หลังจาก "โรคเลื่อนรายวัน" ได้แพร่ระบาดในพรรคเพื่อไทย กรณีการขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลมาระยะเวลาหนึ่ง
ในที่สุดญัตติขอให้ถอดถอน "หล่อใหญ่" นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ของบรรดาสมาชิกพรรคเพื่อไทยก็ยื่นถึงมือนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภาเป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนแม้ว
การยื่นถอด "ผู้นำรัฐบาล" ครั้งนี้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 271 ที่ระบุไว้ให้ ส.ส.จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 4 เท่าที่มีอยู่ของสภามีสิทธิเข้าชื่อร้องขอต่อประธานสภาสูงเพื่อให้วุฒิสภามีมติถอดถอนนายกรัฐมนตรีออกจากตำแหน่งได้
โดยญัตติถอดถอนดังกล่าวพรรคเพื่อไทยได้ยื่นต่อประธานวุฒิสภาก่อนที่จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญมาตรา 158
ที่กำหนดไว้ว่า ส.ส.จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของ ส.ส.เท่าที่มีอยู่ในสภา มีสิทธิเข้าชื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีได้
โดยญัตติดังกล่าวต้องเสนอชื่อผู้สมควรดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไป
ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้เสนอชื่อ "เจ้าพ่อบางบอน" ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน และประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย เพื่อเป็นการให้เกียรติในฐานะ "หัวหมู่ทะลวงค่าย" นำศึกซักฟอกครั้งนี้
และเมื่อได้มีการเสนอญัตติแล้ว นายกรัฐมนตรีจะมีการยุบสภาไม่ได้
ส่วนผลสรุปการยื่นเปิดอภิปรายของพรรคเพื่อไทยจะส่งผลให้ ?หล่อใหญ่?ต้องพ้นจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น
กฎหมายได้ระบุว่า มติไม่ไว้วางใจจะต้องมีคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ จึงจะทำให้นายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง จากนั้นประธานสภานำชื่อผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปกราบบังคมทูลเพื่อทรงแต่งตั้งต่อไป
ทว่าผลลัพธ์ดังกล่าวไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย เพราะจำนวน "มือ" ของ ส.ส.จากพรรคเพื่อไทย ไม่สามารถสู้ "มือ" ของพรรครัฐบาลได้
ในทางตรงกันข้ามกรณีที่มติไม่ไว้วางใจมีคะแนนเสียงไม่ถึงกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมด ส.ส.พรรคเพื่อไทยหมดสิทธิที่จะเข้าชื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีได้อีกตลอดสมัยประชุมนี้
นอกจาก 2 ญัตติข้างต้นแล้ว
พรรคเพื่อไทยยังจะต้องยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามมาตรา159 ที่ระบุว่า ส.ส.จำนวนไม่น้อยกว่า1ใน6ของจำนวน ส.ส.ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภา มีสิทธิเข้าชื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลด้วย
โดยพรรคเพื่อไทยจะยื่น 2 ญัตติเพื่อขอเปิดอภิปรายนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลต่อ "ปู่ชัย" นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 12 มีนาคม
เมื่อ "ปู่ชัย" ได้รับญัตติแล้ว จะต้องตรวจสอบความถูกต้อง ซึ่งหากพบความบกพร่องให้ประธานสภาแจ้งผู้เสนอญัตติให้ทราบภายใน 7 วัน แต่ถ้าญัตติดังกล่าวเป็นไปอย่างถูกต้อง "ปู่ชัย" จะต้องบรรจุเข้าระเบียบวาระการประชุมเป็นเรื่องด่วนและแจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบต่อไป ตามข้อบังคับการประชุมส.ส.ฉบับ 2551 ได้กำหนดเอาไว้
นั่นเท่ากับว่าภายในปลายเดือนมีนาคมนี้ พรรคเพื่อไทยจะได้โชว์ฝีปากเชือด "หล่อใหญ่" ?และบรรดารัฐมนตรีในคณะ
ต้องจับจาดูกันต่อไปว่าญัตติดังกล่าวจะทำให้ ครม. "มาร์ค 2" เกิดอาการขนพองสยองเกล้าตามคำขู่หรือไม่!!!
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
