นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นกรณีที่มีรายงานข่าวจากบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นคนใกลล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ
ทางการอังกฤษได้ออกวีซ่าที่อยู่อาศัยถาวร (เรสซิเดนท์ วีซ่า) ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเวลา 5 ปี หลังมีการเพิกถอนวีซ่าไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2551 นายพงศ์เทพ กล่าวเมื่อวันที่ 2 มีนาคม โดยระบุว่าตนเองยังไม่ได้อ่านข่าว จึงยังไม่ทราบข้อมูล ขอเวลากลับไปตรวจสอบข้อมูลเสียก่อน ส่วนกรณี พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ปาฐกถาพิเศษเรื่องเศรษฐกิจกับสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ (เอฟซีซี) ในฮ่องกง ที่กำหนดขึ้นในวันที่ 2 มีนาคมนั้น เพราะสมาคมแจ้งขอเลื่อน เนื่องจากมีเหตุขัดข้องทางเทคนิค จะต้องมีการเตรียมความพร้อมและจะแจ้งเวลามาอีกที โดยทางสมาคมที่ฮ่องกงไม่ได้มีการแสดงความกังวลในประเด็นทางการเมืองแต่อย่างใด เช่นเดียวกับ นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและอดีตที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ระบุว่า ไม่ทราบเรื่องวีซ่าเข้าประเทศอังกฤษ จึงไม่สามารถยืนยันได้ว่ากระแสข่าวเป็นจริงหรือไม่
ขณะที่ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า มีความเป็นไปได้แน่นอน เพราะเมื่อไม่นานมานี้ พ.ต.ท.ทักษิณเคยเปรยกับตนหลังจากที่ตนเล่าให้ฟัง
ว่า พรรคประชาธิปัตย์ออกมาให้ข่าวว่าประเทศต่างๆ ห้าม พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางเข้าประเทศ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณหัวเราะ พร้อมกับระบุว่า " ถ้าวันหนึ่งผมไปยืนถ่ายรูปหน้าห้างแฮร์รอดส์ (ห้างสรรพสินค้าชื่อดังในลอนดอน ประเทศอังกฤษ) คนจะแปลกใจไหม" เมื่อถามว่า ในรายงานข่าวระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางไปลอนดอนในต้นเดือนมีนาคมนี้ นายสุรพงษ์กล่าวว่า ก็ได้ยินมาแว่วๆ ว่า อาจจะไปเยี่ยมบุตรสาวที่เรียนหนังสืออยู่ที่นั่น
ด้านนายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณมีสถานะเป็นพลเมืองพิเศษของประเทศนิการากัว
และประเทศในแถบตะวันออกกลาง รวมถึงทวีปยุโรปอีกหลายประเทศ ดังนั้น การขอวีซ่าไปอังกฤษอีกครั้งจึงถือว่าเป็นสิทธิ และมีความเป็นไปได้ เพราะต่างประเทศทราบดีว่า คดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณต้องเผชิญเป็นคดีทางการเมือง การออกวีซ่าให้ พ.ต.ท.ทักษิณจึงไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร