วันนี้ (26 ก.พ.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประเมินการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง
อยู่ที่แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมว่าจะตัดสินใจอย่างไร ที่ผ่านมาการชุมนุมและการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ ไม่ได้มีความรุนแรงอะไร ถือเป็นเรื่องที่ดี ก็ต้องขอบคุณทุกฝ่าย รัฐบาลก็ทำงานได้ตามปกติ ถือเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ส่วนที่มีข่าวว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะปีนเข้ามาในทำเนียบวันที่ 27 – 28 ก.พ.นี้นั้น ยังไม่ได้รับรายงาน แต่ก็พยายามให้เจ้าหน้าที่ดูแลให้เหตุการณ์ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเมื่อแกนนำผู้ชุมนุมยืนยันว่า ไม่มีแนวคิดที่จะทำเช่นนั้น เราก็มั่นใจ อาจจะเป็นเพียงความคิดของคนบางกลุ่มที่เป็นส่วนน้อยเท่านั้น คิดว่าเจ้าหน้าที่และแกนนำคงช่วยกันดูแลไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
ส่วนการชุมนุมของคนเสื้อแดง จะเป็นการแย่งพื้นที่ข่าวในช่วงมีการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การแสดงออกเป็นการเรียกร้องความสนใจ ก็เข้าใจได้
แต่ทั้งหมดต้องไม่กระทบต่อภาพลักษณ์หรือความเชื่อมั่นของประเทศ กรณีที่แกนนำพยายามสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อสะท้อนให้ต่างประเทศเห็นว่ารัฐบาลไม่สนใจกลุ่มผู้ชุมนุม ถือเป็นยุทธศาสตร์ของกลุ่มเสื้อแดง เมื่อชาวต่างประเทศมา กลุ่มเสื้อแดงก็ต้องพูดภาษาต่างประเทศ ไม่มีอะไร
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการเดินทางไปเยือนประเทศเวียดนามของ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
ซึ่งเวียดนามอาจมีการสอบถามในประเด็นในเรื่องของการชุมนุมด้วย ก็เป็นธรรมดา เมื่อมีการชุมนุม แต่คิดว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ถือเป็นความเปลี่ยนแปลงที่ดี ส่วนจะวางใจได้หรือไม่กับสถานการณ์นั้น ตนเป็นคนไม่ประมาท ทุกอย่างเป็นไปตามที่วางเป้าหมายไว้ เป็นไปตามการคาดการณ์ และเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ด้าน นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่มีความจำเป็นต้องจัดหาทำเนียบรัฐบาลสำรองเพื่อให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีทำงาน
เนื่องจากการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงขณะนี้เป็นไปอย่างสงบและอยู่ในกรอบของกฎหมาย ส่วนจะยืดเยื้อหรือไม่นั้นฝ่ายความมั่นคงจะเป็นผู้ประเมินสถานการณ์ ขณะนี้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ยังคงเข้าทำงานได้ตามปกติ นายปณิธาน กล่าวถึงนายกรัฐมนตรีประชุมร่วมรัฐมนตรีเศรษฐกิจเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (26 ก.พ.)อีกว่า ไม่มีนัยทางการเมือง นายกรัฐมนตรีต้องการรับทราบรายงานเศรษฐกิจ และเห็นว่าเป็นสถานที่ที่สงบเท่านั้น ส่วนการพบกันระหว่างนายกรัฐมนตรีของไทยกับรัฐมนตรีกลาโหมประเทศอาเซียน วานนี้ (25 ก.พ.) ประเทศไทยได้รับความไว้วางใจอย่างดี จึงไม่มีความกังวลอะไร เพราะประเทศสมาชิกต่างเข้าใจเรื่องของความเห็นที่แตกต่างทางการเมือง
โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นไปอย่างเงียบเหงา ไม่คึกคักเหมือนกับ 2 วันแรก ขณะที่การรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหาร ยังคงตรึงกำลังบริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาลอย่างเข้มงวด ส่วนบนเวทียังคงมีการปราศรัยของกลุ่มแกนนำตามปกติ อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวว่า ในช่วงบ่ายทางกลุ่มผู้ชุมนุมจะมีการเคลื่อนขบวนไปชมนุมด้านหน้าสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมการดูแลความปลอดภัยในการชุมนุม และอำนวยให้กับประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนในบริเวณดังกล่าวแล้ว.