อานันท์ผิดหวังทักษิณ รักษาการไร้วาระแห่งชาติ

"อานันท์" จวกรัฐบาลรักษาการไม่ควรย้ายข้าราชการ รับผิดหวังไม่มีวาระแห่งชาติ "ทักษิณ" เรียก รมต.ทุกกระทรวงประชุมด่วนปรับบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายปลัดกระทรวง ขณะที่ กกต.รับลูกทันที ยันรัฐบาลรักษาการมีอำนาจทำได้ พันธมิตรลั่นชุมนุมใหญ่หลัง"ในหลวง"ทรงหายประชวร รณรงค์ให้เลิกจ่ายภาษีให้รัฐ จ่ายเข้ากองทุนก่อนโอนให้รัฐบาลใหม่

แม้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมในการแต่งตั้งโยกย้ายในช่วงของการเป็นเพียงรัฐบาลรักษาการ แต่ดูเหมือนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี จะไม่สนใจเสียงดังกล่าว โดยยังคงเดินหน้าเรียกรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ เข้าหารือด่วนที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเร่งรัดการจัดทำบัญชีการแต่งตั้งข้าราชการระดับสูง ทั้งๆ ที่เพิ่งผ่านการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งได้มีมติแต่งตั้งโยกย้ายชุดแรกไปเพียง 1 วัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 08.30 น. วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ต.ท.ทักษิณ รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้เรียกรองนายกรัฐมนตรีและบรรดารัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ เข้าหารือที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเร่งรัดการจัดทำบัญชีการแต่งตั้งข้าราชการระดับสูง โดยเฉพาะกระทรวงที่จะแต่งตั้งโยกย้ายในระดับปลัดกระทรวง รวมถึงได้ใช้โอกาสนี้หารือถึงการพัฒนาการท่องเที่ยว หลังจากที่ผ่านมารัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องมีปัญหาระหว่างกันด้วย

ผู้ที่เข้าร่วมหารือ อาทิ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รักษาการรองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รักษาการรองนายกฯ นายประชา มาลีนนท์ รักษาการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา รักษาการ รมว.มหาดไทย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รักษาการ รมว.แรงงาน นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการ รมว.ศึกษาธิการ นายวิเศษ จูภิบาล รักษาการ รมว.พลังงาน เป็นต้น

โยก"สมชาย"ให้โอกาสคนรง.

นายสมศักดิ์ เปิดเผยถึงกรณีการเรียกหารือครั้งนี้ว่า เป็นเพราะหลายกระทรวงต้องมีการแต่งตั้งโยกย้าย อาจเป็นไปได้ว่า จะมีการเกลี่ยตำแหน่งกันระหว่างกระทรวง การประชุมครม.เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ได้หารือเพียงแต่การแต่งตั้งข้าราชการระดับ 11 ว่า ในเดือนสิงหาคมจะต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. แต่จะเป็นใครก็ต้องปรึกษาหารือ เช่น กระทรวงแรงงาน ที่ ครม.มีมติโยก นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ให้กลับไปเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) ในวันที่ 1 ตุลาคม 2549 เพราะ รมว.ยุติธรรม ได้ขอตัวกลับ ซึ่งถือเป็นเรื่องดีที่จะเปิดโอกาสให้คนกระทรวงแรงงานได้เติบโต

ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าต่อไปตำแหน่งปลัดกระทรวงอาจแต่งตั้งข้ามกระทรวงได้ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ก็เป็นไปได้ อย่างกรณีนายสมชาย ทางกระทรวง ยธ.ยังหาคนไม่ได้ นายสมชายก็อาจย้ายไปช่วงเวลาหนึ่ง อย่างที่เคยย้ายมาอยู่กระทรวงแรงงาน ส่วนที่มองว่า ครม.เร่งมีมติย้ายนายสมชาย เพราะเกรงว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะอยู่อีกไม่นานนั้น คงไม่ใช่ เป็นการเปิดโอกาสให้กระทรวงแรงงานได้สรรหาคนของตัวเองมากกว่า

"ทักษิณ"หวังย้ายเบด็จเสร็จต้นส.ค.

ต่อมาเมื่อเวลา 09.45 น. นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รักษาการรองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมหารือว่า รักษาการนายกฯ เน้นให้แต่ละกระทรวงพิจารณาคุณสมบัติ ความสามารถ และย้ำให้พิจารณาตามเนื้อผ้า ซึ่งการหารือไม่ได้มีข้อสรุปใดๆ เป็นเพียงรอบแรกเท่านั้น และให้แต่ละกระทรวงไปหารือคุณสมบัติคนที่จะมาทำงานให้เรียบร้อยก่อน

เมื่อถามว่า หากแต่ละกระทรวงพิจารณาเสร็จจะต้องนำมาหารือกับรักษาการนายกฯ อีกหรือไม่ นายสุรเกียรติ์ กล่าวว่า คงจะหารือกันอีกครั้ง ทุกอย่างโปร่งใส การหารือได้อภิปรายกันในกลุ่มย่อย และรัฐมนตรีที่รู้จักก็ร่วมกันแสดงความคิดเห็น พ.ต.ท.ทักษิณ รับฟัง ส่วนที่อดีตไม่เคยมีการประชุมลักษณะนี้ ตนไม่ทราบเพราะยังไม่เคยเป็นรัฐมนตรีที่มีปลัดฯ เกษียณ ในกระทรวงการต่างประเทศก็มีระบบของเขาต่างหาก แต่จะเร่งรีบเกินไปเพราะยังอีกหลายเดือนกว่าจะเกษียณหรือไม่นั้น ทุกปีการพิจารณาก็จะเป็นในช่วงนี้ที่รัฐมนตรีจะต้องพูดคุยกัน จากนั้นปลัดจะพิจารณาตำแหน่งอธิบดี ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร

ด้าน นายสุวัจน์ รักษาการรองนายกฯ กล่าวว่า ได้หารือเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายปลัดกระทรวง เป็นการพิจารณาในภาพรวม และหากจะโยกย้ายข้ามกระทรวง ก็ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมเช่นเดียวกัน ซึ่งรักษาการนายกฯ พูดในที่ประชุม ครม.ว่า อยากให้การแต่งตั้งโยกย้ายเสร็จสิ้นในช่วงต้นเดือนสิงหาคม

กกต.รับลูกรบ.มีอำนาจโยกย้าย

นายปริญญา นาคฉัตรีย์ ในฐานะ กกต. กล่าวถึงมติ ครม.ที่มีการโยกย้ายนายสมชาย จากปลัดกระทรวงแรงงานไปดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรมว่า เมื่อขอมาที่ กกต.เราก็ต้องพิจารณา ซึ่งรัฐบาลสามารถทำได้ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม ตามหลักการการย้ายข้ามกระทรวงก็ต้องแจ้งมาที่ กกต.เหมือนการโยกย้ายทั่วไป ส่วนการตั้งเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานแทน นางพรนิภา ลิมปพยอม นั้นยังไม่ทราบเรื่อง

ยันตั้งกกต.จว.เน้นเป็นกลาง

นายประวิง คชาชีวะ รองเลขาธิการ กกต. ด้านบริหารงานเลือกตั้ง แถลงถึงกรณีการแต่งตั้ง 14 กกต.จังหวัด ซึ่งถูกวิจารณ์ว่า มีการแต่งตั้งผู้อยู่นอกโผที่คณะอนุ กก.สรรหาในพื้นที่เสนอให้ กกต.กลางคัดเลือก ว่า ในการแต่งตั้ง กกต.14 จังหวัด 70 คนนั้น มีผู้อยู่นอกโผเพียง 6 คนเท่านั้น ขอยืนยันว่าไม่ได้ใช้ดุลพินิจในการคัดเลือก แต่ได้ตรวจสอบโดยเฉพาะคุณสมบัติการเป็นกลางทางการเมือง และคนในพื้นที่ยอมรับ ขณะที่ผู้ที่หลุดไป กกต.กลางได้ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกแล้วพบว่ามีข้อบกพร่องบางข้อ

นายพีรพงษ์ ไพรินทร์ ผอ.สำนักประชาสัมพันธ์ กกต. กล่าวว่า ตามระเบียบการสรรหา กกต.จังหวัดนั้น มีทั้งการสรรหา ยื่นใบสมัคร และการทาบทามโดย กกต.กลาง

"ครูหยุย"ฟันธงย้ายเพื่อเลือกตั้ง

นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ รักษาการ ส.ว.กทม. กล่าวถึงการโยกย้ายข้าราชการว่า ความจริงรัฐบาลรักษาการทำไม่ได้ นอกจากจำเป็นจริงๆ เช่น กรณีที่เกษียณอายุราชการ โดยคนที่มีอำนาจชี้ขาด คือ กกต.มีมติออกมา แต่ไม่ใช่รัฐบาลรักษาการ ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ไม่มีหลักในการโยกย้ายมานานแล้ว ไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหม ซึ่งการย้ายครั้งนี้เขาก็รู้ดีว่า กกต.จะไม่คัดค้านแน่นอน เนื่องจาก กกต.อยู่ในกำมือของตัวเอง บอกให้ทำอะไรก็ทำ ถ้าบอกให้ลาออกก็ลาออก

"กรณีการย้ายนายสมชายกลับมาเป็นปลัด ยธ.นั้น ผมเห็นว่าไม่เหมาะและน่าเกลียดมาก เป็นการโยกย้ายที่ผิดฝาผิดตัวกันมานาน เป็นการย้ายที่มีเทคนิค เชื่อว่าจะทำลายขวัญข้าราชการคนอื่นด้วย"

นายวัลลภ กล่าวอีกว่า ขอให้จับตาดูว่าการโยกย้ายครั้งนี้จะมีผลต่อการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น เนื่องจากเป็นการวางตัวระดับหัวที่จะมีผลต่อการเลือกตั้ง ความจริงการโยกย้ายลักษณะนี้มีมานานแล้ว แต่คราวนี้เป็นการตอกตะปูทำลายระบอบประชาธิปไตยมากขึ้น ที่ผ่านมาคนรู้ไม่ทัน เพราะอยู่ไกล แต่ตอนนี้ประชาชนหูตาสว่างแล้ว