“สุเทพ” ยัน พธม.ไม่ใช่เหยื่อการเมือง

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงการชุมนุมของ นปช.และกลุ่มคนเสื้อแดง

ที่จะมาปิดล้อมทำเนียบฯ ระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนว่า จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่พบหรือมีรายงานการข่าวว่าจะมีเหตุรุนแรงอะไร แต่ก็ต้องขอเรียกร้องให้ ทุกฝ่ายให้คำนึงถึงผลประโยชน์โดยรวมของประเทศชาติ เพราะได้ย้ำมาหลายครั้งแล้วว่า การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในครั้งนี้ จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นของประเทศกลับคืนมา อยากให้ทุกฝ่ายช่วยกัน จะมาสู้กันทางการเมือง จะอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาฯอะไร เราพร้อมทุกอย่าง แต่ขอให้รอเอาไว้หลังการประชุมอาเซียนซัมมิทเสร็จเรียบร้อยเสียก่อน คนที่จะมาชุมนุมก็ต้องคิดให้ดี ไม่ใช่ว่าคิดแต่จะทำทุกอย่างให้เป็นเกมการเมืองไปหมด พยายามทำทุกอย่างให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองเพื่อหวังจะดิสเครดิตรัฐบาล

ล่าสุดอยู่ดีๆก็ไปปล่อยข่าวว่า เจ้าหน้าที่ไปซื้อเสื้อแดงเพื่อจะสวมใส่ แล้วเข้าไปแทรกแซงสร้างความรุนแรงอยู่ในม็อบ

ตรงนี้ทำให้มีข้อสังเกตได้ว่า ทางกลุ่มเสื้อแดงเองมีแผนที่จะก่อความรุนแรงอะไรขึ้นมาหรือไม่ ดังนั้น จึงได้สั่งให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายความมั่นคงจับตาดูอย่างใกล้ชิดแล้ว เพราะไม่สามารถไปคาดการณ์ได้ว่าเขาจะทำอะไรรุนแรงหรือไม่ เพราะพวกนี้ทำได้ทุกอย่าง


ส่วนกรณีที่นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ ระบุว่า รัฐบาลใช้กลุ่มพันธมิตรฯเป็นหนัง หน้าไฟ เป็นเหยื่อการเมือง

จากการให้ตำรวจออกหมายจับเพิ่มเติม 21 แกนนำพันธมิตรฯ เพื่อลดแรงกดดันการชุมนุมของคนเสื้อแดงนั้น นายสุเทพกล่าวว่า ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง รัฐบาลนี้ไม่เคยคิดเอากลุ่มพันธมิตรฯมาเป็นเครื่องมือการเมือง การที่ไปแถลงข่าวร่วมกับทางตำรวจ เพราะที่ผ่านมาถูกถามมาตลอดทั้งในและนอกสภาฯ รวมทั้งสื่อมวลชนที่ทวงถามความคืบหน้าในการดำเนินคดี ดังนั้น จึงไม่ใช่มาเร่งกำชับให้ตำรวจดำเนินคดี ในช่วงที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะชุมนุมใหญ่ปิดล้อมทำเนียบฯ ทั้งนี้ ทางรัฐบาลจะไม่มีการเข้าไปแทรกแซง ไม่ไปสั่งดึงหรือเร่งคดี แต่บางคดีที่มันล่าช้าก็เพราะทางตำรวจจะต้องสอบพยานหลายร้อยปาก

“ผมยืนยันและขอให้สบายใจได้ว่า เราไม่มีเจตนาร้ายต่อกลุ่มพันธมิตรฯแต่ประการใด และได้กำชับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้วว่า การดำเนินคดีจะต้องให้ความเป็นธรรมกับเขา แม้แต่การตั้งข้อกล่าวหา จะไปตั้งข้อหาจนโอเวอร์ไม่ได้ ไม่ใช่ว่าแค่การไปบุกยึดทำเนียบรัฐบาล แต่จะไปตั้งข้อหาต่อเขาร้ายแรงถึงขั้นว่าเป็นกบฏ แบบนี้ไม่ได้ เราเคารพสิทธิของทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน รัฐบาลจะไม่เข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ไม่กล่าวหา ไม่กลั่นแกล้งใคร และการดำเนินการตามกฎหมายทุกอย่าง ต้องไม่ให้เป็นการลูบหน้าปะจมูก ผมฝากเรียนไปถึงพันธมิตรฯทุกท่านด้วยความเคารพว่า พวกผมไม่ใช่ศัตรูของพันธมิตรฯ ไม่มีเหตุผลที่จะเอาพันธมิตรฯไปเป็นเรื่องทางการเมือง และผมไม่มีนิสัยที่จะเอาความทุกข์ยากของพันธมิตรฯมาเป็นเหยื่อทางการเมือง” นายสุเทพกล่าว


เมื่อถามว่า  นายสุริยะใสตั้งข้อสังเกตว่าการออกหมายจับ 21 แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ตามขั้นตอนจะต้องมีการออกหมายเรียกก่อน

นายสุเทพตอบว่า เรื่องการออกหมายเรียกหมายจับเป็นเรื่องของทางตำรวจและศาลจะพิจารณา ไม่ได้ไปแทรกแซง ไม่ได้ไปสั่งออกหมายเรียก เมื่อจะมีการออกหมายจับอะไร ทางตำรวจต้องทำตามขั้นตอน ได้กำชับทางตำรวจไปแล้วว่า ในรัฐบาลนี้ตำรวจต้องทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ต้องเป็นตำรวจมืออาชีพ ขณะนี้ก็ยังไม่มีการออกหมายจับแต่อย่างใด
 


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์