โสภณลั่นรบ.ไม่แทรกแซงย้ายสายการบินเป็นมติบอร์ด

วันนี้ (12 มี.ค.) นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้สัมภาษณ์ในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 ถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี  มอบหมายให้กระทรวงการคลังและกระทรวงคมนาคมไปหารือร่วมกัน ถึงการย้ายสายการบิน ไปยังท่าอากาศสุวรรณภูมิว่า
 
นายกฯ ให้กลับไปพิจารณาเฉพาะนโยบายซิงเกิ้ล แอร์พอร์ต หรือ สนามบินเดียว ไม่เกี่ยวกับการย้ายการให้บริการของการบินไทย และเมื่อถามว่าหลังการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ครั้งที่ 7/2552 เหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้มีการชะลอหรือไม่ รมว.คมนาคม กล่าวเพิ่มว่า ไม่มีการชะลอ แต่เป็นการสื่อความหมายผิด ยืนยันการบินไทยจะต้องย้ายเที่ยวบินกลับไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิภายในวันที่ 29 มี.ค.นี้ แน่นอน ส่วนสายการบินนกแอร์ และสายการบินวันทูโกจะย้ายภายในสิ้นปี 2552 เนื่องจากมีการตกลงแล้ว หากไปเปลี่ยนแปลงจะถูกมองว่ารัฐบาลเข้าไปแทรกแซง 
 

“ทุกวันนี้เราพยายามบอกว่าเราจะไม่เข้าไปแทรกแซง เรื่องนี้เป็นรูปธรรมตั้งแต่มีการจัดทำเวิร์คชอปกันของบอร์ดการบินไทย เพราะว่าประสบภาวะขาดทุน” รมว.คมนาคมกล่าว

เมื่อถามว่าไม่กลัวข้อครหาที่จะไปเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทที่ทำร้านค้า หรือสายการบินอื่น นายโสภณ กล่าวอีกว่า

คนจะคิดยังไงก็ได้ เพราะคนที่บินในประเทศใครบ้างที่เข้าไปซื้อของดิวตี้ฟรี และเมื่อถามว่าในมุมการเมืองมีคนมองว่าจะเป็นประเด็นความขัดแย้ง ในรัฐบาลได้หรือไม่ ระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ รมว.คมนาคม กล่าวต่อว่า ไม่คิดว่าเป็นประเด็นขัดแย้ง ถ้าทำให้ทุกฝ่ายได้สบายใจ บนพื้นฐานที่ว่าไม่มีใครเอื้อประโยชน์ให้กัน

นายโสภณ กล่าวเพิ่มว่า

กรณีของการบินไทยไม่ใช่กระทรวงคมนาคมบังคับให้ย้าย แต่เป็นความต้องการของฝ่ายบริหารที่เสนอขอมา สาเหตุมาจากขาดทุนด้านการบริหารจัดการที่มีรายได้ประมาณ 600 ล้านบาท แต่มีค่าใช้จ่ายประมาณ 640 ล้านบาท ซึ่งที่ท่าอากาศยานดอนเมืองมีผู้ใช้บริการเฉลี่ยประมาณ 70% ส่วนที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีผู้ใช้บริการเฉลี่ยประมาณ 90%

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า

วานนี้ (11 มี.ค.)  นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ครั้งที่ 7/2552 ที่ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พิจารณาฟื้นฟู บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่ ประสบปัญหาขาดทุนจาก ราคาน้ำมันแพง และผลกระทบจากการปิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ตามนโยบายให้มีสนามเดียว เพื่อตัดสินใจว่าควรมีการย้ายเที่ยวบินของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ไปท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือไม่