นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าววันนี้ (1 มี.ค.) ในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทย กับ นายกฯอภิสิทธิ์ " บันทึกเทปเมื่อวันศุกร์ที่27 ก.พ. ว่า
จากการประเมินสถานการณ์ตัวเลขการส่งออกและการค้าระหว่างประเทศ หดตัวอย่างรุนแรง เพื่อทำอย่างไรให้เศรษฐกิจของประเทศสามารถที่จะขยายตัวได้ในปีนี้ ตนได้ประเมินร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เชื่อว่าตัวเลขของเศรษฐกิจของประเทศใน 3 เดือนแรก หรือ ไตรมาสแรกของปีนี้ จะติดลบ และอาจจะติดลบรุนแรง เท่ากับ หรืออาจจะมากกว่า 3 เดือนสุดท้ายของปีที่แล้ว ที่ติดลบร้อยละ 4.3 จากนั้น มั่นใจว่า มาตรการ แผนกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการชุมชนพอเพียง จ่ายเงินผู้สูงอายุ อสม. ไปจนถึงเรื่องเรียนฟรีช่วงเปิดเทอม มาตรการ 2 ,000 บาท จะนำไปสู่การใช้จ่ายการหมุนเวียนทำให้การหดตัวของเศรษฐกิจของไตรมาสที่ 2 หรือ 3 เดือนที่ 2 น่าจะลดลง ก่อนจะประเมินอีกครั้งใน ไตรมาสที่ 3 ว่าจะสามารถทำให้เศรษฐกิจกลับมาสู่ในภาวะที่เรียกว่า ไม่เติบโต หรือไม่หดตัวได้หรือไม่ ก่อนที่ไตรมาสที่ 4 จะสามาถทำให้เศรษฐกิจขยายตัวแดนบวกได้อีก
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า
ตนได้ประเมินตัวเลขต่างๆ ผลกระทบการส่งออก การท่องเที่ยว งบประมาณรัฐบาลใช้จ่าย จ่ายเพิ่มเติม การกระตุ้นเศรษฐกิจ ไปจนถึงการเตรียมการใช้จ่ายงบประมาณในปีงบประมาณหน้าไม่น่าจะเพียงพอจึงมี แผนสำรองกู้เงินต่างประเทศ เพื่อเข้ามาลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ น่าจะมีความจำเป็น และกระทรวงการคลัง ให้ความเห็นชอบกรอบการเจรจาเงินกู้นี้เข้าสู่การพิจาณาของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ ตั้งเป้า ว่า เมื่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบจะนำไปสู่การเจรจา และมีเงินอีกก้อนพร้อมใช้จ่ายในไตรมาสที่ 3 เป็นต้นไป