เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (20 ก.พ.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงรายงานผลการตรวจสอบกรณีการสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2551 โดยยืนยันว่า
เป็นผลสรุปที่อยู่ในความรับผิดชอบในรัฐบาลของ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งไม่มีการชี้ชัดว่าใครเป็นผู้กระทำความผิด โดยผลสรุปเป็นเอกสารจำนวน 2,289 แผ่น ทั้งนี้ ประชาชนและผู้ที่สนใจสามารถติดต่อขอรับข้อมูลจากสำนักข้อมูลข่าวสาร ทำเนียบรัฐบาลได้ แต่จะมีเอกสารบางส่วนที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ทั้งการให้ข้อมูลชื่อของพยานที่เกี่ยวข้อง และแผนปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะอาจส่งผลกระทบต่อพยานและการทำงานของเจ้าหน้าที่
ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาเอง ไม่สรุปสาเหตุ น้องโบว์
นายสาทิตย์ กล่าวว่า ผลสรุปได้ระบุถึงปัญหาในการตรวจสอบ อาทิ ไม่ได้รับความร่วมมือจากพยานในการให้ปากคำ เชิญมาให้ปากคำ 199 คน
รวมถึงผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่มาเพียง 72 คน รวมทั้งเร่งรัดที่จะให้เปิดเผยข้อมูล ขณะเดียวกันการเปิดเผยข้อมูลยังระบุด้วยว่าการใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุม เป็นการตัดสินใจของเจ้าหน้าที่ในขณะปฏิบัติหน้าที่ในตอนนั้น สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์นั้น มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 343 คน เสียชีวิต 2 คน คือ พ.ต.ท.เมธีร์ ชาติมนตรี อดีต สวป.สภ.เมืองบุรีรัมย์ หัวหน้าการ์ดพันธมิตรฯ ภาคอีสาน และ น.ส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ หรือน้องโบว์ ซึ่งยังมีข้อมูลที่ขัดแย้งกันระหว่างที่มาของการระเบิดและสารที่พบในตัวผู้เสียชีวิต
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า รัฐบาลยังไม่มีแนวคิดขยายผลการตรวจสอบ
ขอให้เป็นหน้าที่การตรวจสอบของกระบวนการยุติธรรมที่จะไต่สวนหาข้อสรุป ทั้งนี้ จะไม่รวมถึงการตรวจสอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่ง ชาติ (ป.ป.ช.) ยืนยันว่าเป็นคนละส่วนกัน อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการชุดดังกล่าวยังได้ทำข้อเสนอแนะ ทั้งการให้ออกกฎหมายการควบคุมการชุมุนม โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ต้องมีการฝึกอบรมการปฏิบัติงาน การบรรจุเป็นหลักสูตรการศึกษา
ก่อนหน้านี้ นพ.บุรณัชย์ สมุทรรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ( นปช.)
ระบุรัฐบาลไม่กล้าเปิดเผยผลสอบสวนเหตุการณ์สลายการชุมนุมหน้า รัฐสภา 7 ต.ค. กรณีการเสียชีวิตของ น.ส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ หรือน้องโบว์ เนื่องจากเป็นไปได้ว่าการเสียชีวิตเกิดจากระเบิดของผู้ตาย โดยยืนยันว่าจากการตรวจสอบของสถาบันเวชศาสตร์ รามาธิบดี สถาบันนิตติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันการเสียชีวิตของน.ส.อังคณา เกิดจากแก๊สน้ำตาที่ผลิตจากประเทศจีนที่ใช้ในการสลายการชุมนุม พร้อมเรียกร้องให้นายณัฐวุฒิมีจิตสำนึกที่ต้องเคารพต่อผู้ตาย และครอบครัวผู้เสียหาย