40 เที่ยว สามารถรับได้อีก 70 เที่ยว สามารถอยู่อีก 10 ปี จึงจะสร้างเฟส 2 ส่วนการสร้างรันเวย์นั้นถึงไม่ย้ายการบินไทยไปก็ต้องสร้างอยู่ดี เพราะเราจำเป็นต้องปิดรันเวย์ 1 ช่องเพื่อซ่อมแซม เมื่อปิดรันเวย์ก็ต้องสร้างรันเวย์ที่ 3 ขึ้นมา ซึ่งรันเวย์ที่ 3 ก็สามารถรองรับได้อีก 10-20 ปี
ลั่นเจ้าจำปี 29 มี.ค. ไปแน่
“การบินไทยอธิบายจนผมต้องยอม วันนี้ผู้โดยสารในประเทศที่สุวรรณภูมิมี 4 แสนคน ขณะที่ดอนเมืองมี 1-2 แสนคน แต่ต้องแข่งขันกัน 3 ราย คือ การบินไทย นกแอร์ และวัน ทู โก ขณะที่สุวรรณภูมิแอร์เอเชีย ครองตลาดเป็นส่วนใหญ่ ถ้าการบินไทยไม่ย้ายจะสู้แอร์เอเชียไม่ได้ และอัตราการใช้เครื่องการบินไทยที่ดอนเมืองมีเพียง 70 เปอร์เซ็นต์ต่อเที่ยว แต่ที่สุวรรณภูมิมีถึง 90 เปอร์เซ็นต์ การย้ายจะทำให้การบินไทยได้ประโยชน์ เพราะจะลดรายจ่าย” นายโสภณกล่าวและว่า เราจึงจำเป็นต้องให้เขาย้ายในวันที่ 29 มี.ค.
รมว.คมนาคมกล่าวยืนยันว่า การขยายเฟส 2 ไม่อยู่ในแผนของกระทรวง แต่มีแผนสร้างรันเวย์ที่ 3 และการสร้างอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ส่วนที่กล่าวหาว่ามีการเอื้อประโยชน์ต่อเอกชนนั้น ยืนยันว่าไม่มีผู้โดยสารในประเทศที่ไปชอปปิงในดิวตี้ฟรี
ตัวเงินตัวทองบุกขึ้นชั้นลอยสภา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น. ในช่วงเปิดการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้ปรากฏเหตุการณ์ตื่นเต้นเล็กน้อย เมื่อปรากฏว่ามีลูกตัวเงินตัวทองยาวประมาณ 1 ฟุต คลานออกมาเดินเล่นบริเวณชั้นลอยทางเข้าอาคารรัฐสภา 1 ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดสังเกต เนื่องจากไม่เคยมีตัวเงินตัวทองขึ้นไปเดินเล่นถึงชั้นลอยอย่างนี้ ทำให้มีการวิจารณ์ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดตรงกับวันที่พรรคเพื่อไทยยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ 5 รัฐมนตรีพอดี
พท.ยึกยักรายชื่อรัฐมนตรี
สำหรับความคืบหน้าในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ประธานคณะทำงานยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ ได้เข้ายื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และ 5 รัฐมนตรีเป็นรายบุคคลต่อนายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภา ซึ่งนายสามารถกล่าวว่า จะใช้เวลาในการตรวจสอบความถูกต้อง 7 วัน หากไม่มีอะไรผิดพลาดก็จะสามารถบรรจุเป็นญัตติด่วนเข้าสู่วาระการประชุมสภาได้ มั่นใจว่าจะอภิปรายฯ ได้ในเดือน มี.ค.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยแจ้งว่าจะยื่นถอดถอนรัฐมนตรีเพิ่มเติมในเวลา 09.30 น. และจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจในเวลา 10.00 น. ของวันที่ 12 มี.ค. แต่เมื่อถึงเวลาได้แจ้งว่าขอเลื่อนกำหนดออกไปก่อน พร้อมเรียกประชุมสมาชิกและมีข้อสรุปว่าจะเพิ่มจำนวนรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายฯ ซึ่งก็คือนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กรณีแทรกแซงการทำงานและการโยกย้ายข้าราชการ อย่างไรก็ตาม ภายหลังการประชุม พรรคเพื่อไทยมีมติยื่นอภิปรายนายกฯ และคณะรวม 5 คน คือ นายกฯ นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง และนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช. มหาดไทย แต่ไม่มีชื่อของนายสุเทพ
ญัตติซักฟอกฉบับลับลวงพราง
