กิน ทีพีไอ ร้อนท้อง!


เกือบจะครบเวลา 2เดือนของการบริหารราชการแผ่นดินของ "รัฐบาลเทพประทาน" ที่ตอนนี้อยู่ในช่วงการผลักดันเงินงบประมาณผันไปสู่มือ ประชาชนผ่านโครงการมหาประชานิยมต่างๆ เพื่อตีฝ่าวงล้อมข้าศึกพิษเศรษฐกิจไปให้ได้

แต่ทว่าท่ามกลางการขับเคลื่อนอย่างขมีขมัน กลับปรากฎรอยร่องของ"ความไม่ชอบมาพากล"ที่ถูกนำเสนอโดยปรปักษ์รัฐบาลอย่างพรรคฝ่าย ค้าน คนเสื้อแดง ซึ่งไหลข้อมูลอย่างต่อเนื่อง มีทั้งข้อมูลจากคนในเครือข่ายนายใหญ่ คนในพรรคร่วมรัฐบาล และคนประชาธิปัตย์เอง!

2 เดือนที่ผ่านมา ข้อกล่าวหาที่แทงเสียดไปยังรัฐบาลหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวทุจริต(ปลากระป๋องเน่า-นมบูด-เข็มชี้ไปฝ่ายค้าน) เรื่องเงินลับ-เงินลวงดิสเครดิตกองทัพ เรื่องโบนัสพันธมิตร(แต่งตั้ง "ประพันธ์ คูณมี-พิเชฐ พัฒนโชติ" มีข่าวแว่วว่า"เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง" อาจกลับมาผงาดในช่อง11 อีกครั้ง) เรื่องรัฐบาลยอมให้พวกเนวินขี่คอ(ล่าสุดเด็กเนชงวงเงินคมนาคม 1.41 ล้านล้านบาท -ป๋าชวรัตน์ขู่เรื่อง เงินกำนันผู้ใหญ่บ้าน)

รวมไปถึงเรื่องพรบ.ปรองดอง(บอกราคาเผื่อต่อ-เหลือแค่ปฎิรูปการเมืองแทน) เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญฉบับหมอเหวง(ดองต่อไป) เรื่องเงิน 250ล้าน ฯลฯ ซึ่งเรื่องเหล่านี้กำลังจะพัฒนาจากข้อมูลบนหน้าสื่อมวลชนไปสู่การชำแหละในศึกอภิปรายรัฐบาลในเดือนมี.ค.2552นี้

โดยเรื่องที่ฝ่ายค้านมองว่า "หมัดพิฆาต"หวังน็อครัฐบาลคือ "เรื่องเงิน 250ล้าน" ซึ่งถูกเปิดอย่างเป็นทางการ (เรื่องนี้ สุนัยเคยปูดในสภาเมื่อ 31 ส.ค. 2551)ในวันที่ 10 ก.พ.2552 ที่"เหลิม ฝั่งธน"ออกมาแฉว่ามีหมัดเด็ดจะน็อครัฐบาลประชาธิปัตย์ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แล้วข้อมูลก็ หลั่งไหลออกมาอย่างต่อเนื่องในทำนองว่ามีเงิน 250ล้านไหล จากบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ของ "ประชัย เลี่ยวไพรัตน์" ไปยังคน ใกล้ชิดสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ งานนี้ออกมาปัดชิ่งกันพัลวันคล้ายสุภาษิตไทย -กิน "ทีพีไอ"ร้อนท้อง!

(ลือกันว่าข่าวปล่อยมาจากคนในหรือไม่? เพราะงานนี้เทพเทือกไม่สะเทือนเรื่องอยู่ในสมัยบัญญัติเป็นหัวหน้าพรรค) แต่ทางหนึ่งก็มีข่าวมี ข้อมูลหลุดมาจากอดีตนายกรัฐมนตรีคนหนึ่ง (สาทิตย์ วงศ์หนองเตย ยืนยันว่า มีคนมาเล่าให้ฟังว่าพบเห็นข้าราชการระดับสูงในดีเอสไอไป พบกับ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก่อนที่พรรคเพื่อไทย จะนำข้อมูลเรื่องเงิน 250 ล้านบาท มาเปิด-16 ก.พ.2552)ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้เดินอยู่ในชั้นการ สืบสวนสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ(งานนี้ทำให้เก้าอี้อธิบดีกรมดีเอสไอ ของพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ยังอยู่)



งานนี้มีชื่อตัวละครมาหน้าหลายตา ไม่ว่าจะเป็น บัญญัติ บรรทัดฐาน (หัวหน้าพรรคในขณะนั้น) ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ (เลขาธิการพรรคใน ขณะนั้น) นิพนธ์ บุญญามณี ส.ส.สัดส่วน(สายเสธ.หนั่น ที่มีข่าวว่าไม่ค่อยแฮปปี้เทพเทือกเท่าไรนัก) ประพร เอกอุรุ ส.ส.สงขลา ประชัย เลี่ย วไพรัตน์ ฯลฯ แต่เมื่อโยงลึกลงไปจะพบความสัมพันธุ์ที่เชื่อมโยงกันสลับซับซ้อน ทำให้การออกมาเปิดประเด็นเงิน 250ล้านไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

เพราะอยู่ในเวลาที่เหมาะสม โดยกลุ่มเสื้อแดงกำหนดการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 24 ก.พ. 2552 และจะมีการประชุมอาเซียนซัมมิต ในวันที่ 27ก.พ.-1มี.ค. 2552 และเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 11 มี.ค. 2552 (การประชุมสภาสมัยสามัญจะสิ้นสุดลงในวันที่ 27 พ.ค. 2552 หากพ้น สมัยนี้ไปแล้วในปีนี้ฝ่ายค้านก็จะอภิปรายรัฐบาลไม่ได้ )

กลุ่มเสื้อแดงพยายามลากให้เรื่อง เงิน 250ล้าน นั้นเชื่อมโยงให้เห็นสายสัมพันธุ์ของระบบเครือข่ายศัตรูของเสื้อแดง อธิบายผ่านโครงสร้าง ของขั้วอำนาจ ที่ต้องประกอบด้วย "ทุน-พรรค-มวลชน-กองกำลัง " ซึ่งถอดรหัสได้ พรรคคือประชาธิปัตย์ มวลชนคือกลุ่มพันธมิตร กองกำลัง คือ กองทัพ และทุนคือทีพีไอ ซึ่งทั้ง4 องค์ประกอบนั้นเกี่ยวสัมพันธุ์ โยงใย สอดประสานกันมายาวนาน โดยมีเป้าหมายเดียวกันคือโค่นนาย ใหญ่ และเมื่อโค่นแล้ว ยังไม่สิ้นซาก ก็จะสงวนพันธุ์ไม่ให้ลุกลาม


ก่อนหน้าที่จะปูดเรื่อง เงิน 250ล้าน ก็มีการเปิดข้อมูลแหลมๆ(ข้อกล่าวหา)เพื่อเชื่อมโยงกัน อย่าง รัฐไฟเขียวงบสั่งซื้ออาวุธของกองทัพ - งบ2000ล้านขจัดเสื้อแดง-ยุทธ ตู้เย็นฟื้นเรื่องทหารค้นบ้านมาเล่าใหม่-งบลับของกองทัพภาค 3-จิ้งเขียวไปไถเงินนายใหญ่5,000 ล้านบาท ซึ่ง เป็นการฟาดไม้หน้าสามไปที่กองทัพอย่างจังๆ (ยิ่งเฉพาะพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. อดีตคมช.ตัวจริง) -ด้วยเหตุที่ว่าคนเสื้อแดงเชื่อว่า กองทัพที่เป็นขุนทหารคมช.(สนธิ-ชลิต-สถิรพันธุ์-สพรั่ง-อนุพงษ์)และกองทัพในปัจจุบันร่วมมือกับตท.6-10-12 (ประวิตร-อนุพงษ์-ประ ยุทธ)ทำให้เกิดรัฐบาลอภิสิทธิ์ขึ้น อันหมายถึงการปิดฉากรัฐบาลเพื่อไทย

และเมื่อมาปูด เงิน 250ล้าน ชื่อของ "ประชัย เลี่ยวไพรัตน์ " นั้นอยู่ในแถวต้นๆของขบวนการโค่นนายใหญ่ ซึ่งก็ไปสัมพันธุ์กับ "ชมรมคนรู้ ทันทักษิณ" ที่รวมดาวดังคับคั่ง จาก "หนังสือ 10 คนโค่นทักษิณ" ระบุว่าประกอบด้วย เอกยุทธ อัญชันบุตร ประสงค์ สุ่นศิริ อัมรินทร์ คอมันตร์ ประพันธ์ คูณมี สุลักษณ์ ศิวรักษ์ สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง สุภิญญา กลางณรงค์ เจริญศักดิ์ เที่ยงธรรม และ "ประชัย เลี่ยวไพ รัตน์ " ซึ่งหลายคนในนี้ก็โดดขึ้นเวทีกลุ่มพันธมิตรทั้งภาคแรกและภาค2

บทบาทของ"ประชัย "กับพันธมิตรนั้นเด่นชัดมากในภาคแรก (2548-2549) ว่ากันว่านอกจากสนับสนุนเรื่องกระสุนดินดำแล้ว เรื่องกองกำลัง มวลชนระยะแรกก็มาจากสระบุรี(ถิ่นปูนทีพีไอ)อีกด้วย (นายใหญ่เคยบอกว่าประชัย คือกระเป๋าเงินที่สนธิ ใช้จัดการชุมนุมและจ่ายเงินแก่ผู้ ร่วมชุมนุม) และต่อยอดด้วยการเปิดวิทยุชุมชน 92.25 ที่เปิดฉากโจมตีเคียงคู่ไปกับ วิทยุชุมชน 97.75และเอเอสทีวีของเครือผู้จัดการ ซึ่งในช่วง นั้น "สนธิ ลิ้ม" เคยแก้ต่างและช่วยประชัยทวงทีพีไอและสดุดี ชื่นชมประชัย ในช่องเอเอสทีวีบ่อยครั้ง พร้อมๆกับการที่เอเอสทีวีมี สปอนเซอร์หลักๆคือปูนทีพีไอ

ในส่วนของฟากนักการเมือง"ประชัย "ว่ากันว่าแนบแน่นกับคนประชาธิปัตย์ยิ่งนักโดยเฉพาะ"เทพเทือก"...(วันที่ 24 ธ.ค.2551ประชัย เดิน ทางมามอบดอกไม้แสดงความยินดีแด่สุเทพ ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ ที่ทำเนียบรัฐบาล )เช่นเดียวกับในสายทหาร "เพื่อนประชัย" ก็มาก มายไม่ว่าจะเป็น พล.ท.เจริญศักดิ์ พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ฯลฯ

หลังจากโค่นนายใหญ่ลงแล้ว "ประชัย "หลงลมปากนักเลงสุโขทัย"สมศักดิ์ เทพสิทิน" ตั้งพรรคมัชฌิมาธิปไตย หวังว่า หลังเลือกตั้ง ประชาธิ ปัตยได้เป็นรัฐบาลแน่ ตัวเองต้องซิวขุนคลังชัวร์ แต่ทว่าผลการเลือกตั้งพลิกล็อก"ประชัย "ก็หายหน้าไปจากสนามการเมืองท่ามกลางข่าวลือ ความบาดหมางกับพันธมิตร แต่ในสงครามรอบ2 ถ้าจับโทนของวิทยุชุมชน 92.25 ได้จะพบว่ายังเชียร์พันธมิตร อย่างสุดลิ่มเช่นเดิม



ต่อมาเมื่อพลิกขั้วประชาธิปัตย์ครองเมือง ฝ่ายค้านจึงสาดกระสุน(เงิน 250ล้าน) จึงเจาะประชาธิปัตย์ พุ่งทะลุไปยัง ทีพีไอ โยงไปสู่งบลับกอง ทัพ 2000ล้าน(บล๊อกเสื้อแดง) แต่ส่งประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล แล้วมาเอื้ออาทรกับกลุ่มพันธมิตร (ความสัมพันธุ์ระหว่างพันธมิตรกับประชาธิ ปัตย์ ก็ปรากฎร่องรอยทั้งภาพสนธิถ่ายรูปคู่อภิสิทธิ์ หรือมีคนประชาธิปัตย์ไปเป็นแบ็คให้หลังเวทีพันธมิตร ยิ่งล่าสุดงานศพ “ครูอารมณ์ มี ชัย”หนึ่งในพันธมิตรฯอภิสิทธิ์ก็ควง สาทิตย์ มาร่วมงานด้วย)

นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อไปยังกษิต ภิรมย์ คนพันธมิตรอีก และที่สำคัญคือความล่าช้าในคดีพันธมิตร ยิ่งเฉพาะคดียึดสนามบิน ( พล.ต.ต.ดำริห์ โชตเศรษฐ์ รอง ผบช.น. ออกมาบอกว่าที่ล่าช้าเพราะมีการเมืองเข้ามาแทรกแซงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตลอดเวลา และพล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. ได้ลาออกจากการเป็นประธานคณะกรรมการสืบสวนคดีกลุ่มพธม.ยึดสนามบินแล้ว-17 ก.พ.2552)

เรื่องยึดสนามบิน ก็จะเชื่อมไปยังการประชุมอาเซียนซัมมิต ปลายเดือน ก.พ. ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีคำถามจากประเทศสมาชิกที่เข้าร่วมประชุม ว่าจะดำเนินการอย่างไรกับผู้ที่ยึดสนามบิน (ก่อนหน้านี้ จักรภพตะเวนยื่นหนังสือต่อทูต9ประเทศค้านรัฐบาล) และบอกว่าจะขนคนไป ประท้วงด้วย ไม่เท่านั้นเชื่อได้ว่า เสื้อแดงก็จะนำมาขยายผลต่อในศึกอภิปรายอย่างแน่นอน

ที่ผ่านมาทางเสื้อแดงก็ดูจะขยับเขยื้อนขยันชิงพื้นที่สื่ออยู่ทุกวัน แม้กระทั่งเรื่องเหนือธรรมชาติ อย่างพล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผู้บัญชาการ ทหารสูงสุด ร่วมพิธีแก้กรรมให้นายใหญ่ (มีการเขียนรายชื่อศัตรูนายใหญ่ที่บางชื่อกลายเป็นประเด็น ) ก็กลายเป็นวิวาทะให้กล่าวขานกันทั่ว เมือง แต่บางเรื่องก็หมิ่นเหม่อย่างยิ่ง เหมือนเรื่องอ.ใจ กับแถลงการณ์"สยามแดง" ที่โดนวิพากษ์อย่างหนัก

ในทางกลับกัน-คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเชือดคนเสื้อแดง ขวัญชัย ไพรพนา-อุทัย แสนแก้ว ใน คดีทำร้ายเสื้อเหลืองที่หนองประจักษ์ และในวันที่ 23 ก.พ. ป.ป.ช. เตรียมประชุมสรุปผลสอบพยาน เพื่อตั้งข้อกล่าวหาผู้เกี่ยวข้องเหตุ 7 ตุลา เลือด คาดช่วง มี.ค.สามารถเปิดรายชื่อคนสั่งฆ่าประชาชนได้ ก่อนส่งอัยการฟ้องศาลได้

ทั้งนี้รัฐบาลที่ได้รับโอกาสอย่างมากมาย แต่เนื่องจากเป็นรัฐบาลที่มีต้นกำเนิดแบบไม่ธรรมดา จึงมีราคาที่ต้องจ่ายมาก และต้องตอบแทนกันไม่ สิ้นสุด ตรงนี้กลายเป็นตัวฉุดดึงรัฐบาลไม่ให้ทะยานไปข้างหน้า(แก้เศรษฐกิจอย่างเต็มที่ มัวพะวงเรื่องการเมือง) อีกทั้งสนิมคนกันเอง ที่จ้อง แทงกัน หรือพรรคเพื่อนเนวิน ที่พร้อมจะแปรเปลี่ยน นอกจากนี้ยังมีเรื่องทุจริตต่างๆ เรื่องม็อบเกษตร (ขาประจำ) และยังโดนลูกหนัก ๆอย่าง เงิน 250 ล้านอีก ก็น่าจะทำให้รัฐบาลนี้เหนื่อยไม่ใช่น้อย แต่จะกลายเป็นหมัดน็อคได้จริงอย่างสิงห์เหลิมโวหรือไม่ ต้องติดตาม...

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์