เทพไทอัดฝ่ายค้านลากแม่-ภริยานายกฯพันการเมือง

วันนี้ (26 ก.พ.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านจะเปิดประเด็นอภิปรายไม่ไว้วางใจ พาดพิงถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี 2 กรณี

คือ กรณีที่ซุกทรัพย์สินไว้กับคนใกล้ชิดจำนวนไม่ถึง 1 ล้านบาทว่าครั้งแรกจะไม่ชี้แจงโดยจะไปชี้แจงในการอภิปรายในสภาผู้แทนราษฏร แต่เกรงว่า จะเป็นเรื่องรกสภาจึงออกมาชี้แจง ก่อนที่จะนำไปขยายเป็นประเด็นบิดเบือน คือ กรณีรถฮอนด้า รุ่นโอดีสซี่ หมายเลขทะเบียน 9 ฬ 2732 ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ซื้อมาจากบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ศรีมิตร จำกัด(มหาชน) เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2539 และได้รับโอนเป็นของนายอภิสิทธิ์ เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2542 โดยใช้มา 10 กว่าปี นายเทพไท กล่าวต่อว่า ต่อมาได้ขายให้กับ พ.ต.ท.นีรนาท ฉินประสิทธิ์ชัย ตำรวจติดตามนายอภิสิทธิ์ เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2551 ดังนั้นนายอภิสิทธิ์ ไม่จำเป็นต้องยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. จึงไม่จำเป็นต้องปกปิดหรือซุกซ่อนทรัพย์ตามที่ฝ่ายค้านกล่าวอ้าง ซึ่งปัจจุบัน พ.ต.ท.นีรนาท ได้เปลี่ยนเป็น ฐฬ 2733

นายเทพไท กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ระบุว่ามารดา ของนายกรัฐมนตรีใช้อำนาจบีบบังคับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร จัดสรรเวลาในการออกอากาศวิทยุกรุงเทพมหานคร โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

ก็เป็นเรื่องบิดเบือน เพราะกรณีนี้มารดานายกรัฐมนตรี เป็นเพียงวิทยากรรับเชิญไปร่วมรายการที่ นายสุขพัฒน์ ทองเพ็ง ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในขณะนั้น ได้จัดรายการเผยแพร่ความรู้ทางศาสนนาในคลื่นความถี่เอ เอ็ม 873.ในรายการเมืองหลวงปลอดภัยซึ่งนายสุขพัฒน์เป็นผู้ดำเนินรายการ และได้เชิญมารดานายกรัฐมนตรีมาเป็นวิทยากรพิเศษ เป็นบางครั้ง ซึ่งรายการนี้ได้ออกข่าวประชาสัมพันธ์ให้วัดและพระในการบรรยายธรรมะด้วย ดังนั้นจึงเป็นการโยงประเด็นให้คนใกล้ชิดนายกฯได้รับความเสียหาย “นายกรัฐมนตรีไม่เคยใช้หน้าที่ตำแหน่งเพื่อประโยชน์ให้กับคนในครอบครัวหรือคนใกล้ชิดแต่อย่างใด ซึ่งผิดกับยุคของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีการใช้อำนาจหน้าที่ในตำแหน่งสนับสนุนให้วงศ์วารว่านเครือ ได้ดิบได้ดีจึงเจริญก้าวหน้าในหน้าทีการงานแบก้าวกระโดด โดยเฉพาะคนในตระกูลชินตระกูลชินวัตรและดามาพงษ์ รวมไปถึงหมอประจำตัวแม่ยายของตัวเอง จนได้ปูนบำเหน็จเป็นรัฐมนตรี” นายเทพไท กล่าว

นายเทพไท กล่าวต่อว่า สุดท้ายคือประเด็นเก่าที่นำมาขยายผลใหม่ว่าเงินบริจาคจำนวน 258 ล้านบาท ที่ระบุว่าแกนนำพรรคประชาธิปัตย์มีความกังวลใจมาก โดยมีการเข้าพบนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค และมีการอ้างว่ามีแกนนำจะขอแลกกับการไม่เอาเรื่องนี้เข้าเป็นประเด็นในการอภิปรายฯกับการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาตินั้น

ตนขอยืนยันว่าเป็นเร่องการกล่าวเท็จทั้งสิ้น เพราะกรณีนี้ถือว่าเป็นแค่น้ำจิ้ม จึงไม่จำเป็นตองพูดถึงการแลกกับการร่วมตั้งรัฐบาลแห่งชาติ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ขอตั้งข้อสังเกตถึงการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงที่หน้าทำเนียบรัฐบาลว่า มีคนมาร่วมชุมนุมไม่ค่อยหนาแน่นตามที่มีการอ้างจำนวนคนเพราะเห้นมีคนแค่จำนวนหลักพัน อาจเพราะมีเหตุจาก

1. คนในกรุงเทพฯไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมเคลื่อนไหวในช่วงที่มีการประชุมอาเซียนซัมมิท

2. การบริหารจัดการภายในกลุ่มผุ้ชุมนุมล้มเหลวเพราะเกิดปัญหาท่อน้ำรั่ว ท่อน้ำตันน้ำเลี้ยงจึงไปไม่ถึงผู้ชุมนุมจึงมีคนมาน้อยกว่าที่คุยไว้ และ

3. ลักษณะของม็อบเสื้อแดงและเสื้อเหลืองมีความต่างกันชัดเจนเพราะม็อบคนเสื้อเหลืองส่วนใหญ่มาด้วยใจแต่ม็อบคนเสื้อแดงส่วนใหญ่มาด้วยจ้าง เมื่อน้ำค้างท่อ น้ำซึมน้ำรั่วตามท่อไปไม่ถึงระดับล่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยตามที่กำหนดมา คนจึงมาน้อยกว่าที่คิด.