ต่อมาในช่วงเย็น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวอีกครั้งว่า พรรคมีมติอภิปรายฯ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว. มหาดไทย เพิ่มอีก 1 คน เนื่องจากได้ข้อมูลมาใหม่ ไม่มีใบสั่งจากนอกประเทศ การพิจารณาไม่มีรายชื่อของนายสุเทพ ครั้งนี้ตนตั้งใจล้มนายกฯ เพราะถ้านายกฯ ไป ครม.ก็ต้องไป แม้ฝ่ายค้านจะลงชื่อไม่ครบ 187 คน แต่ก็ครบตามรัฐธรรม นูญ หากจะมีงูเห่าในฝ่ายค้านตอนยกมือโหวตก็ถือเป็นเอกสิทธิ์ ส่วนประเด็นเงินบริจาค 258 ล้านบาทสมัยที่นายประดิษฐ์เป็นเลขาฯ พรรคนั้น ฝ่ายค้านสามารถพูดได้เพราะยังไม่ขาดอายุความ และนายประดิษฐ์ถือเป็นแขกคนสำคัญของบ้านริมน้ำด้วย
ขณะที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค กล่าวเสริมว่า การยื่นญัตติครั้งนี้ต้องเรียกว่า ญัตติลับลวงพรางฉบับสมบูรณ์ มีการสับขาหลอกให้ฝ่ายตรงข้ามเมาหมัด ครั้งนี้เราจะไม่ต่อยแค่เจ็บแต่จะเอาเต็ม ๆ
เงินบริจาคไม่ใช่จุดตาย
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึง ฝ่ายค้านระบุจุดตายการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้คือเงินบริจาค 258 ล้านบาท อาจนำไปสู่การยุบพรรค นายสาทิตย์ กล่าวว่า เรื่องเกิดมาหลายปีแล้ว ถ้าเป็นจุดตายจริงสงสัยตายตั้งแต่คนอื่นเป็นรัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านแล้ว ถ้าจะหวังผลให้ยุบพรรคก็หวังได้ แต่เรามั่นใจว่าชี้แจงได้
ด้านนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว. มหาดไทย กล่าวว่า ไม่หนักใจที่จะถูกอภิปรายฯ ถือว่าเป็นเกมการเมือง ส่วนผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องการโยกย้ายข้าราชการจะเป็นประเด็นทำให้ถูกอภิปรายหรือไม่ นายชวรัตน์กล่าวว่า ก็เป็นประเด็นหนึ่ง เมื่อถามว่า การโยกย้ายนายสุกิจ เจริญรัตนกุล อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) เตรียมมาเปิดโปงข้อมูลของกรม สถ. นายชวรัตน์กล่าวว่า ถ้าเป็นเรื่องที่สามารถเปิดเผยได้ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับก็จะผิดมารยาท
“เสี่ยจิ้น”เข้าวัดสะเดาะเคราะห์
รายงานข่าวแจ้งว่า นายชวรัตน์ได้เดินทางไปถวายสังฆทานที่วัดชนะสงคราม เพื่อเอาฤกษ์เอาชัย หลังจากที่ฝ่ายค้านบรรจุชื่อในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และให้สัมภาษณ์ภายหลังถวายสังฆทานว่า รู้สึกสบายใจที่ได้มาทำบุญ ไม่เกี่ยว กับการเอาฤกษ์เอาชัย ตนได้อธิษฐานขอพรให้มีชีวิตช่วยประเทศชาติไปนาน ๆ การโยกย้ายนายสุกิจมาเป็นผู้ตรวจราชการนั้น ยืนยันว่าไม่มีอคติ สุภาษิตฝรั่งเศสเขาบอกว่า นกนางแอ่นตัวเดียวบินกลับมาไม่ได้หมายถึงฤดูใบไม้ผลิ หมายความว่าคนพูดเพียงคนเดียว แต่อีก 65 ล้านคน ไม่ได้พูด ดังนั้นจะไปเชื่อคน ๆ เดียวได้อย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ร่วมลงชื่อรับรองคำร้องถอดถอน 5 รัฐมนตรีและญัตติขอเปิดอภิปรายนายกรัฐมนตรีนั้น มีทั้งสิ้นจำนวน 172 คน จากทั้งหมด 187 คน โดย 15 คนที่ไม่ได้ร่วมลงชื่อแบ่งเป็น ผู้ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาใบเหลือง-ใบแดงของ กกต. 5 คน รองประธานสภา 2 คน อยู่ต่างประเทศ 4 คน ไปร่วมงานทางการเมืองกับพรรคภูมิใจไทย 1 คน และไม่ได้ร่วมลงชื่อ 2 คน
เผยเบื้องหลังเพิ่มชื่อ “มท.1”
รายงานข่าวเปิดเผยเบื้องหลังเพิ่มชื่อนายชวรัตน์ว่า กลุ่มอีสานพัฒนาตั้งใจถอดถอนนายชวรัตน์ ขณะที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยที่เคยเป็นสมาชิกกลุ่มเพื่อนเนวินไม่ต้องการให้อภิปราย โดยอ้างเรื่องความสัมพันธ์ที่มีต่อกัน โดยมีเจรจา ต่อรองผลประโยชน์ในรูปของงบประมาณระหว่างกลุ่มอีสานพัฒนา พรรคภูมิใจไทย กลุ่มเพื่อนเนวิน หลายครั้ง อย่างไรก็ตามในที่สุด ส.ส.กลุ่มอีสานพัฒนา ได้นำหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมต่อ ร.ต.อ.เฉลิม แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงการบริหารงานในกระทรวงมหาดไทย ที่มีนายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และหัวหน้ากลุ่มเพื่อนเนวิน คอยบงการอยู่เบื้องหลังทั้งหมด โดยผ่านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ น้องชายนายเนวิน
ข่าวแจ้งว่า นายศักดิ์สยามในฐานะที่ปรึกษาคณะทำงาน รมว.มหาดไทย สั่งการให้ข้าราชการปฏิบัติหน้าที่ต่าง ๆ โดยอ้างว่าเป็นคำสั่งของนายชวรัตน์ เรื่องนี้กลุ่มอีสานพัฒนามีหลักฐานเป็นเอกสารชัดเจน นอกจากนี้ยังมีหลักฐานว่านายชวรัตน์ใช้ประโยชน์จากอำนาจหน้าที่ สร้างประโยชน์ให้กับตนเองและพวกพ้อง โดยการตั้งโต๊ะเปิดรับสมัครสมาชิกพรรคภูมิใจไทยระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ในการแจกจ่ายสิ่งของ
สั่งป้อนข้อมูลช่วย รมต.
สำหรับรัฐมนตรีรายอื่นที่ถูกถอนนั้น นายประดิษฐ์จะถูกอภิปรายในประเด็นร่วมกันกระทำความผิดกับนายอภิสิทธิ์ ในสมัยที่ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กรณีเงินจำนวน 250 ล้านบาท และเงินสนับสนุนพรรคการเมือง 23 ล้านบาทที่ได้รับการจัดสรรจาก กกต. ส่วนนายกรณ์กรณีขอให้บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ส่งข้อความสั้น (SMS) ไปยังผู้ใช้บริการโทรศัพท์ ขณะที่นายบุญจงกรณีโยกย้ายข้าราชการ และการกระจายงบฯ ท้องถิ่นจำนวน 30,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามตนให้ ส.ส. ทุกคนพร้อมสนับสนุนรัฐมนตรีจากพรรคร่วมทุกคนที่ถูกอภิปรายฯ
“พรรคพร้อมประสานข้อมูลการชี้แจงข้อเท็จจริงของนายประดิษฐ์ในสภา แต่จะไม่มีการตั้งทีมขึ้นมาช่วยเหลือ และไม่หนักใจที่ฝ่ายค้านระบุว่านายประดิษฐ์จะเป็นตัวละครสำคัญในการอภิปรายครั้งนี้ การพยายามที่จะโจมตีเรื่องเงินบริจาค เพื่อให้เห็นว่าพรรคทำผิดกฎหมายพรรค การเมือง จะได้มีผลต่อการถูกยุบพรรค พรรคจะใช้โอกาสนี้ในการชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมดต่อสาธารณะ” นายชินวรณ์กล่าว
นายกฯมั่นใจแจงได้ทุกข้อหา
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมชี้แจงญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ถ้าประธานสภา ส่งมาได้ในสัปดาห์หน้าก็อยากให้อภิปรายในช่วงปลายเดือน มี.ค. ระหว่างวันที่ 26-27 มี.ค. ข้อกล่าวหาตนชี้แจงได้ ไม่มีประเด็นไหนที่หนักใจ ส่วนข้อกล่าวหารัฐบาลปล่อยให้ประเทศเพื่อนบ้านสร้างถนนบุกรุกยึดครองใช้พื้นที่ดินแดนของไทยเป็นทางขึ้นเขาพระวิหารนั้น รัฐบาลไม่ได้ละเลยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการดำเนินการอยู่เป็นระยะ ๆ ฝ่ายค้านสงสัยเรื่องใดตนจะตอบและชี้แจงให้ชัดเจน
ต่อข้อถามว่า เป็นห่วงการชี้แจงของ รัฐมนตรีบางคนที่ยังใหม่ทางการเมืองหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เมื่อมารับผิดชอบงานตรงนี้แล้ว ทุกคนต้องชี้แจงได้ ผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันได้หรือไม่หลังการอภิปรายแล้วจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง นายกฯกล่าวว่า มั่นใจว่ารัฐบาลจะชี้แจงได้
