มาร์คยาหอมวันสตรีสากล รับลูกแก้กฎให้ผู้หญิงมีบทบาทมากขึ้น ม็อบสาวปลื้มนายกฯ พูดคุยกันเอง

กลุ่มม็อบสตรีปลื้ม"มาร์ค"รับหนังสือร้องเรียนด้วยตัวเอง นายกฯยาหอมวันสตรีสากล แก้กฎระเบียบให้ผู้หญิงมีบทบาทในสังคมมากขึ้น เร่งลดปัญหาความรุนแรง-ค่านิยมที่ไม่ถูกต้อง รับปากปฏิรูปประกันสังคมให้เป็นองค์กรอิสระ เล็งขยายดูแลคนที่อยู่นอกระบบเพิ่ม


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางมาพบกลุ่มบูรณาการแรงงานสตรี(กบส.) กว่า 500 คน นำโดยนางเพลินพิศ ศรีศิริ ประธานกลุ่มบูรณาการแรงงานสตรี นางวิไลวรรณ แซ่เตีย ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย ที่ชุมนุมกันบริเวณถนนราชดำเนินนอก ติดกับทำเนียบรัฐบาลด้านประตู 5  รวมถึงรับหนังสือเรียกร้องจากเครือข่ายสตรี เนื่องในวันสตรีสากล เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 8 มีนาคม

นายอภิสิทธิ์ ขึ้นบนเวทีปราศรัยกับกลุ่มสตรี ว่าต้องยอมรับว่ากลุ่มตรียังเป็นกลุ่มที่เสียเปรียบในสังคม ตรงนี้ถือเป็นภาระหน้าที่ของรัฐบาล ซึ่งจำเป็นต้องมีนโยบายเพิ่มเติมเพื่อแก้ปัญหานี้ นอกจากนี้สภาพปัญหาที่พบในกลุ่มสตรี คือ ปัญหาการใช้ความรุนแรง  นอกเหนือจากการบังคับใช้กฎหมายแล้ว สิ่งที่จะต้องช่วยกันมากคือ การเสริมสร้างทัศนคติที่ถูกต้องต่อสตรี สำหรับข้อเรียกร้องต่างๆ มีหลายข้อ แต่มีความตั้งใจ เพราะมีหลายเรื่องที่ตรงกับนโยบายที่ได้พูดไว้

"ผมมาเป็นนายกฯครั้งนี้ จะเป็นประธานคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับปัญหาสังคม เด็ก เยาวชน สตรี ทุกคณะ ผมจะดูแลเรื่องเด็กเล็กเด็กอ่อน และต้องการทำเป็นนโยบายสำคัญในการดูแลเด็กตั้งแต่ในท้องแม่ โดยเฉพาะการสนับสนุนโภชนาการ การกิน และส่งเสริมการรักการอ่าน จะรณรงค์อย่างมากให้พ่อแม่อ่านหนังสือให้เด็กฟังตั้งแต่เด็กยังอ่านหนังสือไม่ออก" นายกฯกล่าว

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรื่องระบบประกันสังคม มีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องมีการปฏิรูป มีการเสนอมายังคณะรัฐมนตรี (ครม.)ครั้งหนึ่งแล้ว โดยจะแยกกองทุนประกันสังคมไปเป็นองค์การมหาชน แต่ก็ยังเสนอมาว่า ยังคงให้ขึ้นกับสำนักงานที่มีสถานะเป็นกรม ตนก็บอกว่าไม่ได้ อยู่ดีๆ มีนิติบุคคลที่เป็นกองทุน แล้วยังมาขึ้นอยู่กับกรมหรือกระทรวง ที่เป็นนิติบุคคล จะไม่อิสระ จึงให้กลับไปทำใหม่ ว่าถ้าอยากออกเป็นอิสระ ต้องออกเต็มรูปแบบ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนและการไปแทรกแซง เพราะที่สุดแล้วกองทุนประกันสังคม เป็นเงินที่มาจากผู้ใช้แรงงานและนายจ้าง ไม่ใช่เงินของรัฐบาล รัฐบาลสมทบเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นถือว่าอยู่ในแนวทางตรงกันที่ต้องการสนับสนุนประกันสังคมให้เป็นหน่วยงานอิสระ สำหรับความพยายามให้ครอบคลุมไปยังแรงงานนอกระบบ ซึ่งขณะนี้มีผู้อยู่ในระบบประกันสังคมประมาณ 9 ล้านคน แต่เราตั้งเป้าไว้ว่าในที่สุดควรจะไปถึง 20 กว่าล้านคน

"ปัญหาคือ คนที่ไม่อยู่ในสถานประกอบการ ไม่มีนายจ้างสมทบ จะทำอย่างไร แล้วจะดูแลอย่างไรให้มีการส่งเงินเข้าสม่ำเสมอ ซึ่งผมได้ให้ที่ปรึกษาผมไปดูอยู่ ว่าจะมีวิธีการที่หลากหลายมากขึ้นอย่างไร เช่น การให้ตั้งองค์กร ชมรม อย่างในชนบท สมทบผ่านลักษณะสหกรณ์ได้หรือไม่" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
 
