"อภิสิทธิ์"ลั่นจัด"อาเซียน ซัมมิท"ไม่ใช่ผักชีโรยหน้า
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถ่ายทอดสดสรุปผลการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซีบน ครั้งที่ 14 เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 1 มี.ค. ว่า
การที่ประเทศไทยจัดงานสำคัญเช่นนี้ จะทำให้ทั่วโลกมีความมั่นใจในการเมืองของเรามากขึ้น ภายหลังจากที่ผ่านมามีแต่ความขัดแย้ง แต่ตอนนี้ได้กลับสู่สภาวะปกติแล้วและสามารถจัดการประชุมสำคัญระดับนานาชาติได้ นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสที่จะได้พบปะหารือทวิภาคีกับผู้นำอาเซียนประเทศอื่นๆ โดยมีหารือหลายปัญหา เช่น พูดคุยเรื่องข้าวกับเวียดนาม คุยเรื่องปัญหาพรมแดนกับกัมพูชาเพื่อการแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธี ขณะเดียวกันยังได้ขอบคุณประเทศมาเลเซียที่ให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาชายแดนภาคใต้ และได้พูดคุยกับสิงคโปร์เรื่องการอบรมข้าราชการและความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า
ภายหลังที่อาเซียนมีกฎบัตร ก็ทำให้มีกฎเกณฑ์การทำงานร่วมกันในภูมิภาค เพื่อทำให้ความร่วมมือแน่นเฟ้นมากขึ้น ส่วนการร่วมกันเป็นประชาคมอาเซียนนั้น โดยเฉพาะประชาคมเศรษฐกิจ จะเพิ่มโอกาสให้ประชาชนของเรามีการสร้างงานมากขึ้นและมีรายได้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังไม่รับทราบผลการประชุมระดับรัฐมนตรี เช่น ผลการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน ซึ่งได้ตกลงกันว่าจะร่วมกันใช้ทรัพยากรของทัพเพื่อช่วยเหลือ หากเกิดภัยพิบัติ
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า
ส่วนการพบกับภาคประชาสังคม เมื่อเราพูดว่า อาเซียนต้องเป็นอาเซียนของประชาชน ต้องยอมรับว่า ในอดีตที่ผ่านมาการมีส่วนร่วมยังมีน้อย แต่เมื่อโลกได้เปลี่ยนไปแล้ว ก็ถือเป็นเรื่องดีที่เราได้เริ่มต้นอย่างเป็นระบบ โดยได้เชิญผู้แทนภาคประชาสังคมมาพบกับผู้นำ ซึ่งตนทราบว่ามีข่าวออกไปว่า มีการกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่คิดว่าเรื่องนี้เป็นการบ่งบอกว่าเราเปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมมากขึ้นจริงๆ
"แต่หากเราจะจัดฉากหรือผักชีโรยหน้าให้เรียบร้อยทั้งหมด 100% ก็สามารถทำได้ แต่เราพยายามให้เกียรติทุกฝ่าย ก็เป็นตัวสะท้อนว่าอาเซียนยังมีสิ่งที่ท้าทายและมีสิ่งที่เราต้องเผชิญร่วมกัน ทั้งนี้ ภาคประชาชนก็ให้ความร่วมมือ แต่ถามว่าถูกใจเขาหรือไม่ ก็ไม่มีทางถูกใจเขาหรอกครับ และก็ไม่ได้ถูกใจผู้นำทุกประเทศ แทนที่ต่างฝ่ายต่างยืนตะโกนใส่กัน ก็ตัดสินใจมาเดินไปด้วยกันดีกว่า" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ส่วนการที่ได้รับเชิญไปสะท้อนปัญหาด้านเศรษฐกิจในการประชุมจี 20 นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า
เชื่อว่านายกรัฐมนตรีอังกฤษต้องการให้ทุกภูมิภาคในโลกมีโอกาสได้สะท้อนวิกฤตและการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในอนาคต จึงถือว่าเป็นโอกาสที่ดี แต่คงไม่ง่ายที่จะตอบสนองต่อความคาดหวังต่างๆ อย่างไรก็ตาม คงสามารถเรียกความเชื่อมั่นได้ระดับหนึ่ง
เมื่อถามว่า ผลจากการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งนี้ จะสามารถนำไปปฏิบัติได้จริงกี่เปอร์เซ็นต์ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า
เกือบทุกเรื่องเรามีเจ้าภาพที่ชัดเจน ส่วนสำนักงานเลขาธิการอาเซียนนั้น มีอำนาจมากขึ้น แม้ว่าจะยังมีทรัพยากรน้อย ประกอบกับตัวเลขาธิการอาเซียนมีความมุ่งมั่นและได้รับการยอมรับ จึงเชื่อว่าจะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงและความก้าวหน้าในหลายเรื่อง
ส่วนจุดยืนของอาเซียนต่อปัญหาในภูมิภาคตะวันออกกลางนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้มีอยู่ในคำแถลงของประธานอาเซียนแล้ว เราต้องร่วมมือกับหาหนทางในการป้องกันการเกิดความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
หลังเสร็จสิ้นการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 14 ผู้นำอาเซียนต่างทยอยเดินทางกลับตั้งแต่ช่วงเที่ยง ได้แก่ ผู้นำฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย บรูไน กัมพูชา พม่า มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม ลาว ตามลำดับ ไปขึ้นเครื่องบินที่ท่าอากาศยานบ่อฝ้าย ขณะที่ผู้นำฟิลิปปินส์ จะเดินทางไปยังสนามบินสุวรรณภูมิโดยรถยนต์ และจะเดินทางออกจากประเทศไทย โดยเที่ยวบินพิเศษในเวลา 14.45 น. เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรีของไทยที่เดินทางออกจากโรงแรมดุสิตธานีหัวหิน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เพื่อกลับกรุงเทพฯ และปฏิบัติภารกิจตามปกติในวันที่ 2 มี.ค.
ประชุม"สุดยอดอาเซียน"ปิดฉากลงอย่างเป็นทางการแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า
การประชุมอาเซียนซัมมิท ครั้งที่ 14 ได้ปิดฉากลงอย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากที่ผู้นำได้แถลงการณ์และมีการลงนามระหว่างกัน โดยผู้นำอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ได้เข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนตั้งแต่ช่วงเช้า โดยระหว่างที่รถแล่นเข้าสู่โรงแรม มีนักเรียนจากหลายโรงเรียนใน อ.ชะอำ จำนวน 300 คน ยืนเรียงรายโบกธงชาติของ 10 ประเทศ เพื่อต้อนรับขบวนผู้นำ ซึ่งทันทีที่เดินทางครบมีการถ่ายรูปหมู่ร่วมกันเป็นที่ระลึก สำหรับการประชุมครั้งนี้จะมีเพียงผู้นำรัฐบาล 10 ประเทศ และเลขาธิการอาเซียนร่วมหารือเท่านั้น ทั้งนี้ การหารือใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ก็เสร็จสิ้น
ปิดฉากอาเซียน ซัมมิทสวยงามมาร์คลั่นไม่ได้จัดผักชีโรยหน้า
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง ปิดฉากอาเซียน ซัมมิทสวยงามมาร์คลั่นไม่ได้จัดผักชีโรยหน้า