เพื่อไทยเมินเสียงเหนาะ ยันส่งชื่อเฉลิม ชิงนายกฯ กลุ่ม12พผ.ไม่ร่วมซักฟอก หนุนมาร์คนายกฯต่อ


ส.ส.เพื่อไทยเมินเสียง"เสนาะ"ขวาง"เฉลิม" อ้างเป็นมติพรรคหนุนนั่งนายกฯ ยื่นเปิดศึกซักฟอก รบ. ชี้ระบบสำคัญกว่าตัวบุคคล "กลุ่ม 12"เพื่อแผ่นดินไม่ร่วมลงชื่ออภิปราย ลั่นไม่ใช่ลูกไล่ใคร บอก"อภิสิทธิ์" ยังเหมาะทำงานต่อไปได้ ยัน"ประชา"ไม่ชิงเก้าอี้

 
พท.เมิน"เสนาะ"ยันส่ง"เฉลิม"

ส.ส.พรรคเพื่อไทย (พท.) ยืนยันเสนอชื่อ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรค เป็นนายกรัฐมนตรี ในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะถือว่าเป็นมติพรรค แม้นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ไม่เห็นด้วยก็ตาม ทั้งนี้ นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้เมื่อวันที่ 1 มีนาคม ว่า เรื่องนี้ผู้ใหญ่พูดเราก็ต้องรับฟังและไม่เถียง เพราะนายเสนาะถือเป็นผู้ใหญ่ ในทางการเมืองนั้นปฏิเสธไม่ได้ว่า ตัวบุคคลมีความสำคัญ แต่วันนี้ระบบมันสำคัญกว่า และพรรคเพื่อไทยมีมติไปแล้วว่าจะใส่ชื่อร.ต.อ.เฉลิมในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ

"พรรคเพื่อไทยได้ประกาศไปแล้วว่าเรื่อง ร.ต.อ.เฉลิมนั้นจะต้องขอความเห็นใจจากแนวร่วมทุกฝ่าย เนื่องจากที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยนั้นบอบช้ำมาก  ถูกยุบพรรคมาถึง 2 รอบ วันนี้จึงต้องสู้บนพื้นฐานที่มีอยู่ ปัญหาที่เกิดขึ้นคงจะมาจากที่ผ่านมายังไม่ได้หารือร่วมกับพรรคฝ่ายค้าน ดังนั้น หากจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรคงจะต้องมีการพูดคุยกันอีกครั้งหนึ่ง"
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ หากพรรคเพื่อไทยจะเปลี่ยนชื่อร.ต.อ.เฉลิมมาเป็น พล.ต.อ. ประชา พรหมนอก หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน (พผ.) นายสุนัยกล่าวว่า พล.ต.อ.ประชานั้นอยู่คนละพรรค การจะไปสนับสนุนจะให้สมาชิกพรรคเพื่อไทยทำอย่างไร  บางครั้งปัญหามันอาจจะซับซ้อนกว่าการไม่พอใจตัวบุคคลก็ได้ ที่สำคัญคือขณะนี้ พล.ต.อ.ประชาจะยอมมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยอีกหรือไม่ก็ยังไม่มีใครรู้

โฆษกพท.เผย3มี.ค.รู้เป็นใคร
 
ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่ประชุม ส.ส.ของพรรคให้อำนาจคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นผู้พิจารณา คาดว่าวันที่ 3 มีนาคม จะได้ข้อสรุปจะแนบชื่อบุคคลใดเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป
 
เมื่อถามว่า บุคคลที่พรรคจะเสนอชื่อคือ ร.ต.อ.เฉลิมใช่หรือไม่ นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า มีชื่ออยู่ในใจแล้ว แต่ยังไม่ถึงเวลาที่จะเปิดเผย ยอมรับว่า ร.ต.อ.เฉลิมเป็นชื่อหนึ่งที่อยู่ในการพิจารณา  ส่วนความเห็นของนายเสนาะนั้น นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า อาจจะมีการหยิบยกขึ้นมาพูดคุยในการประชุม ส.ส.ของพรรค เพราะถือเป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมือง

"เฉลิม"ไม่โต้ถูกขวางชื่อนายกฯ

เมื่อถามว่า ถ้าหากสังคมไม่ยอมรับรายชื่อที่พรรคเพื่อไทยเสนอ นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า หาก ส.ส.มีมติเห็นชอบรายชื่อที่กรรมการบริหารพรรคเสนอ พรรคก็จะดำเนินการทำความเข้าใจในเรื่องนี้ต่อประชาชนต่อไป

ทางด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง กล่าวถึงกรณีที่นายเสนาะไม่เห็นด้วยหากพรรคเพื่อไทยเสนอชื่อ ร.ต.อ.เฉลิมเป็นนายกรัฐมนตรีในการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า เขียนไปเลยว่า ร.ต.อ. เฉลิม ไม่มีความคิดเห็นในเรื่องนี้ เมื่อถามว่าน้อยใจหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่ขอแสดงความคิดเห็น

ขณะที่ นายสุรสิทธิ์ เจียมวิจักษณ์ ส.ส. เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า  "ส่วนตัวเห็นว่านาทีนี้ใครทำงาน ใครเป็นหัวหอกนำทัพก็ต้องได้รางวัล ไม่ใช้ให้คนที่อยู่เฉยๆแล้วรอส้มหล่น เพราะต่อไปจะไม่มีใครทำงาน  ผมถามว่าคนที่เห็นแย้ง หรือคนที่เห็นว่าเหมาะสมจะเสนอชื่อแทน ร.ต.อ.เฉลิม ถ้าให้เป็นแม่ทัพนำการอภิปรายจะกล้าเอาหรือไม่" นายสุรสิทธิ์ กล่าว

เล็งซักฟอกปุ๋ยแพงเกินจริง

นายสุรสิทธิ์กล่าวถึงกระแสข่าวการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติว่า มองว่าเป็นเกมของพรรคประชาธิปัตย์ที่ต้องการข่มพรรคร่วมรัฐบาลเท่านั้น เพราะอยู่ในช่วงที่พรรคร่วมรัฐบาลกำลังขี่คอพรรคประชาธิปัตย์ต่อรองผลประโยชน์ งบประมาณและโครงการต่างๆ จำนวนมาก จึงส่งลิ่วล้อมาหารือกับคนของพรรคเพื่อไทย เช่น กรณีที่ผิดสังเกตคือ การขึ้นราคาของปุ๋ยยูเรีย ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงพาณิชย์ จากเดือนมกราคม 2552 อยู่ที่ถุงละ 600 บาท แต่ปัจจุบันขยับมาอยู่ที่ 800-900 บาท เป็นการขึ้นราคาที่ไม่มีเหตุผล มีใครที่ได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้หรือไม่ ซึ่งพรรคจะรวบรวมข้อมูลและนำไปพิจารณาว่าจะกำหนดเป็นประเด็นอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่

"กลุ่ม12"เพื่อแผ่นดินลั่นไม่ลงชื่อซักฟอก

แหล่งข่าวจากแกนนำพรรคเพื่อแผ่นดิน เปิดเผยว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แกนนำกลุ่ม 12 พรรคเพื่อแผ่นดิน ที่มี พล.ต.อ.ประชา เป็นหัวหน้ากลุ่มร่วมกันหารือถึงการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย และมีมติร่วมกันว่ากลุ่ม 12 เพื่อแผ่นดินจะไม่ร่วมลงชื่อกับพรรคเพื่อไทยเสนอญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพื่อดำรงความเป็นกลางทางการเมือง และกลุ่ม 12 ไม่ควรเป็นลูกไล่ใคร แต่จะใช้วิธีพิจารณาการดำเนินงานทางการเมืองเป็นเรื่องๆ ไป และหลังเสร็จสิ้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ กลุ่ม 12 จะพิจารณาหลักฐานและเหตุผลก่อน จึงจะตัดสินใจลงมติไปในทิศทางเดียวกัน

ยัน"ประชา"ไม่รับส่งชิงนายกฯ

นพ.วัลลภ ไทยเหนือ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวว่า แกนนำกลุ่ม 12 เห็นร่วมกันว่าขณะนี้ยังไม่ควรที่จะต้องมีการเปลี่ยน แปลงตัวนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.ประชาก็จะไม่รับข้อเสนอการใส่ชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจแน่นอน เพราะตลอดเวลา 2 เดือนที่ผ่านมาประเมินการทำงานของรัฐบาลยังเห็นว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยังทำหน้าที่ได้อย่างดี แม้บางอย่างจะยังไม่ถูกใจ แต่ในเวทีระดับโลกอย่างดาร์วอส และล่าสุดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนก็ยังถือว่าสามารถทำงานต่อไปได้

"อภิสิทธิ์"พร้อมให้ตรวจสอบ

ก่อนหน้านี้ เวลา 09.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์" ออกอากาศ ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ถึงการตรวจสอบรัฐบาลว่า ฝ่ายค้านได้แถลงไปแล้วว่าจะมีการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในช่วงกลางเดือนมีนาคม ซึ่งคาดหมายว่าการอภิปรายจะมีขึ้นได้ประมาณปลายเดือนมีนาคม นั่นเท่ากับว่าจะได้ใช้กระบวนการของรัฐสภาในข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุม เพราะในการอภิปราย ฝ่ายค้านก็พูดถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (นายกษิต ภิรมย์) พูดถึงการไม่ไว้วางใจ หรือยื่นถอดถอนตน ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการของรัฐธรรมนูญและกฎหมาย

"ส่วนข้อยุติจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับกระบวน การของรัฐสภา ผมคิดว่าถ้าเรารักษาบรรยากาศของบ้านเมือง ให้กระบวนการทางการเมืองทำงานได้อย่างนี้ รัฐสภาก็ทำหน้าที่ไป ประชาชนก็ใช้สิทธิเคลื่อนไหวภายใต้รัฐธรรมนูญและอยู่ในกรอบของกฎหมาย ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะถือเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นสังคมประชา ธิปไตย และรัฐบาลชุดนี้ก็พร้อมที่จะรับการตรวจสอบ" นายกรัฐมนตรีกล่าว

ปชป.แนะ"อ๋อย"เคลียร์เพื่อไทยก่อน

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ขณะนี้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยยังคงมีแนวคิดเรื่องการตั้งรัฐบาลแห่งชาติ โดยจะเห็นว่ากลุ่มของ ร.ต.ท. เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน นายวิทยา บุรณะศิริ ประธานคณะกรรมการประสานงาน (วิป) พรรคร่วมฝ่ายค้าน ยังยืนยันจนวินาทีนี้ว่ายังมีแนวคิดเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ เพราะยังพูดไปถึงว่าหลังจากตั้งรัฐบาลแห่งชาติแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณจะได้กลับมาประเทศไทย ซึ่งหมายความว่าการเคลื่อนไหวตั้งรัฐบาลแห่งชาติปรากฏชัดว่าทำเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ

ไแต่ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทยยืนยันไม่ร่วมตั้งรัฐบาลแห่งชาตินั้น ก็อยากให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ไปตกลงทำความเข้าใจของพรรคให้ดีก่อน หากยังตกลงไม่ได้ก็สามารถไหว้วานนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เป็นผู้หล่อหลอมแนวความคิดของคนในพรรคเพื่อไทยให้เป็นเอกภาพได้ ส่วนที่จะใส่ชื่อ ร.ต.อ.เฉลิมเป็นนายกฯในญัตติอภิปรายนั้นอยากให้ ร.ต.อ.เฉลิมไปอ่านคำให้สัมภาษณ์ของนายเสนาะ แล้วว่ารู้ตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง" นายเทพไทกล่าว

เล็งวางบรรทัดฐานก๊วนแบน5ปี

ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ยื่นเรื่องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สอบสวนกรณีแต่งตั้งนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทย ซึ่งถูกเพิกถอนสิทธิทาง การเมืองเป็นประธานกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ว่าอาจเข้าข่ายความผิดต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ และพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2550 มาตรา 94, 95 และ 96 นั้น
 
นายสุเมธ อุปนิสากร กกต. กล่าวว่า ต้องหารือร่วมกันในที่ประชุม กกต.ก่อน ผู้สื่อข่าวถามว่า กกต.จะวางบรรทัดฐานกลางออกมาว่าบุคคลที่ถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมืองทั้ง 111 คน และ 109 คน สามารถทำอะไรได้บ้างหรือไม่ เพื่อลดเรื่องร้องเรียนเป็นรายกรณี นายสุเมธกล่าวว่า ก็ควรจะเป็นเช่นนั้น แต่เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับความเห็นของ กกต. อย่างตอนที่ กกต. ออกกฎ 5 ข้อในช่วงการสมัครรับเลือกตั้งปี 2550 ก็เป็นเพียงการให้ความเห็นว่าบรรดาบุคคลที่ถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมืองสามารถทำอะไรได้ และไม่ควรทำอะไร เพราะไม่ต้องการให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบกัน แต่ กกต.ไม่ได้บอกว่าถ้าไปทำเช่นนั้นจะขัดต่อพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2550 แต่อย่างใด

"เช่นเดียวกับกรณีที่มีการร้องเรียนเรื่องผู้ถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมืองเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่ง กกต.ลงมติ 3 ต่อ 2 เสียง ว่าไม่ขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีดังกล่าวก็ไม่อาจใช้เป็นบรรทัดฐานได้ เพราะ กกต. 2 คนเห็นว่าควรสอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งอาจจะพบความผิดก็ได้ อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ว่าจะหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาหารือเมื่อใด" นายสุเมธกล่าว

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์