นางวิไลวรรณกล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกฯคนแรกในรอบ 10 ปี ที่เดินทางมารับหนังสือจากกลุ่มสตรีด้วยตัวเอง และหวังว่ารัฐบาลจะนำข้อเรียกร้องจากกลุ่มสตรีไปพิจารณาดำเนินการด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการรับหนังสือและปราศรัยจบ กลุ่มสตรีได้ปรบมือและโห่ร้องด้วยความยินดี นอกจากนี้ยังมีเครือข่ายสตรีหลายกลุ่ม ติดตามเข้ายื่นหนังสือและสะท้อนปัญหาสตรีแก่นายกฯอย่างต่อเนื่อง อาทิ กลุ่มสหภาพสตรีการบินไทย เป็นต้น นอกจากนี้นายกฯยังสนทนาถึงแนวทางแก้ปัญหากับนางวิไลวรรณ และ นางเพลินพิศอย่างเป็นกันเองอีกด้วย

ทั้งนี้ ประเด็นที่กลุ่มสตรีเรียกร้องรัฐบาลดำเนินการแก้ปัญหา จำนวน 11 ข้อ ประกอบด้วย 1.จัดตั้งศูนย์เด็กเล็กในชุมชนย่านอุตสาหกรรมต่างๆในปริมาณที่เพียงพอ โดยมีผู้แทนแรงงานและชุมชนมีส่วนร่วมบริหารจัดการ 2.ออกกฎหมายกำหนดสัดส่วนให้สตรีมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการทุกระดับอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม 3.ประกาศวันสตรีสากลเป็นวันหยุดตามประเภณี 4.ปฏิรูประบบประกันสังคมให้เป็นองค์กรอิสระ และขยายการคุ้มครองสิทธิสู่แรงงานนอกระบบทุกกลุ่มอาชีพ

5.ออกกฎหมายจัดตั้งสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน กฎหมายคุ้มครองผู้รับงานไปทำที่บ้าน กฎหมายแรงงานสัมพันธ์ 6.ให้การรับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 87 และ 98  7.ยกเลิกการแปรรูปรัฐวิสาหกิจทุกรูปแบบ 8.คุ้มครองสิทธิแรงงานข้ามชาติให้เท่าเทียมกับแรงงานไทย 9.จัดมาตรการรองรับแรงงานไทยที่ไปทำงานต่างประเทศหลังกลับสู่ประเทศไทย 10.บังคับใช้พ.ร.บ.แอลกอฮอล์อย่างจริงจัง และ 11.ยุติการคุมคามทางเพศและการกระทำความรุนแรงต่อเด็กและสตรี

ก่อนหน้านี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวใน รายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์" ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์เอ็นบีที และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ว่าในโอกาสวันสตรีสากล รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับเรื่องของปัญหาของสตรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาที่ยังเกิดขึ้นอยู่ในบ้านเรา คือการเลือกปฏิบัติที่ยังแฝงอยู่ ยังมีปัญหาเรื่องของความรุนแรงต่อสตรี ที่มักจะเป็นข่าวอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่ในครอบครัว ไปจนถึงปัญหาอาชญากรรม  รัฐบาลให้ความสำคัญที่จะดูแลปัญหาสตรี และจะเดินหน้าในการแก้กฎระเบียบ และส่งเสริมรณรงค์สนับสนุนให้สตรีเข้ามามีบทบาท  มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการเรื่องราวต่างๆ ในทุกระดับให้มากที่สุด 

"สิ่งที่ผมอยากจะฝากไว้ คือ พวกเราทุกคนมีส่วนสำคัญในการลดความรุนแรงได้ โดยการมีค่านิยมที่ถูกต้อง  และเผยแพร่ค่านิยมที่ถูกต้อง  คงต้องฝากไปยังพี่น้องสื่อมวลชนเป็นพิเศษ  ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอข่าวสาร การนำเสนอภาพต่างๆ  ขอให้ช่วยกันระมัดระวัง อย่าไปเติมเชื้อให้กับความรุนแรงไม่ว่าจะในรูปแบบใด  และอยากให้ส่งเสริมทัศนคติที่ถูกต้องและที่ดีต่อสตรีในสังคมของเรา  ก็จะเป็นการดำเนินการที่จะช่วยสนับสนุนการทำงานของรัฐบาล  วันนี้ซึ่งเป็นวันสตรีสากล  ก็เป็นวันที่จะได้มีโอกาสมาทบทวน  และเดินหน้าเรื่องนี้ไปบนความถูกต้อง และเพื่อผลประโยชน์ของส่วนรวม ของชาติบ้านเมืองต่อไป" นายอภิสิทธิ์ กล่าว