เมื่อเวลา 16.45 น. วันที่ 10 มี.ค. นายพงษ์ศักดิ์ สุกใส ผอ.ร.ร.สวัสดิ์รัตนาภิมุข อ.นาโยง จ.ตรัง นำ น.ส.น้ำ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักเรียน ชั้น ม.5/1
พร้อมด้วยผู้ปกครองของ น.ส.น้ำ อยู่ ต.ละมอ อ.นาโยง เข้าแจ้งความกับ พ.ต.อ.เสกสันต์ ชูรังสฤษฎิ์ ผกก.สภ.นาโยง ว่ามีคนส่งข้อความผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ข่มขู่เรียกเงินจำนวน 50,000 บาท จาก น.ส.น้ำ โดยขู่ว่า หากไม่ให้จะนำภาพถ่ายเปลือยของ น.ส.น้ำออกเผยแพร่ประจานทางอินเตอร์เน็ต โดยผู้เสียหายได้นำหลักฐานเป็นสำเนาเอกสารภาพถ่ายที่ถูกส่งมาทางโทรศัพท์มือถือ เป็นภาพนางแบบนุ่งกางเกงในตัวเดียว ท่อนบนเปลือยเปล่า แต่ที่ใบหน้ากลับมีภาพใบหน้า น.ส.น้ำมาตัดต่อไว้แทน พร้อมสำเนาข้อความรวม 14 ข้อความที่ส่งตั้งแต่วันที่ 2-10 มี.ค.
น.ส.น้ำให้การกับตำรวจว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 2 มี.ค. เป็นต้นมา โดยจะมีข้อความทำนองข่มขู่ดังกล่าวเข้ามาทางโทรศัพท์มือถือของตนทุกวัน
ทุกครั้งผู้ข่มขู่จะนัดแนะให้นำเงินจำนวน 50,000 บาท ไปให้ตามที่ต่างๆ ทำให้ตนไม่สบายใจอย่างมากจนไม่มีสมาธิจะเรียนหนังสือ ในที่สุดเลยตัดสินใจนำเรื่องนี้ไปหารือกับผู้ปกครอง และเข้าพบกับนายพงษ์ศักดิ์ สุกใส ผอ.โรงเรียน กระทั่งวันเดียวกันนี้ เมื่อเวลา 11.45 น. ก็มีข้อความเข้ามาในโทรศัพท์มือถือตนอีก เป็นข้อความล่าสุดว่า ให้นำเงินไปให้ที่ห้องฟิสิกส์ของโรงเรียน นายพงษ์ศักดิ์จึงหารือกับตนและผู้ปกครองนำเรื่องเข้าแจ้งให้ตำรวจดำเนินการ
หลังมีเบาะแสและข้อมูลเพียงพอ พ.ต.อ.เสกสันต์ ชูรังสฤษฎิ์ ผกก.สภ.นาโยง สั่งการให้ พ.ต.ต.สุรชาติ บุญโรจน์พงศ์ สว.สป. นำกำลังไปดักรอที่จุดนัดพบบริเวณหน้าห้องฟิสิกส์ ร.ร.สวัสดิ์รัตนาภิมุข
ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลตำบลนาโยงเหนือ กระทั่งพบนักเรียนหญิงรายหนึ่งเดินวนเวียนอยู่หน้าห้องท่าทางมีพิรุธ ตำรวจจึงเข้าขอตรวจค้น ทราบชื่อ น.ส.โบว์ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ม.5 ห้องเดียวกับ น.ส.น้ำ ผู้เสียหาย ตรวจสอบพบโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง รุ่น เจ 700 เจ้าหน้าที่สอบปากคำ น.ส.โบว์ จนยอมรับสารภาพว่า เป็นคนข่มขู่ น.ส.น้ำจริง จากนั้น คุมตัวมาสอบสวนต่อที่ สภ.นาโยง เมื่อตำรวจนำ น.ส.โบว์มาให้ น.ส.น้ำ ผู้เสียหายดูตัว ปรากฏว่า พอทราบว่า น.ส.โบว์คือคนมือบอน ผู้เสียหายถึงกับร้องไห้โฮเพราะเป็นเพื่อนนั่งเรียนโต๊ะติดกัน และเป็นเพื่อนสนิทกันด้วย
น.ส.โบว์ให้การว่า สาเหตุที่ต้องทำเช่นนี้เพราะต้องการเงินไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ เนื่องจากทางบ้านมีฐานะไม่ค่อยดี
พ่อแม่มีอาชีพเป็นพ่อค้าขายขนมอยู่ที่ตลาดหน้าห้องเย็น ต.ควนปริง อ.เมืองตรัง ส่วนที่เลือกทำกับ น.ส.น้ำ เพราะเห็นว่าเป็นคนที่ไม่ค่อยเรื่องมาก และไม่ค่อยกล้าเล่าเรื่องต่างๆให้ใครฟัง คิดว่าน่าจะเป็นคนมีเงิน ต่อมาตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาไปสอบสวนทำประวัติ และแจ้งให้ผู้ปกครองทราบ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหากรรโชกทรัพย์ คุมตัวไว้ดำเนินคดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ น.ส.โบว์ จอมแบล็กเมล์คนนี้ ตำรวจตรวจสอบประวัติพบว่า เคยก่อคดีลักพาตัวเรียกค่าไถ่มาแล้วครั้งหนึ่ง
เหตุเกิดเมื่อปี 2549 ในท้องที่ สภ.เมืองตรัง โดยผู้เสียหายเป็นเด็กนักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในตัวเมืองตรัง และเป็นลูกของผู้พิพากษาศาลจังหวัดกระบี่ ซึ่งครั้งนั้นมีการเรียกค่าไถ่ถึง 3 ล้านบาท แต่ตำรวจจับกุม น.ส.โบว์ ไว้ได้ ถูกส่งไปดำเนินคดีและศาลตัดสินให้รอลงอาญา ส่งตัวไปคุมความประพฤติที่ จ.สงขลา ก่อนจะพ้นโทษออกมาเมื่อปี 2551 และย้ายมาเรียนที่ ร.ร.สวัสดิ์รัตนาภิมุข จนมาก่อคดีขึ้นกับเพื่อนสาวคนสนิทอีกครั้ง แต่ถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด