สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล ว่า เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. สถานการณ์เริ่มตึงเครียด
เนื่องจากแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้พยายามต่อรองที่จะเข้ามาด้านหน้าประตู 1 เพื่อขอตั้งเวทีบริเวณหน้า ขณะที่ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ขอให้กลุ่มเสื้อแดง อยู่ในระเบียบวินัย และดำเนินการภายในกรอบของกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ผู้ชุมนุมสามารถฝ่าแนวกั้น ของเจ้าหน้าที่บริเวณใกล้กับประตู 1 ตรงสะพานชมัยมรุเชฐ เข้าไปบริเวณถนนด้านหน้าทำเนียบฯ ได้สำเร็จแล้ว
นปช.ฝ่าแนวกั้นเจ้าหน้าที่ ขอตั้งเวทีหน้าประตู 1 ทำเนียบ
ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ( ผบ.ตร. ) ได้เดินตรวจความเรียบร้อยการรักษาความปลอดภัยภายในทำเนียบฯ พร้อมกล่าวว่า
เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะสามารถควบคุมสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงได้ และยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะไม่ใช้ความรุนแรงในการปฏิบัติงาน ทั้งนี้หากกลุ่มผู้ชุมนุม บุกเข้ามาภายในทำเนียบรัฐบาลได้ ก็จะถือว่าเป็นเรื่องของการกระทำผิด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนการใช้แก๊สน้ำตานั้น คงต้องเป็นไปตามขั้นตอน อย่างไรก็ตาม ขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมรักษากติกาให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย และดำเนินการให้กระทบกับสิทธิ์ของบุคคลอื่นให้น้อยที่สุด
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่มีใบสั่งให้ดึงเรื่องการจับกุม 21 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และไม่ทราบว่า 21 คน มีรายชื่อรัฐมนตรี ในรัฐบาลนี้รวมอยู่ด้วยหรือไม่
ด้าน นายจุมพล สำเภาพล ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กล่าวว่า เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด หรือ CCTV กว่า 40 ตัว ตลอดแนวท้องสนามหลวงต่อเนื่องทำเนียบรัฐบาลที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จะเคลื่อนผ่านในวันนี้ โดยทุกกล้องมีสภาพสมบูรณ์ใช้การได้ ส่วนใหญ่เป็นกล้องที่สามารถบันทึกภาพได้และโดยปกติ กทม.จะเก็บภาพที่บันทึกไว้ประมาณ 7 วัน ทั้งนี้หากเจ้าหน้าที่ตำรวจประสานขอภาพเพื่อนำใช้ในการดำเนินคดีก็พร้อมที่จะส่งให้ อย่างไรก็ตาม นายจุมพล กล่าวว่า ในเช้าวันนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่จาก สจส.และขอกำลังสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่เทศกิจและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พื้นที่ ประจำตามจุดเพื่อขอความร่วมมือให้กลุ่มผู้ชุมนุมอย่านำถุงดำมาคลุม หรือ ทำลายกล้อง CCTV เด็ดขาด