ผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่แก้ไขปัญหาภัยแล้งฝั่งตะวันออก กทม.

กรุงเทพฯ 7มี.ค.-ผู้ว่าฯ กทม.ลงพื้นที่ตรวจปัญหาภัยแล้ง กทม.ฝั่งตะวันออก ประสานกรมชลฯ ปล่อยน้ำจากเขื่อนช่วย ประกาศ 4 ปี น้ำประปาเข้าถึงทุกครัวเรือน หนุนเกษตรกรปลูกแตงไทยแทนทำนาปรัง เตรียมนำมาตรการประหยัดน้ำที่ใช้ทั่วโลกเข้าที่ประชุมผู้บริหาร กทม.10 มี.ค.นี้

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงพื้นที่เขตคลองสามวา มีนบุรี หนองจอก และลาดกระบัง 

เพื่อตรวจปัญหาภัยแล้ง โดยกล่าวว่า สถานการณ์ในขณะนี้จะยังไม่รุนแรง และยังรับมือได้ เตรียมประสานกรมชลประทานในการปล่อยน้ำให้เพียงกับการอุปโภคบริโภค และการเกษตรในฝั่งตะวันออกของ กทม. ที่มีกว่า 90,000 ไร่ เตรียมขุดลอกคูคลอง เพื่อให้การระบายน้ำเป็นไปอย่างสะดวก และส่งผลให้ช่วงฤดูฝนไม่มีปัญหาน้ำท่วมขัง  พร้อมให้คำมั่นว่าภายใน 4 ปี ทุกครัวเรือนของ กทม. จะมีน้ำประปาใช้  ซึ่งความคืบหน้าในการวางท่อประปา ใน 22 เขต ของ กทม.ขณะนี้คืบหน้าร้อยละ 83 แล้ว คาดว่าสิ้นเดือนเมษายนนี้ จะเริ่มวางระบบท่อประปาขยายเพิ่มอีก 6 เขตฝั่งตะวันออก เช่น คลองสามวา มีนบุรี หนองจอก บางขุนเทียน ทวีวัฒนา และ ลาดกระบัง

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังเตรียมปรับผังเมืองใหม่ ให้มีแก้มลิงในการเก็บน้ำมากขึ้น

ซึ่งการเพิ่มพื้นที่รับน้ำให้กับ กทม. ในฝั่งตะวันออกนั้น จะส่งผลให้ลดภาวะเรื่องมลพิษทางเสียงด้วย ทั้งนี้ จะเร่งให้ผู้เชี่ยวชาญทำการศึกษา ส่วนการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำขาดแคลนในพื้นที่ทำการเกษตร เตรียมสนับสนุนให้มีการเพาะปลูกพืชใช้น้ำน้อย เช่น แตงไทย แทนการทำนาปรังที่ใช้น้ำมาก และเมื่อข้าวมีราคาดีการเพาะปลูกก็ยิ่งมาก การใช้น้ำย่อมต้องเพิ่มมากขึ้น ซึ่งวิธีการดังกล่าวนอกจากจะทำให้ลดปริมาณการใช้น้ำ ยังเป็นการเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่งด้วย และในวันที่ 10 มีนาคม 2552 เตรียมนำมาตรการประหยัดน้ำที่ใช้ในทั่วโลก เข้าสู่ที่ประชุมผู้บริหาร กทม. เน้นลดกิจกรรมที่ใช้น้ำปริมาณมาก เช่น ลดการล้างรถยนต์บ่อยๆ หรือการรดน้ำต้นไม้เฉพาะต้นไม้ขนาดเล็กที่ต้องการปริมาณน้ำมากกว่าต้นไม้ขนาดใหญ่ .- สำนักข่าวไทย