แจง “มาร์ค” เยือนอังกฤษ
ส่วนการเมืองอื่นนายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงถึงกำหนดการเดินทางเยือนประเทศอังกฤษของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และคณะในระหว่างวันที่ 13-15 มี.ค. ว่า ในวันที่ 14 มี.ค. เวลา 10.30 น. นายกฯจะกล่าวปาฐกถาพิเศษ ที่มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ในหัวข้อการบริหารความท้าทายของประชาธิปไตย โดยจะย้ำกับคนอังกฤษว่าคนไทยมีหลักการและยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย และบางส่วนก็ยอมที่จะเสี่ยงภัยเผชิญอันตรายไปที่ท้องถนนเพื่อให้ได้มาซึ่ง ประชาธิปไตย
“เรามีคนไทยอยู่ที่อังกฤษหลายหมื่นคน คนที่ไม่เห็นด้วยกับนายกฯ ก็มี เราก็ได้ส่งจดหมายเชิญให้มาฟังท่านพูด เพื่อจะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ไม่จำเป็นต้องออกไปประท้วงหรือเผชิญหน้ากัน” นายปณิธาน กล่าวและว่า นายกฯ ยินดีที่จะตอบทุกคำถาม และก็หวังว่าเขาจะมารับฟัง
เผยออกซฟอร์ดค้านจ้อ ปชต.
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์เตรียมที่จะเดินทางไปกล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับประชาธิปไตยในประเทศไทยที่มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดในวันที่ 14 มี.ค.ว่า ตนทราบมาว่ามิสเตอร์ลี โจนส์ นักวิจัยและอาจารย์สอนวิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ได้ส่งจดหมายไปยังผู้บริหารของมหาวิทยาลัย มีเนื้อหาระบุว่า การเชิญนายอภิสิทธิ์มากล่าว สุนทรพจน์ในเรื่องประชาธิปไตย ถือว่าไม่มีความเหมาะสม แม้นายอภิสิทธิ์จะจบการศึกษาที่มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดแต่ที่มาของรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ไม่ได้มาจากวิถีของประชาธิปไตยอย่างแท้จริง แต่ได้อำนาจมาจากการปฏิวัติรัฐประหาร และความรุนแรงที่เกิดขึ้นบนท้องถนน
นายพร้อมพงศ์ยังกล่าวอีกว่า ตอนนี้มีผู้หวังดีได้ส่งคลิปการประชุมลับระหว่างตัวแทน 3 ฝ่ายที่โรงแรมแห่งหนึ่ง โดยปรากฏภาพของเนติบริกร จากสถาบันพระปกเกล้า ตัวแทนจากกลุ่มคนสีเขียว ยศพลเอก และตัวแทนจาก “อ.” และ “ส.” ผู้นำรัฐบาลที่ส่งไปเจรจาแทน แต่ตนยังจะไม่ขอเปิดเผยภาพดังกล่าว จนกว่ามุกก๊อก 2 ของการตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อศึกษาพัฒนาประชาธิปไตยและการเมืองการปกครองจะเปิดเผยออกมา ซึ่งตนก็จะฟ้องต่อประชาชนด้วยภาพให้เห็นถึงการปฏิรูปการเมืองที่ลับลวงพรางอย่างนี้
เย้ย พท.แปลภาษาไม่แตก
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนักวิชาการของมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด คัดค้านให้นายอภิสิทธิ์ปาฐกถาในวันที่ 14 มี.ค. ว่า มิสเตอร์ลี โจนส์ เป็นนักวิชาการที่เคลื่อนไหวในแถบประเทศพม่า เกี่ยวข้องกับนายใจ อึ๊งภา กรณ์ แกนนำกลุ่มแดงสยาม อย่างไรก็ตามทาง มหาวิทยาลัยฯ ยืนยันแล้วว่าให้นายกฯ ปาฐกถาตามกำหนดการเดิม
นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า ในฐานะนักเรียนเก่าอังกฤษไม่ทราบว่าพรรคเพื่อไทยอ่านภาษาอังกฤษออกหรือไม่ จดหมายแถลงการณ์ต่อต้านนายอภิสิทธิ์ ไม่ได้เกี่ยวกับทางมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดเลย พรรคเพื่อไทยนำจดหมายของอาจารย์คนหนึ่งมาแถลง ก่อนแถลงน่าจะแปลความให้ถูกต้องเสียก่อน.