นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมอาเซียนซัมมิต ถึงกรณีนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช
ไม่เห็นด้วยที่พรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นนายกฯ ในการเสนอญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า เป็นเรื่องภายในของฝ่ายค้านไม่ขอออกความเห็น เมื่อถามย้ำว่าเป็นจุดที่ทำให้เห็นหรือไม่ว่า ฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยที่จะสนับสนุนให้ร.ต.อ.เฉลิม เป็นนายกฯ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรื่องนี้คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาในการทำงาน เมื่ออยู่ต่างพรรคอาจมีความเห็นที่แตกต่างกันไป เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านที่จะต้องตกลงกัน
ส่วนความคืบหน้าของการติดตามตัว พ.ต.ท. ทักษิณ กลับมารับโทษ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้มีข่าวยืนยันแล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะไม่ไปแสดงปาฐกถา ที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศที่ประเทศฮ่องกง และที่ผ่านมาไม่ทราบว่าอดีตนายกฯ ทักษิณ อยู่ที่ไหน เป็นหน้าที่ของตำรวจและอัยการที่จะไปปรึกษาหารือกันว่าจะทำอย่างไรจึงจะบังคับใช้กฎหมาย หรืออาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศได้อย่างไร
เมื่อถามว่า ขณะนี้ดูเหมือนรัฐบาลทำตัวเป็นเพียงแมววิ่งจับหนูที่ไม่เคยจับได้เสียที นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หน้าที่หลักของรัฐบาล คือ การแก้ไขปัญหาของประเทศ
ปัญหาที่สำคัญขณะนี้คือ ปัญหาของประชาชน กรณีพ.ต.ท.ทักษิณ มีเพียงเรื่องเดียว คือการบังคับใช้กฎหมาย ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทำไปตามปกติ จะพูดว่าเราเพิกเฉยไม่ได้เพราะถือว่าเป็นหน้าที่ต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเสมอภาค แต่คงไม่ใช่ลักษณะที่รัฐบาลจะเอาเวลาหรือกำลังที่มีไปทำงานนี้โดยเฉพาะ ขั้นตอนขณะนี้ก็ทำไปตามขั้นตอนกฎหมาย ซึ่งในข้อกฎหมายคดีถึงที่สุดแล้ว ก็เป็นขั้นตอนที่จะนำตัวเข้ามารับโทษตามกฎหมาย อีกทั้งยังมีคดีความอื่นๆ ที่ต้องการให้กลับเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรม แต่เมื่ออยู่ในต่างประเทศก็ต้องไปดูว่ามีขั้นตอนและวิธีการในการส่งตัวอย่างไร มีอุปสรรคติดขัดตรงไหนบ้างและที่ต้องทำแต่ทั้งหมดต้องมีข้อเท็จจริงด้วยว่า พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ที่ไหน จะได้ไปขอตัว ตอนนี้เหลือขั้นตอนเดียว เนื่องจากตอนนี้ไม่ทราบที่อยู่ชัดเจน
ผู้สื่อข่าวถามว่า เห็นอย่างไรกับข้อวิจารณ์ที่ว่าการเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณ ในช่วงที่รัฐบาลมีงานสำคัญเป็นแค่การช่วงชิงพื้นที่ข่าว นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า อยู่ที่สื่อจะให้พื้นที่มากน้อยแค่ไหน